*** เพ็ญเดือนสิบสอง *** จะขอกล่าวเล่าขานตำนานเล่น คืนเดือนเพ็ญสิบสองอันผ่องไสว เจิดจรัสแสงนวลยองส่องอำไพ สร้างวิไลสายธารอันหมายปอง เจิ่งน้ำนองสองฝั่งสร้างเฉิดฉวี ฉายอัญมณีระยิบกระพริบสนอง ซ่านวิจิตรผ่านหล้าจากฟ้าครอง นวลทั้งผองสั่นพลิ้ววาบหวิวตา ปรุงแม่น้ำลำคลองทั่วท้องคุ้ง บรรเจิดจรุงสีสันต์สร้างหรรษา ธูปควันเทียนลอยล่องท้องธารา มวลผกากระทงน้อยคลุ้งจรุงใจ กุศโลบายเนิ่นนานผ่านกาลยิ่ง เกริ่นทุกสิ่งวางบทจรดสดใส เสริมแทรกนัยคุณละมุนละไม หวังมุ่งให้รู้คุณหนุนความดี ความหมายนี้วางไว้ในสี่อย่าง โดยจัดวางหลายสิ่งอิงศักดิ์ศรี เปรียบเปรยวางสร้างไว้ในวารี ดุจดั่งมณีน้อมตรึกผนึกพระคุณ ประการหนึ่งบูชาฝ่ารอยพุทธบาท ยุรยาตรลอยถาดทองล่องหมุน ณ ริมฝั่งเนรัญชรามาค้ำจุน สร้างทางบุญตรัสรู้อาสวะธรรม ประการสองบูชาพระแม่เจ้า ทุกค่ำเช้าอาบกินจินต์ชื่นฉ่ำ สายธาราคงคามาน้อมนำ แทนคุณล้ำบูชาหาใดเทียม ประการสามบูรพาจารย์นั้นกล่าว เคราะห์ร้ายคราวสิงอยู่สู้อายเหนียม ต่างเร้นหนีห่างหายด้วยไหม้เกรียม แสงเทียนเปี่ยมควันธูปลูบไล้จร ประการสี่เสี่ยงทายในความรัก หวังประจักษ์พบสิ่งอิงสลอน ลอยกระทงหวังคู่สู่ขั้นตอน อธิษฐานวอนเคียงไปใช่แน่เลย ในท่ามกลางเดือนเพ็ญเด่นสล้าง ความกระจ่างชายหญิงยากยิ่งเฉลย สำราญรื่นชื่นหทัยไร้เปรียบเปรย สุดแสนเสบยหยอกเย้าเคล้าราตรี. *** แก้วประเสริฐ. ***
4 พฤศจิกายน 2551 05:07 น. - comment id 589560
อยากไปงานยี่เป็งจังเลยแต่อยู่ไกลถึง ถึงกาฬสินธุ์คงสิ้นหวังแล้วค่ะคุณลุงปีนี้ก็คงฝันสลายตามเคยอยู่บ้านนอกชายทุ่งไม่รู้จะไปลอยที่ไหน หนูแวะมาเยี่ยมคุณลุงค่ะสบายดีนะคะ
4 พฤศจิกายน 2551 08:26 น. - comment id 622289
หนูเคยไปลอยกระทงสายที่เมืองตากค่ะ คุณครูขา
3 พฤศจิกายน 2551 18:56 น. - comment id 910156
เก่งจังคะ ฉางน้อยเขียนกลอนไม่เป็น นอกจากมั่วๆ อิอิ ลูกบิดชำนาญคะ
3 พฤศจิกายน 2551 19:31 น. - comment id 910187
มาอ่านงานกลอนที่ไพเราะครับ
3 พฤศจิกายน 2551 19:35 น. - comment id 910189
เมื่อใกล้เดือนสิบสอง ตามลำคลองน้ำก็ไหล เจิ่งนองอยู่ทั่วไป ประเพณีไทยก็ใกล้เข้ามา ขอบคุณครับที่เขียนให้อ่าน ไพเราะดีครับ
3 พฤศจิกายน 2551 19:40 น. - comment id 910190
แวะมาอ่านกลอนเพราะๆ ครับ เด๋ววันที่12มาช่วยกันจับคนชื่อ "ฉางน้อย"ใส่กระทง ให้ลอยตามน้ำไปดีไม๊น๊า อิอิอิ
3 พฤศจิกายน 2551 21:12 น. - comment id 910221
สวัสดีค่ะคุณครู จิตรำพันชอบกลอนบทนี้มากเลยค่ะ จะขออนุญาตเอาไปให้เด็กๆอ่านด้วยนะคะ หวังว่าครูคงสบายดีนะคะ รักษาสุขภาพด้วย ช่วงนี้หนูยุ่งมากเลยค่ะ (แต่เท่าที่ผ่านมา ก็ยุ่งตลอด อิอิ) ว่างๆ จะหาเวลามาเคาะสนิม ขัดเกลาบ้างค่ะ ขอให้ครูสุขภาพแข็งแรงนะคะ เป็นห่วงครูค่ะ จิตรำพัน
3 พฤศจิกายน 2551 21:38 น. - comment id 910232
คืนวันเพ็ญเด่นล้ำน้ำเจิ่งนอง เดือนสิบสองต้องทำย้ำวิถี ลอยกระทงคงเห่ประเพณี ทรงความดีมีไว้ให้ยาวนาน กุศโลบายกาลก่อนตอนริเริ่ม ตามความเดิมเสริมสร้างอย่างกล่าวขาน ปัจจุบันหญิงชายคลายวันวาร เปลี่ยนรูปกาลผลาญผิดจิตวกวน หมู่วัยรุ่นขุ่นข้องให้หมองใจ ทำตัวไร้นัยศีลทุกแห่งหน ประเพณีดีงามข้ามเสียปน จับคู่คนด้นไปในโรงแรม สวัสดียามดึกครับคุณครูแก้วฯ ตามข่าวคราววันลอยกระทงนี้เป็นอีกวัน ที่วัยรุ่นจะทำอะไรเลยเถิดไปกว่าตามประเพณี เป็นอันดับสองลองจากวันวาเลนไทครับ
3 พฤศจิกายน 2551 22:38 น. - comment id 910251
ไพเราะมากคับและมีความหมายได้เข้าใจประเพณีนี้มากขึ้น
4 พฤศจิกายน 2551 09:00 น. - comment id 910305
หาคนลอยด้วยคะคุณลุง..อิอิ ปีนี้มะรู้กระทงพิมหลงทางอีกป่าว..อิอิ
4 พฤศจิกายน 2551 12:33 น. - comment id 910362
ได้อ่านกลอนที่ไพเราะและยังได้ความรู้ กับไปด้วย แบมเคยไปลอยที่วัดคงคา คนเยอะมากเลยคะ
4 พฤศจิกายน 2551 13:47 น. - comment id 910371
คุณ ฉางน้อย ฮ่าๆๆไม่เก่งหรอก คนบ้าๆบอๆบวมๆบ๊องส์ ก็แบบนี้แหละ มั่วเหมือนกันแหละจ้าคนเก่งๆใน บ้านกลอนไทยมีแยะ ส่วนผมเองเรียกว่ามั่วนิ่ม เน๊อะๆๆ อิอิ รักจอมแก่นเสมอ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 13:52 น. - comment id 910372
คุณ ฝนทอง อืมๆๆชื่อ"ฝนทอง"ช่างไพเราะแฝงความหมาย ดีครับ ผมเองก็เขียนไปด้วยใจและอารมณ์ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 13:55 น. - comment id 910373
คุณ อรุโณทัย เป็นกาพย์ที่งามครับขอบคุณ ผมเขียนตาม ใจและอารมณ์ประสาคนบ้าๆบอๆครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 13:59 น. - comment id 910374
คุณ คนเขียนรูป คุณคงเขียนรูปภาพเก่งนะครับถึงใช้นามปากกา แบบนี้ โอ้ยจะจับเจ้าฉางน้อยหรือผมว่าคุณไม่ทัน หรอกทั้งสวยน่ารักแถมซุกซนแก่นอีกต่างหากนะ หากวิงวอนขอเป็นเทวีแห่งกระทงบางทีอาจจะยอม กระมัง ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 14:09 น. - comment id 910375
คุณ จิตรำพัน สวัสดีจ้าศิษย์รักเรา ที่เขียนนี้ครูเองค้นพบ มานานแสนนานแล้วล่ะ ไม่รู้จะทำอะไรเหลือบตา มองปฏิทินนึกได้ว่าวันที่ 12 เดือนนี้คือวันลอยกระทง อันเป็นประเพณีสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและ ที่ว่าเป็นการเสดาะเคราะห์แก่ผู้ที่ลอยกระทงด้วย เพราะครูบาอาจารย์ที่ร่ำเรียนมนตราคาถาอาคม มักจะใช้ในการปล่อยสิ่งของด้วย ครูเองพบใน การจารไว้ถึงอุปเท่ห์แห่งการลอยกระทงจ้า หาก ศิษย์เราเห็นเหมาะสมจะนำไปทำอย่างไรก็ได้ จ้า ครูอนุญาติเสมอๆสำหรับศิษย์เราไม่ต้องขอ ก็นำไปได้เลยจ้า รักศิษย์เสมอๆ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 14:21 น. - comment id 910377
คุณ ลูกกลิ้ง ครับผมก็ทราบเหมือนคุณนั่นแหละวัยรุ่น จะถือเสมือนวันวาเลนท์ไทม์ อันที่จริงเรามาก่อน นะเพราะสืบทอดมาแต่สมัยอินเดียโน่นนะแต่มา แตกสาขากันในเจตนารมย์การนับถือแตกต่างกัน ไป ด้วยสมัยก่อนของไทยนั้นหญิงชายจะพบกัน แต่ละครั้งแสนยากเย็นนัก เพราะหญิงพ่อแม่จะ หวงมากเหมือนไข่ในหินเชียวล่ะ หากชายมาบ้าน ก็จะไล่ลูกสาวให้เข้าไปข้างในไม่ให้ออกมาพบเห็น กันจะอนุโลมนอกจากวันสำคัญเช่นงานสงกรานต์ งานลอยกระทงเป็นต้น ชายหญิงถึงจะพบกันได้ ส่วนงานลอยกระทงนั้นพิเศษกว่างานอื่นใดๆ เพราะพ่อแม่อนุญาติจึงจัดกันเป็นกลุ่มๆมีคน อาวุโสเป็นหัวหน้า ทางอยุธยาจะเห็นเขาเขียน ไว้ เช่นลอยเรือโต้กลอนกันจีบสาวเป็นต้นครับ แต่สมัยนี้ไม่ต้องในยุคโลกาภิวัฒน์เปลี่ยน แปลงยิ่งมายุคไฮเท็คด้วยแล้วใครจีบใครก็ยัง คิดไม่ตกเหมือนกันครับ ขอชมกลอนคุณงดงาม อ่อนไหวพลิ้วได้เนื้อหาสาระถูกต้องกลอนแปด จริงๆครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 14:37 น. - comment id 910379
คุณ วิทย์ ศิริ ผมเองเขียนกลอนด้วยจิตใจและอารมณ์กลอน ถึงเป็นแบบนี้ครับ ส่วนความหมายนั้นดังแจ้งไว้ กับคุณลูกกลิ้งนั่นแหละ ปกติผมจะอ่านเรื่องนี้ เกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงมามากพอสมควร ย่อมแตกต่างกันก็เพียงข้อสามเท่านั้นเอง ของฮินดู เขาใช้บูชาพระศิวะ บ้าง นารายณ์บ้าง พระแม่อุมา บ้าง ฤาษี ชีไพร พราหมณ์ ฯลฯ ตามความ นับถือ แต่ผมอ่านพบในการจารข่อยไว้ถึงเหตุ สี่ประการนี้ ข้อสามนั้นคนที่เรียนวิทยาอาคม มักจะทำพิธีเช่นปลุกตระกรุดบ้างอย่างลพ.รุ่ง วัดท่ากระบือ เรียกว่าตะกรุดจันทร์เพ็ญ เป็น ที่นิยมอย่างสูงยิ่งเป็นต้น ตลอดจนถึงการใช้ ในการเสดาะเคราะห์ของผู้อธิษฐานในสิ่งที่แอบ แฝงให้อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยขจัดปัดเป่าให้ลอย ไปเสียครับ นี่เป็นเรื่องจริงที่ผมอ่านพบมาหลาย สำนักที่เขียนไว้แต่ผลที่แท้จริงคือการสร้างขึ้น อาศัยสิ่งต่างๆเพื่อให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ พบกันมากกว่า เพราะโบราณนั้นยากนักที่จะ ได้พบกัน วันนั้นผู้ใหญ่จะอนุญาติเป็นพิเศษ แต่ก็มีผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจได้คุมไปเสมอแต่ผู้ใหญ่ นั้นก็เข้าใจถึงเหตุผลของความรัก มักจะปล่อย ไปไม่ให้ผิดผีหรือผิดการล่วงเกินเท่านั้นครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 14:44 น. - comment id 910380
คุณ นรศิริ นั่นเป็นงานของชาวเหนือที่สืบทอดกันมานาน และจะมีการปล่อยโคมขึ้นฟ้าด้วย แต่อันที่จริงแล้ว แม้ที่ใดมีน้ำก็ใช้ได้ครับ อย่างที่ผมเห็นมานะครับ แม่ในบ่อกว้างพอสมควร ในสระก็ยังมีการลอยกัน ครับถือเป็นการรักษาประเพณีกันไว้ แม้ที่จีนแถบ น่านเจ้าเก่า เขาก็มีงานนั้นเช่นเดียวกับไทยเรา เพราะเชื้อสายเดียวกันครับ อย่าคิดมากเลย ที่ใดๆสร้างความสุขใจเราได้ถือได้ว่าที่นั้นคือ สถานที่อันเหมาะสมยิ่งครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 21:00 น. - comment id 910402
..ครูแก้วครับ..กลอนนี้ ทำให้คิดถึงตอนเด็กๆ จังเลยครับ .. สมัยเป็นเด็กนักเรียน .. วันลอยกระทง..ดอกไม้ ต้นกล้วย ..เทียน และริมแม่น้ำ..
4 พฤศจิกายน 2551 18:22 น. - comment id 910416
คุณ พิมญดา คุณเป็นคนสวยมีหรือกระทงจะหลงทางเว้น เสียจากคุณไม่สนใจเท่านั้นเองแหละครับ ปีนี้ ขอให้กระทงที่ลอยจงสมฤทธิ์ผลนะผมขอเป็นกำใจ ให้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 18:15 น. - comment id 910418
คุณครู กระดาษทราย ดังที่ผมพรรณาเบื้องต้นข้างบนนั่นแหละครับ จะที่ไหนก็ได้ครับ ดีครับที่เมืองตากนั้นก็ดีส่วนใหญ่ แล้วมักจะมีทุกๆทีแหละครับ การลอยกระทงก็ เหมือนการตั้งศรัทธาของเราทำให้จิตใจเราผ่องใส ในชั่วขณะตั้งจิตอธิษฐาน พระพุทธองค์ทรงตรัส ยกย่องคำอธิษฐานว่าเป็นสิ่งที่ดีแม้แต่อดีตชาติ พระองค์ก็เคยทรงอธิษฐานเพราะระหว่างการตั้งนั้น จิตจะบริสุทธิ์แจ่มใสปราศจากนิวรณ์ทำให้เกิด พลังงานชนิดหนึ่งทำให้คนจะได้รับความประสพ ผลสมฤทธิ์เพราะจิตมีสมาธิศรัทธาแรงกล้าครับ เพราะฉนั้นการอธิษฐานจึงสำคัญมากอย่างหนึ่ง ในพุทธศาสนาครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 18:31 น. - comment id 910420
คุณ แก้วประภัสสร ยามที่ผมอ่านศึกษาเรื่องนี้นั้นผมพิจารณา ไปด้วย ผมว่าคนโบราณนั้นชาญฉลาดมากนะครับ สร้างกุศโลบายได้อย่างแนบเนียนมาก ประสงค์ อันแท้จริงคือขจัดสิ่งกีดกั้นระหว่างหญิงชายมากกว่า เพราะสมัยโบราณนั้นการคบปะคบหาสมาคมหญิง ชายนั้นมักจะเลือกชนชั้นเป็นหลักแบ่งฝ่ายกันเลย แม้แต่ในรั้วในวังก็ยังจัดเขตไว้ครับ ยิ่งขุนน้ำขุน นางจะแยกกันต่างหากทำให้การพบปะยากแต่ เมื่ออนุมานในสิ่งนี้ก็จะทำให้สดวกกว่าครับ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2551 20:10 น. - comment id 910455
เพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง ปีนี้น้ำมาก..กระทงสายคงสวยมากๆนะคะ ลอยกระทงไม่ค่อยชอบตรงเขาจุดประทัด เหม็นแล้วกลัวด้วย นั่งดูขบวนแห่ที่บ้านก้อแล้วกัน..
5 พฤศจิกายน 2551 11:32 น. - comment id 910646
คุณ ไหมไทย ครับสมัยนี้เขาจุดประทัด เด็กๆเล่นกันจุด ประทัด ดอกไม้ไฟนั้นมีในระยะกลางเท่านั้น ผม เองหน้าหมู่บ้านเป็นคลองก็ทนกลิ่นประทัดไม่ไหว เหมือนกันต้องรีบกลับเหมือนกันครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
5 พฤศจิกายน 2551 11:40 น. - comment id 910650
คุณ กิ่งโศก นั่นซิครับสมัยก่อนนั้นสนุกจริงๆครับ แต่สมัย นี้นั้นบอกไม่ถูกครับ ยิ่งในเมืองแล้วล่ะคุณเอ๋ย กระทงยังไม่ทันลอยไปเลยโดนเด็กๆคว่ำกระทง เสียแล้วเพื่อหาเงินที่เขาใส่ไว้ในกระทง หมดสวย ก่อนนี้เขาจะปล่อยให้กระทงลอยน้ำไปจนลับตาถึง จะกลับบ้าน แต่ที่หมู่บ้านผมนั้นผมเป็นที่ปรึกษา ของคณะกรรมการช่วยกันห้ามเด็กว่าหากจะเก็บ ให้วันรุ่งขึ้นก่อนครับ เลยค่อยยังชั่วหน่อยครับ เป็นธรรมชาติ ด้วยริมคลองนั้นยังมีต้นไผ่คลุม ไว้และน้ำก็ไหลด้วยครับคล้ายๆสมัยก่อนหน่อย ปล่อยโคมไฟลอยฟ้าด้วยมีดนตรีซึ่งพวกเราช่วย กันจุดตะเกียงกระป๋องแสงสีน้ำพุกลางน้ำด้วย จนมีหมู่บ้านอื่นเข้ามาร่วมด้วยครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
5 พฤศจิกายน 2551 19:15 น. - comment id 910780
มาขอลอยกระทงด้วยคนนะคะ... ขอให้..แฝดเพื่อน..มีความสุขมากๆ..สุขภาพแข็งแรงนะคะ..โอมเพี้ยง!!!...สาธุ...สาธุ...
5 พฤศจิกายน 2551 21:43 น. - comment id 910825
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนที่รักยิ่ง เช่นเดียวกันจ้าขอทุกข์ ทั้งปวงที่เกิดขึ้นหรือยังมิได้เกิดอย่าได้แพ้วพาน ลอยไปในกระทงด้วย ผมจะนึกถึงเสมอขอจงมี ความสุขยิ่งๆขึ้นนะครับ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.