น้ำกกเอื่อยเรื่อยไหลในม่านฝน ช่างขุ่นข้นปนเปื้อนเหมือนใจฉัน ปัญหาสุมรุมรุกทุกคืนวัน มองฝั่งฝันพลันหายคล้ายไม่มี กกกล้ำกลืนฝืนใจบ้างไหมหนอ ยามทดท้อขอพ่ายยอมหน่ายหนี เพียงตัวฉันหวั่นไหวในชีวี ทุกนาทีมีแต่พ่ายแพ้ใจ สายฝนหลั่งพรั่งพรูลงสู่กก ราวเม็ดหยกตกหล่นบนแก้วใส ต้องร้าวแตกแหลกลาญทั้งบานใบ ดั่งปวดใจในคราวรักเศร้าตรม แม่กกเอ๋ย เคยใสไม่ขุ่นข้น กลับถูกคนก่นป่าไหลมาถม แม่สะอื้นฝืนใจในโคลนตม ร้าวระบมขมขื่นทุกคืนวัน หัวใจเอ๋ย เคยอุ่นละมุนหวาน กลับซมซานด้านชาไล่ล่าฝัน ดั่งลงน้ำดำหาหมายคว้าจันทร์ จนหนาวสั่นพลันล้มลงจมธาร น้ำกกเอื่อยเรื่อยไหลในม่านฝน ฝากใจหม่นคนหมองล่องสนาน ลบความหลังครั้งท้อทรมาน ให้สราญซ่านใสไม่ระทม ฝากฝัน ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒
![]()
13 กรกฎาคม 2552 09:44 น. - comment id 1013574
กก ครวญชวนชอกช้ำ.......บ่งนัย....บอกเฮย ชนย่ำก่อสร้างภัย..................แม่แล้ว กก ต้นแห่งน้ำใส...............มาขุ่น คงยากเยียวยาแผ้ว......ผ่องเนื้อ..สีเดิม ...อรุณสวัสดิ์ครับพี่ชาย...กลอนงดงาม..ปนเศร้าจังครับ..ระวังไข้หวัดด้วยนะครับ
13 กรกฎาคม 2552 09:53 น. - comment id 1013580
กำลังคิดถึง คุณน้าฝากฝัน อยู่พอดี ไม่เจอหลายวันแล้วก็เป็นห่วงครับ กลัวติดไข้หวัด อิอิ (เหมือนมาแช่ง) ผมชอบอ่าน งาน คุณน้า ฝากฝันและคุณน้า คนกุลา ครับ เป็นอะไรที่ผมชอบมากเลยทีเดียว อีกอย่าง คุณน้า ทั้งสอง ก็คอยแนะนำในสิ่งที่ผมผิดพลาด ผมจึงรำลึกนึกถึงพระคุณในการชี้แนะตลอดมา หากทว่า ผมเองเรียกได้ว่า ไม่เอาอ่าวเอง ฝีมือไม่พัฒนา ให้แต่งยังไงก็ไปเเนวเดิม โอ้ละหนอ....ข้าน้อย ขอยอมรับผิดทุกประการ คิดถึงแม่น้ำแล้ว ผมก็เป็นคนหนึ่งครับ ที่ไม่ชอบเอาเสียเลย น้ำที่เคยสดใส ไหลเย็น เห็น ปู ปลา เต่า จะต้องแห้งขอด ขุ่นมัว เป็นอะไรที่ผม ไม่ชอบนิสัยคนไทย ก้ตรงนี้แหละ ไม่รู้ทำไม ไม่คิดอนุรักษ์ปรับสภาพ ธรรมชาติให้งดงามเหมือนเดิม เวลาผมกลับบ้าน แล้วเห็นแม่น้ำที่เคย ใส่ตาข่าย เคยหาปลา เคยพายเรือ (เรือ ไม่มีแล้ว ตอนนี้) เป็นเวลาที่ผมเสียดาย ที่ต้องเจอสภาพ แม่น้ำตื้นเพียงหัวเข่า ผมเคยคุยกะพ่อว่า ถ้าชาวบ้านออกเงินกัน หรือร่วมแรงร่วมใจกัน พัฒนาแม่น้ำ ที่ใช้ อาบ หาปลา และรดน้ำผัก รวมถึง ใช้ในการทำไร่ ทำนา แล้วต่อไป ก็จะยังคงมีอีก หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่ม อบต. ใช้งบ 1 ล้านในการพัฒนา เห้อออ พัฒนา ได้แค่ขอบ ไม่ได้ ขุดเอาดินที่ทับถมออกไป ก็ไม่ต่างอะไรมาก แถมกอไผ่ หลายชนิดที่ปลูกไว้ ต้องเสียหาย ผมล่ะใจหายเลย ตอนนั้น นึกอยากจะด่า พวกนี้จริงๆ ถ้าเจอตัว.... มาร่วมเป็น ป่ารักน้ำ ด้วยคน ครับ
13 กรกฎาคม 2552 09:58 น. - comment id 1013582
เคยไปเชียงราย นานแล้วค่ะ ตอนที่ไป กก ก็ไม่ค่อยมีน้ำค่ะพี่ชาย เห้นเด็กกระโดดเล่นสองสามคน น้องยังกลัวอยู่เลยว่า หัวเด็กจะโหม่งพื้นดินหรือเปล่า เพราะน้ำมีไม่เยอะค่ะ แล้วพี่ชายไปนั่งเศร้าทำไมที่โน่นคะ อิ
13 กรกฎาคม 2552 10:05 น. - comment id 1013590
มหัศจรรย์ใจค่ะ กำลังคิดถึงคุณฝากฝัน เพราะรจนากลอนฝันฝันฝัน และ.. ถามตัวเองนะ ว่าทำไมพุดไม่ค่อยมีเวลามาฝากฝัน ฝากใจในงานอันแสนสุนทรีย์ และ.. เช่นกัน...ก็คิดว่าคุณฝากฝันก็ไม่ค่อย มาเยือนเรือนโบราณเช่นกันอิอิ แล้ว... ทันใดนั้นก็เห็นมายืนยิ้มนิมเรือนไทย เรือนใจพุดไพรค่ะ และ... พุดก็กำลังตั้งใจมานั่งเคียงข้าง ชี้ชวนดูสายน้ำไหล พร้อมฟังเพลงประโลมใจค่ะ ชวนน้องกวีน้อยมานั่งด้วยนะคะ เค้าน่ารักมากมายค่ะ พุดชอบอ่านน้ำค้างคำน้องชาย ที่มีดวงใจใสซื่อ และ สื่อถึงวิถีใจวิถีไทยดิบเดิมที่เค้าเคย เป็นมาอย่างรู้ค่าชีวีค่ะ ขอบคุณนะคะ และ กับสายน้ำกก ที่วกวนไหลไปไหลไป ไม่หวนคืนค่ะ ดั่งสายน้ำรักนิรันดร์ พุดขอพลีกำนัลด้วยบทเพลงนี้นะคะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6423.html แม่สอดสะอื้น โอโอ๊ ฮะโอฮะโอฮะโอเอย โอยแม่สอดสะอื้น ระทมขมขื่น เจ้ายืนอ้างว้างกลางพนา เห็น ทิวเขาเบียดเสียดฟ้า เหมือนว่า ม่านฟ้าป่าเขาสูงบัง โอยแม่สอดแสนเศร้า เหมือนข้าซบเซา ถูกเขาทอดทิ้ง รำพัน รัก เอยรักที่เคยหวัง เขาชัง จากไปเหมือนไม่มีเยื่อใย ธาร น้ำเมย ไหลเลยไหลเลย ทิ้งถิ่นแดนไทย ธาร รักเอย ไหลเลยพ้นแผ่นแดนใจ ปล่อยข้าไว้ให้ช้ำกล้ำกลืน โอยแม่สอดสาวเอย ซบลำน้ำเมย กอดเกยปลอบขวัญวันคืน โถ ทรวงช้ำข้าจำฝืน ขมขื่น จะซบสะอื้นกับอ้อมอกใคร ธาร น้ำเมย ไหลเลยไหลเลย ทิ้งถิ่นแดนไทย ธาร รักเอย ไหลเลยพ้นแผ่นแดนใจ ปล่อยข้าไว้ให้ช้ำกล้ำกลืน โอยแม่สอดสาวเอย ซบลำน้ำเมย กอดเกยปลอบขวัญวันคืน โถ ทรวงช้ำข้าจำฝืน ขมขื่น จะซบสะอื้นกับอ้อมอกใคร...
13 กรกฎาคม 2552 10:15 น. - comment id 1013593
สายน้ำย่อมไหลไม่หวนกลับ ไหลผ่านลับลอยไปดั่งน้ำกก ถึงสะอื้นขุ่นมัวที่พานพบ งั้นจะลบออกจากใจได้อย่างไร ให้หันมองน้ำวังใสสะอาด มวลบุพชาดเรียงรายสายน้ำไหล เสียงนกป่าร้องจิ๊บรี่บินไกล ให้ผ่านไปอย่าท้อทรมาร...สวัสดีค่ะ เวลาเหงานั่งมองสายน้ำที่ไหล ผ่านไป ก็มีความสุขสดชื่นนะคะ...
13 กรกฎาคม 2552 23:31 น. - comment id 1013604
ต้นกกไกวไหวแกว่งตามแรงกราด กก องอาจมาดสู้กระแสสวน ถูกน้ำกกปรกปราดให้แปรปรวน ยังสู้ทวนยวนยั่วไม่กลัวเลย ลำน้ำกกหกเหไหลเทต่ำ คล้ายความช้ำย่ำแย่ดวงแดเอ๋ย ลดลาดไหลลงแล้วแก้วใจเอย ความรักเคยเผยข้างกลับวางคลาย ร่วมแจมครับ
13 กรกฎาคม 2552 12:25 น. - comment id 1013676
สวัสดีค่ะคุณลุง ไพเราะเหมือนเดิม ด้วยรัก จาก หลานสาว
13 กรกฎาคม 2552 13:28 น. - comment id 1013689
อยากสะอื้นเหมือนแม่กกจังครับ กลอนงดงาม อารมณ์ ละเมียดละไมดีจัง สบายดีนะครับ ดูแลสุขภาพด้วยครับ
13 กรกฎาคม 2552 13:39 น. - comment id 1013695
มาสะอื้นเป็นเพื่อนแม่กกค่ะ
13 กรกฎาคม 2552 14:17 น. - comment id 1013746
สะอื้นกลางสายฝนคงไม่มีใครเห็นน้ำตาใช่ไหมค่ะ...
13 กรกฎาคม 2552 14:26 น. - comment id 1013762
กิ่งโศก ความคิดเห็นที่ 1 : หมายเลข 1026844 กก ครวญชวนชอกช้ำ.......บ่งนัย....บอกเฮย ชนย่ำก่อสร้างภัย..................แม่แล้ว กก ต้นแห่งน้ำใส...............มาขุ่น คงยากเยียวยาแผ้ว......ผ่องเนื้อ..สีเดิม ...อรุณสวัสดิ์ครับพี่ชาย...กลอนงดงาม..ปนเศร้าจังครับ..ระวังไข้หวัดด้วยนะครับ """""""""""""""""" อิอิ..สงสัยพี่ต้องสายันต์สวัสดิ์ ตอบแล้วหล่ะครับ เช้ามายุ่งโน้นยุ่งนี้..ไม่ว่างสักที เป็นบรรยากาศที่พี่ไปติดฝน ทานอาหารอยู่ที่แม่กก..ตอนเย็นๆ เพื่อรอขึ้นเครื่อง หัวค่ำ ได้บรรยากาศมาก...เลยเก็บมาเขียน
13 กรกฎาคม 2552 14:33 น. - comment id 1013772
... กวีน้อยเจ้าสำราญครับ ความคิดเห็นที่ 2 : หมายเลข 1026850 กำลังคิดถึง คุณน้าฝากฝัน อยู่พอดี ไม่เจอหลายวันแล้วก็เป็นห่วง ครับ กลัวติดไข้หวัด อิอิ (เหมือน มาแช่ง) ผมชอบอ่าน งาน คุณน้า ฝากฝัน และคุณน้า คนกุลา ครับ เป็น อะไรที่ผมชอบมากเลยทีเดียว อีกอย่าง คุณน้า ทั้งสอง ก็คอย แนะนำในสิ่งที่ผมผิดพลาด ผม จึงรำลึกนึกถึงพระคุณในการชี้ แนะตลอดมา หากทว่า ผมเอง เรียกได้ว่า ไม่เอาอ่าวเอง ฝีมือ ไม่พัฒนา ให้แต่งยังไงก็ไปเเนว เดิม โอ้ละหนอ....ข้าน้อย ขอ ยอมรับผิดทุกประการ คิดถึงแม่น้ำแล้ว ผมก็เป็นคนหนึ่ง ครับ ที่ไม่ชอบเอาเสียเลย น้ำที่ เคยสดใส ไหลเย็น เห็น ปู ปลา เต่า จะต้องแห้งขอด ขุ่นมัว เป็น อะไรที่ผม ไม่ชอบนิสัยคนไทย ก้ตรงนี้แหละ ไม่รู้ทำไม ไม่คิด อนุรักษ์ปรับสภาพ ธรรมชาติให้ งดงามเหมือนเดิม เวลาผมกลับบ้าน แล้วเห็นแม่น้ำ ที่เคย ใส่ตาข่าย เคยหาปลา เคย พายเรือ (เรือ ไม่มีแล้ว ตอนนี้) เป็นเวลาที่ผมเสียดาย ที่ต้องเจอ สภาพ แม่น้ำตื้นเพียงหัวเข่า ผมเคยคุยกะพ่อว่า ถ้าชาว บ้านออกเงินกัน หรือร่วมแรงร่วม ใจกัน พัฒนาแม่น้ำ ที่ใช้ อาบ หาปลา และรดน้ำผัก รวมถึง ใช้ ในการทำไร่ ทำนา แล้วต่อไป ก็จะยังคงมีอีก หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่ม อบต. ใช้งบ 1 ล้านในการพัฒนา เห้ออ อ พัฒนา ได้แค่ขอบ ไม่ได้ ขุด เอาดินที่ทับถมออกไป ก็ไม่ต่าง อะไรมาก แถมกอไผ่ หลายชนิด ที่ปลูกไว้ ต้องเสียหาย ผมล่ะใจ หายเลย ตอนนั้น นึกอยากจะ ด่า พวกนี้จริงๆ ถ้าเจอตัว.... มาร่วมเป็น ป่ารักน้ำ ด้วยคน ครับ ........................ การลอกคลองหรือแม่น้ำด้วย เครื่องจักสมัยใหม่ได้ทำลายป่าที่ วางไข่ของปลาไปอย่างน่า เสียดาย ในขณะเดียวกันการ สร้างฝายน้ำล้นหรือฝายถาวรอื่นๆ ก็ทำให้สายน้ำตื้อเขิน..ยังไม่นับ ชาวบ้านที่ไถไร่ตามภูเขา หรือที่ สูง..ทำให้มีการชะตะกอนดินเต็ม แม่น้ำเลย..จนตื้นอย่างรวดเร็ว ผมเขียนกลอนนี้ที่ร้านอาหารริม น้ำกกได้สองบทครับ แล้วเก็บบรรยากาศมาเขียนต่อที่บ้าน จนจบ..ใช่เวลาอาทิตย์หนึ่งพอดี คือเขียนเรื่อยๆ.ไม่มีอารมณ์กลอน ก็หยุดเขียนก่อน...มีอารมณ์ค่อย เขียนใหม่ ไม่รีบร้อนครับ ขอให้คุณมีความสุขนะครับ
13 กรกฎาคม 2552 14:37 น. - comment id 1013779
...แก้วประภัสสร ความคิดเห็นที่ 3 : หมายเลข 1026852 เคยไปเชียงราย นานแล้วค่ะ ตอนที่ไป กก ก็ไม่ค่อยมีน้ำค่ะพี่ชาย เห้นเด็กกระโดดเล่นสองสามคน น้องยังกลัวอยู่เลยว่า หัวเด็กจะโหม่งพื้นดินหรือเปล่า เพราะน้ำมีไม่เยอะค่ะ แล้วพี่ชายไปนั่งเศร้าทำไมที่ โน่นคะ อิ .............................. พี่มาทำงาน แล้วแวะทานอาหารเย็น ใกล้ค่ำ..ฝนตก.บรรยากาศหมองๆ ยื่งร้านเปิดเพลงเศร้าของจรัญ มโนเพชร. อารมณ์กลอนก็บังเกิด..ฮ่าๆ นั่งร่ายได้สองบท แล้วเอามาแต่งต่อ...เท่านั้นเอง...แต่เสียดายน้ำที่ไหนผ่านเมือง..สกปรกมาก
13 กรกฎาคม 2552 14:40 น. - comment id 1013785
..พุดพัดชา. ธาร น้ำเมย ไหลเลยไหลเลย ทิ้งถิ่นแดนไทย ธาร รักเอย ไหลเลยพ้นแผ่นแดนใจ ปล่อยข้าไว้ให้ช้ำกล้ำกลืน โอยแม่สอดสาวเอย ซบลำน้ำเมย กอดเกยปลอบขวัญวันคืน โถ ทรวงช้ำข้าจำฝืน ขมขื่น จะซบสะอื้นกับอ้อมอกใคร... ......................... ขอบคุณมากครับพี่ พี่สบายดีนะครับ สายน้ำเป็นดั่งชีวิต น้ำใจเป็นดั่งน้ำทิพย์ เพื่อให้ชีวิต เจิดตระการ หลายเรื่องราวจากสายน้ำ สร้างนิทานหลายหลากยิ่ง แม่น้ำกำลังจะตาย คนกำลังอ่อนล้า ใครเล่าช่วยได้
13 กรกฎาคม 2552 14:43 น. - comment id 1013788
แม่กกรินสิ้นสายที่ปลายฝัน ในเบาจันทร์ฝันรางรักจางขม วันฝนปรอยลอยเมฆเฉกชวนชม ทิ้งโศกตรมตรอมมลายให้กกเทอญ ..................... กลอนเพราะเหมือนเดิม ครับ แต่หวานปน เศร้านะครับ ขอให้ผ่านไปได้นะครับ
13 กรกฎาคม 2552 14:44 น. - comment id 1013790
....นกยูง ความคิดเห็นที่ 5 : หมายเลข 1026874 สายน้ำย่อมไหลไม่หวนกลับ ไหลผ่านลับลอยไปดั่งน้ำกก ถึงสะอื้นขุ่นมัวที่พานพบ งั้นจะลบออกจากใจได้อย่างไร ให้หันมองน้ำวังใสสะอาด มวลบุพชาดเรียงรายสายน้ำไหล เสียงนกป่าร้องจิ๊บรี่บินไกล ให้ผ่านไปอย่าท้อทรมาร... สวัสดีค่ะ เวลาเหงานั่งมองสายน้ำที่ไหล ผ่านไป ก็มีความสุขสดชื่นนะคะ... ................................. สายน้ำไหลใจคนไม่วนกลับ ดั่งลาลับวับหายคล้ายไม่เห็น ทิ้งรอยช้ำตำตาแทบกระเด็น สิ่งที่เป็นเช่นนี้ที่ทิ่มใจ พี่มีความสุขนะครับ
13 กรกฎาคม 2552 14:45 น. - comment id 1013792
... ใจปลายทาง ความคิดเห็นที่ 6 : หมายเลข 1026936 สวัสดีค่ะคุณลุง ไพเราะเหมือนเดิม ด้วยรัก จาก หลานสาว ............................ ขอบคุณมากจ้า..สบายดีนะครับ
13 กรกฎาคม 2552 14:45 น. - comment id 1013793
แม่กกรินสิ้นสายที่ปลายฝัน ในเบาจันทร์ฝันรางรักจางขม วันฝนปรอยลอยเมฆเฉกชวนชม ทิ้งโศกตรมตรอมมลายให้กกเทอญ ..................... กลอนเพราะเหมือนเดิม ครับ แต่หวานปน เศร้านะครับ ขอให้ผ่านไปได้นะครับ
13 กรกฎาคม 2552 14:47 น. - comment id 1013796
...ไร้อันดับ ความคิดเห็นที่ 7 : หมายเลข 1026949 อยากสะอื้นเหมือนแม่กกจังครับ กลอนงดงาม อารมณ์ ละเมียดละไมดีจัง สบายดีนะครับ ดูแลสุขภาพด้วยครับ ........................... ขอบคุณครับ ที่แวะมาเยี่ยมเยือน บรรยากาศ วันนั้นมันเอื้อครับ..หงอยๆซึมเซา
13 กรกฎาคม 2552 14:48 น. - comment id 1013798
... เพียงพลิ้ว ความคิดเห็นที่ 8 : หมายเลข 1026955 มาสะอื้นเป็นเพื่อนแม่กกค่ะ ................................. อิอิ.ร้อง.เป็นเพื่อนฝากฝันเถอะ แม่กกร้องมานานแล้ว..
13 กรกฎาคม 2552 14:49 น. - comment id 1013799
....whitelily ความคิดเห็นที่ 9 : หมายเลข 1027006 สะอื้นกลางสายฝนคงไม่มีใครเห็นน้ำตาใช่ไหมค่ะ... ................................ แต่ฝากฝันนั่งมองสายฝนอย่างเดียว แล้ก็ดื่มด่ำบรรยากาศครับ ขอบคุณมะครับที่แวะมาเยี่ยมเยือน
13 กรกฎาคม 2552 14:52 น. - comment id 1013803
"""คนกุลา ความคิดเห็นที่ 17 : หมายเลข 1027053 แม่กกรินสิ้นสายที่ปลายฝัน ในเบาจันทร์ฝันรางรักจางขม วันฝนปรอยลอยเมฆเฉกชวนชม ทิ้งโศกตรมตรอมมลายให้กกเทอญ ..................... กลอนเพราะเหมือนเดิม ครับ แต่หวานปน เศร้านะครับ ขอให้ผ่านไปได้นะครับ """""""""""""""""""" บรรยากาศพาไปครับ มันสลัวมัวเศร้า..จนซึมเลยครับ
13 กรกฎาคม 2552 15:01 น. - comment id 1013807
นอกจากกลอนไพเราะแล้ว เสียงดนตรี ยังเพราะจับใจ
13 กรกฎาคม 2552 16:37 น. - comment id 1013858
กลอนเข้าบรรยากาศหน้าฝนเลยครับ *--*
13 กรกฎาคม 2552 16:36 น. - comment id 1013869
กลอนเพราะ อารมณ์พริ้วค่ะ..
13 กรกฎาคม 2552 16:48 น. - comment id 1013872
เศร้าอีกตามเคย น้ำตาท่วมแม่กก
13 กรกฎาคม 2552 17:14 น. - comment id 1013881
หวานและเพราะนะคับ
13 กรกฎาคม 2552 19:47 น. - comment id 1013944
มีสักครั้งไหมที่น้องชายสุดหล่อของพี่เขียนบทกลอนไม่ไพเราะ สมแล้วที่เป็นชาวเมืองคอนฯ ซึ่งเป็นแหล่งรวมสุดยอดกวี ดูข่าวแล้วก็สลดใจเหมือนกันนะคะ
13 กรกฎาคม 2552 21:04 น. - comment id 1013969
ตามพี่สาวที่รัก..มาอ่ากลอนคนหล่อ ประจำบ้านกลอน..เจ้าค่ะ... อะไรจะเศร้าปานนั้นนะลุง..
13 กรกฎาคม 2552 21:17 น. - comment id 1013980
** น้ำกกเอื่อยเรื่อยไหลในม่านฝน ใยทุกข์ทนหมองไหม้ให้สงสาร กำลังใจส่งไปในทุกกาล แม้นเนิ่นนานมิ่งมิตรนิจนิรันดร์.....ฯ ..กลอนหวานปนเศร้านะคะ..อ่านแล้ว..มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ.....
13 กรกฎาคม 2552 22:25 น. - comment id 1014011
มากับคุณครูพิมครับผม
13 กรกฎาคม 2552 23:09 น. - comment id 1014034
สายฝนหลั่งพรั่งพรูลงสู่กก ราวเม็ดหยกตกหล่นบนแก้วใส ต้องร้าวแตกแหลกลาญทั้งบานใบ ดั่งปวดใจในคราวรักเศร้าตรม ........................................... กับอดีตกรีดฝังยังจำได้ ดวงใจร้าวหนาวนักรักขื่นขม รอยแผลเก่าเขาทิ้งยิ่งระทม ต้องซานซมจมดิ่งทิ้งหัวใจ
14 กรกฎาคม 2552 02:25 น. - comment id 1014052
14 กรกฎาคม 2552 11:43 น. - comment id 1014169
สายธารแม่กก อุทกไหลล้น น้ำแดงขุ่นข้น เพราะคนโลภหลาย โลกร้อนแรงเร่า ตัดเผาทำลาย ป่าเขาเสียหาย ภัยร้ายลุกลาม คนเอ๋ยคนหนอ พอไหมขอถาม หยุดการคุกคาม โลกงามเสียที หรือจักรอจน ทุกข์ทนป่นปี้ แล้งไร้ชีวี ไม่มีแผ่นดิน
14 กรกฎาคม 2552 13:46 น. - comment id 1014222
หลายปีแล้วที่ผมเคยได้ไปใช้ชีวิตเป้นครูบ้านนอก ริมกก คือสวรรค์ยามว่างครับ เชียงราย รำลึก คือบทเพลงที่ยังประหวัดอยู่ในความทรงจำมิคลอนคลาย พี่หลวงฝากฝัน จารบทกวีมาให้ความรู้สึกเหล่านั้นหวานชื่นขึ้นมาอีกครั้งครับ
14 กรกฎาคม 2552 15:36 น. - comment id 1014286
ป่าไม้คือต้นน้ำแห่งชีวิต ไม่ได้ไปเที่ยวเชียงรายนานแระ คงต้องหาโอกาสไปเยือนบ้าง
24 กรกฎาคม 2555 10:47 น. - comment id 1239521
ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญนะครับ จาก