๑ บุปผชาติผลิช่อล้อลมแผ่ว ทั้งทิวแถวผุดผ่องก็ต้องไหว คลื่นเกสรลอยคว้างกลางพงไพร หอมดอกไม้ หมอกหนามากับลม... ๒ เป็นแรงใจเป็นกลิ่นหอมพร้อมความรัก เป็นแรงผลักเป็นพลังที่สั่งสม เป็นสายธารเย็นฉ่ำเป็นน้ำพรม เป็นคำคมสื่อทั่วทุกหัวใจ... ๓ แม้เธออยู่แสนไกลในวันนี้ รู้ไว้เถิดว่ายังมีโลกสีใส ณ ลานกว้างชายคาคำว่าไท พร้อมจะให้ความสุขเธอทุกวัน ๔ ขอเพียงเธอหยิบยื่นผู้อื่นต่อ ย่อมถักทอยิ่งใหญ่เต็มใจฝัน มิตรภาพที่แท้มีแด่กัน สร้างโลกอันหมดจดแลงดงาม ๕ ความลี้ลับแห่งราตรีที่แสงเผย เปลี่ยนความเคยอุปโลกโลกต้องห้าม กลางทุ่งดอกไม้บานวิกาลยาม แท้ซ่อนความละมุนสุนทรีย์ ๖. เพียงเทียนน้อยกระจ้อยร่อยกระจิริด ต่อไปติดเทียนนับหมื่นคลื่นแสงสี เปิดปมปริศนาแห่งราตรี เถอะต้องมีวันหนึ่ง...ต้องถึงวัน...
14 กรกฎาคม 2552 16:04 น. - comment id 1014311
ชมทุ่งดวงดอกไม้หอมแห่งจอมขวัญ ทุ่งพร้อมสรรค์โลกสีใสคล้ายดั่งฝัน หอมละมุนอุ่นละไมมอบให้กัน คืนคืนฝันแห่งทุ่งบานลานดอกไม้...
14 กรกฎาคม 2552 23:55 น. - comment id 1014509
บทกลอนดีค่ะ ทุ่งดอกไม้บานยามค่ำคืน
15 กรกฎาคม 2552 09:00 น. - comment id 1014564
เข้ามาชมความงดงามครับ เขียนบทกลอนได้งามทุกบทครับ ทุ่งดอกหงอนนาค ที่ภูสอยดาวนั้น งดงามพอพอกับกลอนบทนี้ครับ
15 กรกฎาคม 2552 21:51 น. - comment id 1015005
ช่างลึกซึ้งเหลือเกิน ทั้งงดงามในบทกลอนและลึกล้ำในความหมาย ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ
16 กรกฎาคม 2552 09:39 น. - comment id 1015117
ประดุจแสงหิ่งห้อยถึงจะหริบหรี่แต่ก็พอมีหวัง ทุ่งดอกไม้ เมื่อความแห้งแล้งมาเยือน ดอกไม้ก็โรยรา แต่พอสายฝยโปรยปรายลงมาก็กับฟื้นคืนสู่โลก เพียงไม่หมดหวังทุกอย่างย่อมกลับมาสวยงาม สวัสดีค่ะ ฐปนวุธ เขียนงานได้งามหนัก แวะมาเยือนเพื่อนอักษร โชคดีมีแต่ความสุขค่ะ