ชมนกเมืองสุพรรณ (4)

นกตะวัน

หันหลังกลับมองไปใคร่อยากรู้
ใยจู่จู่จึงมีผู้มาสังสรรค์
เพราะตอนนี้ผมอยู่ในสุพรรณ
ผู้ใดกันมาแซวนั้นอยากรู้จริง
โธ่ที่แท้ก็เป็นท่านอาจารย์
ชื่อกล่าวขานไพเราะเสนาะยิ่ง
นามบุบผาอ่ำเกตวิเศษจริง
ป่าไม้หญิงคนรู้จักเข้าทักทาย
แล้วอาจารย์บอกว่ามาวันนี้
ช่างโชคดีเพราะมีเรื่องยังไม่สาย
อยากให้นับนกน้ำที่เรียงราย
ส่งเข้าฝ่ายข้อมูลไว้เพื่อใช้กัน
ผมรับฟังแล้วไปนั่งสั่งก๋วยจั๊บ
แล้วกำชับรีบเอามาอย่าเหหัน
ชักตาลายเพราะหิวข้าวมาทั้งวัน
กินเสร็จพลันจึงสั่งต่อขอผัดไทย
ก๋วยจั๊บนั่นผัดไทยนี่มีรสเลิศ
แสนประเสริฐอร่อยจริงสิ่งยิ่งใหญ่
จนอยากชวนใครใครให้แวะไป
กินก๋วยจั๊บผัดไทยในสุพรรณ
พออิ่มหนำสำราญสราญจิต
บอยสะกิดไปดูปลาน่าใฝ่ฝัน
วุธจึงรี่ขับรถไปในฉับพลัน
ไม่ช้านั้นก็มาถึงซึ่งวัดแล้ว
วัดแห่งนี้มีชื่อวัดพระนอน
สร้างมาก่อนเมืองสุพรรณนั้นแน่แน่ว
คู่กันมาอยุธยาเมืองเก่าแล้ว
ไม่คลาดแคล้วได้ดูปลาคงน่าชม
แล้วจึงเดินเพลินใจไปท่าน้ำ
ช่างใหญ่ล้ำแพชมปลาพาสุขสม
เห็นชายหญิงมากมายเรียงรายชม
นึกนิยมชาวไทยช่างใฝ่ดี
ผมจึงซื้ออาหารปลามาเลี้ยงบ้าง
โปรยตามอย่างคนไทยใกล้ใกล้นี่
บอยก็โปรยวุธก็โรยสุขสันต์ดี
แถมยังมีความสนุกสุขเกินใคร
ปลาที่เห็นนั้นเป็นปลาสวาย
เที่ยวเวียนว่ายพันพัวตัวโตใหญ่
แต่บางตัวที่ว่ายมาอยู่ไม่ไกล
นั้นไม่ใช่ปลาอะไรปลาเทโพ
ปลาตัวนี้มีแต้มช้ำจุดดำใหญ่
อยู่ใกล้ใกล้กับครีบหูเหมือนรูโบ๋
ว่ายเวียนก่ายกับสวายไม่อดโซ
ตัวไม่โตเล็กกว่ากันถ้าทันมอง
แต่ใกล้ใกล้แพนั้นผมพลันเห็น
สีทองเน้นให้เห็นไม่มีหมอง
เป็นฝูงปลาว่ายเวียนตะเพียนทอง
เหลืองเรืองรองแต่ครีบแดงแต่งสีดี
บางฝูงมีกระแหปนสับสนบ้าง
ว่ายระหว่างตะเพียนทองแต่หมองสี
ด้วยเกล็ดนั้นเหลืองนิดหน่อยไม่ค่อยมี
ไม่สวยสีอย่างเพียนทองหมองกว่ากัน
สักครู่หนึ่งเราอ้อมมาริมท่าบ้าง
เพราะระหว่างทางเดินนี้ที่รั้วกั้น
มีเก้าอี้เรียงรายไว้นั่งกัน
แล้วผมนั้นก็เมื่อยเหนื่อยเต็มที