๑.เจ้าเด็กน้อยหน้ากลมเหมือนอมยิ้ม เล่านิ่มนิ่มเสียงดังพอฟังว่า แม่ไม่รู้อยู่ที่ใดใครชักพา พ่อก็มาสิ้นใจไปหลายปี ยายเก็บไปเลี้ยงไว้ได้ฟูมฟัก เวทนายิ่งนักตระหนักที่ เป็นกำพร้าที่ใครไม่อารี ยายคนดีรับเลี้ยงไม่เกี่ยงงอน เมื่อไม่นานยายชรามาลาจาก บ้านที่ฝากจำนองไว้เกินไถ่ถอน เขามายึดคืนไปให้อาวรณ์ ไร้ที่นอนจรจากมาตรากตรำ จะขอมาอยู่อาศัยในวัดนี้ หวังเป็นที่หลับนอนในตอนค่ำ ขอหลวงตารับไว้อย่าใจดำ จะช่วยทำทุกอย่างอย่างตั้งใจ ๒.หลวงตาละสายตามาหยุดนิ่ง ฟังทุกสิ่งคิดตามความเคลื่อนไหว ประสบการณ์ที่เห็นเคยเป็นไป อาจไม่ใช่เรื่องจริงสิ่งเล่ามา จึงหยิบเงินเป็นทานเจือจานให้ แต่ไม่ได้รับฝากดังปรารถนา เดินเข้าห้องสวดมนต์จนนิทรา วันเวลาผ่านไปได้สองวัน ๓.เสียงตะโกนโวยวายที่ท้ายวัด เด็กจรจัดจมน้ำตายชายน้ำนั่น แม่ค้าข้าวบอกเล่าเรื่องเศร้าพลัน ฉันเห็นมันมานอนตอนเมื่อคืน มาขอเงินที่ออกปากเคยฝากฉัน เพราะว่ามันถูกไถใช่ใครอื่น จากเด็กวัดที่โตกว่าเมื่อวานซืน มันมายืนซื้อขนมลูกอมไป แจกเด็กวัดที่ผ่านย่านแถวนี้ แล้วไปที่ริมท่าน่าสงสัย ต่อจากนั้นก็ไม่เห็นเป็นอย่างไร เช้าตกใจเมื่อพบศพของมัน ๔.หลวงตาฟังเรื่องทั้งหมดสลดยิ่ง หมาแมววิ่งจรจัดมีวัดกั้น เด็กจรจัดเพียงหนึ่งหวังพึ่งกัน กลับผลักดันมันไปไม่นำพา เจ้าเด็กน้อยหน้ากลมเหมือนอมยิ้ม ตาเจ้าพริ้มยิ้มรับกับใครหว่า เจ้าคงยิ้มเยาะเย้ยเหวย " ชะตา" หรือเจ้ายิ้มเยาะข้าว่า "จำเลย" -------------------- (ไร้อันดับ)
10 มกราคม 2552 15:12 น. - comment id 934520
เยี่ยมครับ
10 มกราคม 2552 15:21 น. - comment id 934521
น่าสงสารจังเลยนะคะ เรียบเรียงเรื่องเก่งจัง
10 มกราคม 2552 16:11 น. - comment id 934524
โธ่หลวงตาทำไมใจร้ายนัก ไม่ให้พักซ้ำร้ายไม่สงสาร นึกโมโหหลวงตานั้นฉันเลยพาล งดถวายอาหารดีเพราะมีเคือง จะบาปมั๊ยเนี่ย กลอนเพราะมากเลยเศร้าไม่แพ้กัน เยี่ยมค่ะ
10 มกราคม 2552 16:16 น. - comment id 934526
อ่านแล้ว สงสารเด็กจังค่ะพี่นักสืบ หากเรื่องเป็นเรื่งจริงที่เกิดขึ้นในวั้นนี้(วันเด็ก) คงจะทำให้ผู้ใหญ่สลดเลยละคะ
10 มกราคม 2552 16:49 น. - comment id 934532
คุณวาสุกรี ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กันครับ
10 มกราคม 2552 16:50 น. - comment id 934533
คุณประทีปดาว เรื่อง นี้อ่านมานานแล้วครับ แล้วก็อยากเขียนมานานแล้วเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับ กำลังใจครับ
10 มกราคม 2552 17:00 น. - comment id 934534
คุณพิมพรรณ หลวงตาไม่ใช่ไม่รับรู้ แต่เหตุการณ์กลับดูเหมือนไม่ใช่ จนพบว่าผิดพลาดจากคาดไว้ จะทดแทนอย่างไรทำไงดี หลวงตาอาจจะตัดสินใจจากประสบการณ์ ที่มีคนมาฝากตัวขออยู่ด้วยเสมอๆ แต่ชะตา ของคนบางคนซิครับ เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆ ครับ
10 มกราคม 2552 17:06 น. - comment id 934535
คุณแบม เรื่องอย่างนี้ คงไม่เกิดขึ้นในวันอย่างนี้ แต่ใครจะบอกว่าไม่มีเรื่องอย่างเกิดขึ้น หวังว่าให้เรื่องอย่างนี้ เกิดขึ้นน้อยที่สุดก็แล้วกันครับ ขอให้มีความสุขครับ
12 มกราคม 2552 06:03 น. - comment id 934545
เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายนะครับบางที
12 มกราคม 2552 06:14 น. - comment id 934546
คุณแมวเหลือง นิยายบางครั้งก็มาจาก ประสบการณ์ ของผู้เขียน ขอให้เรื่องนี้เป็นแค่นิยาย จริงๆ เถอะครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
12 มกราคม 2552 07:47 น. - comment id 934560
ขอให้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นนะค่ะ ไม่อยากได้ยินข่าวร้ายแบบนี้เลย
12 มกราคม 2552 10:33 น. - comment id 934608
นี่แหละค่ะ..ภาพสะท้อนสังคมที่เห็นอยู่บ่อยๆ สิ่งที่เราเห็น เราไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ... บทเรียนของคนอื่น.. อาจจะไม่ใช่บทเรียนของอีกคน... ผู้เสียใจที่สุดคือหลวงตา... แต่ทำไงได้ล่ะคะ ก็สังคมที่เห็นทุกวันนี้..ทำให้คนเราตั้งด่าน คิดปฏิเสธไว้ก่อน... .... ถ้าเราเป็นหลวงตา คงเสียใจมากเหมือนกัน.ค่ะ... ............
12 มกราคม 2552 10:40 น. - comment id 934613
เป็นเรื่องราวที่เศร้าสร้อยมาก ๆ ครับ..ถ่ายทอดออกมาจากบทกลอนที่ไพเราะ..
12 มกราคม 2552 11:31 น. - comment id 934636
เป็นบทเรียนที่ยิ่งยวดปวดใจนัก เมื่อตระหนักที่ผลักไสเหมือนไล่ส่ง เจ้าเด็กน้อยไร้ที่พึ่งจึงงุนงงง เจ้าจึงปลิดชีพลงตรงคงคา ความรู้สึกผิดแล่นวาบดั่งภาพหลอน เจ้าม้วยมรณ์เพราะเราหรือเปล่าหนา เหมือนดั่งเจ้าถึงฆาตเพราะอาตมา เกิดกังขาตอกย้ำคล้ายจำเลย ฤาเป็นเวรเป็นกรรมนำทดสอบ ได้ผลลัพธ์คำตอบผิดชอบเผย ทั้งที่ข้าเป็นพระยังละเลย พิโธ่เอ๋ย..มิรู้วางบาปทางใจ อิอิ ถ้าเฌอเป็นอาตมา เอ๊ย หลวงตาคงเป็นความรู้สึกผิดที่ตามหลอกหลอนไปตลอดชีวิตอ่ะนะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเด็กคนนั้นจะไปคิดสั้นแบบนั้น เวรกรรมจริงๆของเด็กที่ไร้ที่ไป และเวรกรรมทางใจของหลวงตาไปตราบชีวิต สาธุ ปล.ขออำภัยที่แจมตอบแบบมั่วๆงุนงงไป เพราะเบลอๆไม่หายค่ะ
12 มกราคม 2552 12:04 น. - comment id 934654
กลอนน่ารักมากค่ะ
12 มกราคม 2552 12:24 น. - comment id 934661
เขียนได้เป็นเรื่องราว ภาษาเข้าใจง่ายและเห็นภาพดีจังเหมือนดูละครเลยค่ะ น่าสงสารจังนะคะ เศร้าจังเลย
12 มกราคม 2552 15:29 น. - comment id 934734
ได้แต่ทอดถอนใจ...ในสังคมที่เลวร้ายลงไปทุกวันๆนะคะ เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายอีกนะคะ
12 มกราคม 2552 15:37 น. - comment id 934741
เป็นอุทาหรณ์ที่น่าขบคิด หวังว่าจะไม่เกิดซำอีกก็พอ
12 มกราคม 2552 15:37 น. - comment id 934742
อนิจจังทั้งสิ้นชีวินนี้ หาได้มีแน่นอนแม้ตอนไหน เกิด ดับ ลับ ลา แม้นอาลัย มิคืนขัยที่ลับนับนิรันดร์ คงเป็นกรรมนำพาให้ลาโลก ความทุกข์โศกนำใจจนไหวหวั่น สิ้นหนทางสิ้นคิดในจิตพลัน จึงคิดสั้นปลิดปลงลงอบาย เป็นบาปหนักแท้หนอในข้อนี้ คร่าชีวีเป็นกรรมนำขยาย หนักที่สุดของกรรมดั่งทำนาย เกินจะหมายสิ้นร้าง..ห่าง..นิพพาน.. แวะมาเยี่ยมเยียนครับ...สบายดีนะครับ ท่านนักสืบ..ปีใหม่มีความสุขนะครับ..
12 มกราคม 2552 19:12 น. - comment id 934829
คุณปะการังสีฟ้า ผมก็ขอให้เป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นครับ แต่ถ้าบังเอิญเป็นเรื่องจริง ก็ขอให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
12 มกราคม 2552 19:20 น. - comment id 934836
คุณวุ้นเส้น การปฏิเสธคำขอร้อง หรือทำตามคำขอร้อง ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ของแต่ละคนที่จะเลือก ในสังคมที่คนเริ่มไว้วางใจกันไม่ได้ การปฏิเสธ การช่วยเหลือมักเป็นเรื่อง ที่เห็นกันจนชิน ผู้ที่เสียใจที่สุด คือ หลวงตา ทั้งที่ความผิดไม่ได้เริ่มมาจากหลวงตา แต่ หลวงตา กลับเป็น "จำเลย" ในความคิดของตัวเอง ในสังคมนี้ จะมีจำเลย อีกกี่คนกันนะ ดีใจครับ ที่เข้าใจในสิ่งที่ ผมต้องการบอก ขอบคุณครับ
12 มกราคม 2552 19:26 น. - comment id 934841
.................... ............................
12 มกราคม 2552 19:26 น. - comment id 934842
คุณลิลิต เรื่อง นี้ ถ้าจะพูดจริงๆ ก็เห็นในสังคมกันเยอะ ในสังคมที่ คนเริ่มขาดความเชื่อใจ การปฏิเสธ จึงเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องราวเช่นนี้คงมีให้เห็นอีกแน่ๆ ครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันครับ
12 มกราคม 2552 19:36 น. - comment id 934849
คุณเฌอมาลย์ "ความรู้สึกผิดแล่นวาบดั่งภาพหลอน เจ้าม้วยมรณ์เพราะเราหรือเปล่าหนา เหมือนดั่งเจ้าถึงฆาตเพราะอาตมา เกิดกังขาตอกย้ำคล้ายจำเลย" กลอนที่คุณเขียน คือ บทสรุปของคำ ว่า "จำเลย" ครับ ยอดเยี่ยมมาก ถ้าเป็นผมก็คงเป็นภาพหลอนไป ตลอดชีวิตเหมือนกัน ความคิดเห็นของคุณ เป็นความคิดเห็นที่อยู่ในใจ ของผมจริงๆ ครับ อย่างนี้ไม่ งง แล้ว เป็นจิตใจ ที่กระจ่างดังฟ้าใสใส ต่างหาก ขอบคุณครับ
12 มกราคม 2552 19:38 น. - comment id 934850
สวัสดีครับ คุณสืบ กลายเป็นสัญลักษณ์ ของคุณสืบไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย ที่แปลงนิทานมาเป็นกลอน เป็นอีสป ของบ้านกลอนไปแล้วมั้ง แต่คงง่ายกว่าให้เขียนกลอนรักอกรักหวานแหววแน่ๆ แต่ดีครับ มีวัตถุรองรับที่นำมาเล่าต่อได้ ขณะที่งานชุด แส้ เป็นงานที่เขียนให้กำลังใจตัวเอง เพื่ออาจจะเริ่มต้นอะไรใหม่ในปีนี้ ขอให้มีความสุขและประสบความสำเร็จครับ
12 มกราคม 2552 19:38 น. - comment id 934851
คุณครูกระดาษทราย ขอบคุณครับที่มองความน่ารัก ของกลอนออก
12 มกราคม 2552 19:43 น. - comment id 934852
คุณkratokngao ขอบคุณสำหรับคำชมครับ เรื่อง นี้อ่านแล้วประทับใจ เลยพยายามดัดแปลง เป็น บทกลอน แบ่งปันให้คนอื่น ได้รับรู้บ้างครับ แต่ยังด้อยกว่า เรื่อง ที่ หลวงตา เขียนไว้มากครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
12 มกราคม 2552 19:48 น. - comment id 934854
คุณโคลอน สังคมที่คนไว้ใจกันไม่ได้ อาจดูเลวร้ายจริงๆ ครับ แต่ในทางกลับกัน การไว้ใจคน ก็เป็นดาบสองคม ถ้าเป็นเรา เราจะเลือกทำอย่างไรครับ ขอให้มีความสุขครับ
12 มกราคม 2552 19:51 น. - comment id 934857
คุณวิทย์ ศิริ ใช่ครับ เป็นเรื่องน่าคิด น่าคิดถึงความไว้วางใจ การเชื่อใจกัน ของคนในสังคม รวมทั้งชะตากรรมของคนด้วยครับ ผมหวังว่าเรื่องเช่นนี้คงไม่มีอีก เหมือนกัน ขอบคุณครับ
12 มกราคม 2552 19:56 น. - comment id 934860
คุณอรุณสุข การฆ่าตัวตายเป็นกรรมจริงๆ ครับ คนจีนเคยบอกไว้ ว่า เลือดเนื้อของเรา เป็นสิ่งทีพ่อแม่ ให้มาเราควรถนอมให้ดี ดูยัง แฮหัวตุ้นใช่ไหม ครับ ที่กลืนลูกตาของตัวเอง ถ้าผมจำชื่อผิด ขออภัยด้วยครับ ขอบคุณสำหรับกลอนดีๆ ที่นำมาฝากครับ ผมสบายดี ขอให้คุณสบายดีเช่นกันนะครับ
12 มกราคม 2552 20:01 น. - comment id 934863
คุณวุ้นเส้น ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน คำตอบผมครับ หน้าที่ยิ้มนะเข้าใจ แต่หน้า งง ๆ นะ ไม่เข้าใจครับ ขอบคุณรอบสองครับ
12 มกราคม 2552 20:20 น. - comment id 934870
คุณฤทธิ์ ผมเป็นคนไม่ค่อยได้ไปไหน เลยมีหนังสือเป็นเพื่อน เมื่ออ่านแล้ว บางเรื่อง ก็เกิดความประทับใจ เก็บไว้ในใจ เมื่อเข้ามาที่นี่ได้อ่านงานที่คุณเขียน ผมก็ประทับใจ ในงานของคุณหลายชิ้น โดยเฉพาะ การเขียนให้คนรักชาติ การเขียนถึงศาสนา และธรรมชาติ เป็นงานที่อ่านแล้ว เต็มตื้นใจผมครับ ผมเลยอยากจะเล่าในสิ่งที่ผมประทับใจ ให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ ในแง่หนึ่งของชีวิต ที่ผมรับรู้ครับ สำหรับกลอนแส้ เป็นความคิดที่ผมได้ จากโกวเล้ง แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร โกเล้ง เปรียบชีวิตที่ดิ้นรนต่อสู้ โดยที่ไม่รู้ว่า ทำไปเพื่ออะไร แล้วจะหยุดเมื่อไหร่ เหมือนมีแส้ คอยฟาดโบยอยู่ข้างหลังครับ ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ
12 มกราคม 2552 21:21 น. - comment id 934927
เยี่ยมเลยพี่ไร้ฯ...เขียนแบบเล่าเรื่อง..ได้ชัดเลยครับ
12 มกราคม 2552 21:27 น. - comment id 934940
คุณกิ่งโศก ผมพยายามถ่ายทอด สิ่งที่ได้อ่านมา ให้คนอื่นได้รับรู้ แต่ก็รู้ว่ายังไม่ดี เท่าเนื้อหา ที่ได้อ่านจริงๆ แต่ก็ยังพยายามเล่าอยู่ครับ ขอบคุณมากครับ
12 มกราคม 2552 22:17 น. - comment id 935000
เป็นเรื่องเล่าเศร้าใจในชีวิต ไม่อาจชี้ถูกผิดกับใครได้ เป็นกรรมของแต่ละคนทำไว้ ไม่มีใครชดใช้กันได้เลย น่าสงสารมากๆนะคะ
12 มกราคม 2552 22:28 น. - comment id 935012
คุณไหมไทย ชะตาชีวิตของคน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนลิขิต การที่หลวงตา ตกเป็นจำเลย ในความคิดของตัวเอง คงเป็นตราบาปที่ติดตัวไปตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ ครับ ขอบคุณครับ สำหรับความคิดเห็น และบทกลอนที่นำมาฝากครับ
12 มกราคม 2552 22:39 น. - comment id 935025
แวะมาเยี่ยมชมผลงานคุณภาพค่ะ
12 มกราคม 2552 22:52 น. - comment id 935036
สวัสดีปีใหม่ครับ ดัดแปลงมาได้ดีขนาดนี้นะครับ แวะมาเยี่ยมชมผลงานท่านดีจริงๆ
13 มกราคม 2552 00:34 น. - comment id 935069
พี่คะ กลอนนี้ของพี่เศร้านะคะ สงสารเด็กน้อย สงสารความคิดของหลวงตา สงสารแววตาเด็กคนนั้น ... พี่ถ่ายทอดงานออกมาได้ดีมากๆ ปรบมือให้คะ ....ฉางน้อยเกือบลงแดงตาย อิอิ
13 มกราคม 2552 09:07 น. - comment id 935116
คุณการัณยภาส ขอบคุณที่แวะมา อ่านงานครับ ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ
13 มกราคม 2552 09:12 น. - comment id 935119
คุณก่องกิก ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องทีอ่าน แล้วประทับใจ เลยอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง แต่คงยังไม่ดีเท่าเรื่องที่หลวงตา เขียนขึ้นครับ ขอให้มีความสุขครับ
13 มกราคม 2552 17:58 น. - comment id 935490
คำ"จำเลย"เอ่ยขานพานให้คิด เราก็อาจมีสิทธิ์พลาดอย่างเขา อย่าประมาทคาดใครเพราะใจเบา อาจต้องเศร้าคิดผิดบาปติดตัว สวัสดีค่ะไร้อันดับ มาอ่านกลอนดีๆ ค่ะ
13 มกราคม 2552 19:37 น. - comment id 935560
ฉางน้อย กลอบบทนี้ ต้องบอกว่าเป็นบทหนึ่ง ที่อยากเขียนมานาน แต่ไม่มีเวลาว่าง ก็เขียนบ้างปรับบ้างวันละนิดละหน่อย แต่ก็นับว่า ทำจนเสร็จเหมือนกัน หวังว่าเรื่องนี้ คงให้อะไรกับคนที่อ่านบ้าง การเข้าใจคน เข้าใจสังคม ทำให้เรา ไม่มองอะไรในด้านเดียว จริงไหม คงหายลงแดงแล้วซิ ขอให้มีความสุขนะ
13 มกราคม 2552 19:41 น. - comment id 935565
..มีจำเลยอยากมามอบตัว.. ................................
13 มกราคม 2552 19:48 น. - comment id 935581
พี่ดอกแก้ว ชะตาชีวิตของคน บางครั้งก็น่าเศร้าจริงๆ เหมือนเกิดมาเพื่อชดใช้ อย่างไม่รู้จบ หรือต้องจบด้วยความตายจริงๆ สำหรับหลวงตา คงเป็นตราบาปที่ติดตัว ไปตลอดชีวิต เป็น "จำเลย"ของตัวเอง ไปตลอดกาล ขอบคุณสำหรับกลอนดี ที่นำมาฝากครับ ขอให้พี่มีความสุขมากๆ ครับ
13 มกราคม 2552 19:50 น. - comment id 935587
คุณวุ้นเส้น ผมไม่ได้เป็น ท่านเปา ไม่มีอำนาจตัดสินคดี อิอิ สงสัยมอบตัวกับคนผิด ขอบคุณที่มาทักทายครับ
15 มกราคม 2552 21:24 น. - comment id 936612
อ่านแล้วอึ้งเลยแหละ..คุณสืบเขียนกลอนได้สวยงามจริง ๆ จะขอเว็บนี้ไปวางลิงค์ในสเปซเปิ้ลนะค่ะ..เปิ้ลอยากเอากลอนคุณสืบไปวางในสเปซจัง เรื่องนี้อ่านแล้วดีจังเลยค่ะ
15 มกราคม 2552 22:25 น. - comment id 936650
คุณpleja ดีใจจังที่คุณมา นานแล้วนะที่ไม่ได้คุยกัน ถ้ากลอนบทนี้ให้อะไร กับใครได้บ้างผมก็ยินดีครับ แล้วแวะมาอีกนะครับ ขอบคุณครับ