** เพ็ญกระจ่างฟ้า ** บุหลันเลื่อนดาวคล้อยลอยเวหาส นภาพิลาสสุดผ่องละอองใส คีตกวีบรรเลงซึ้งสุดตรึงใจ เฉิดไฉไลคำนึงรำพึงนาง หวนย้อนกลับวันวานที่ผ่านพ้น พิศนฤมลหลับตายามฟ้าสาง กลิ่นกายหอมยิ่งนักมิจักวาง เย็นสล้างน้ำค้างหยาดพิลาสนวล เพ็ญราตรีค่ำนี้ยากมีแล้ว หวานเจื่อนแจ้วไพเราะเสนาะสรวล สำเนียงถ้อยจำนรรจ์ยากสรรค์ชวน ระริกป่วนหวนคนึงแสนตรึงฤดี มีแต่เสียงลมผ่านสุดซ่านจิต คำนึงคิดครั้งใดอยากใกล้ฉวี เหลือพฤกษาสอดไว้คล้ายดนตรี หรีดหริ่งที่ขับกล่อมเพื่อย้อมใจ ราตรีหนอเพ็ญสล้างกระจ่างไว้ ความวิไลในอดีตเข้ากรีดไฉน แม้นจะงามจันทร์สล้างกระจ่างไกล ยากคว้าไขว่กลับหวนปั่นป่วนเงา การเวกบินผ่านจำนรรจ์เสียง เข้าคลอเคียงพฤกษาที่มาเฉลา เกิดเป็นถ้อยร้อยดนตรีไม่กี่เพลา ฝากความเศร้ารัญจวนจนชวนคนึง วันเวลาเคลื่อนคล้อยจันทร์ลอยเลื่อน ดวงใจเปื้อนหวานซึ้งรำพึงถึง อนงค์นาฏฝากเงาที่เฝ้าตรึง ดุจสายซึงขาดเสียงยากเบี่ยงมอง ราตรีนี้มีเพ็ญลอยเด่นฟ้า ช่างเจิดจ้าหัวใจมิใคร่สนอง โลมรำลึกผ่านซึ้งมิพึงคนอง ใยละอองแสนเศร้ามาเคล้าใจ. *** แก้วประเสริฐ. ***
29 ตุลาคม 2551 13:27 น. - comment id 908455
lสวยกระจ่างทั้งภาพและอักษรคะคุณลุงแก้ว
29 ตุลาคม 2551 13:48 น. - comment id 908467
สวัสดี อ.แก้วประเสริฐ วันนี้ลุงแทนส่งไปให้แล้วนะ ขออภัยที่ส่งช้าเพราะติดงานอยู่ เพิ่งวันนี้ ขอให้ทีความสุข รักษาสุขด้วย อาจารย์
29 ตุลาคม 2551 14:03 น. - comment id 908473
แวะมาอ่านกลอนหวาน ของอาจารย์แก้วประเสริฐ เพ็ญกระจ่างฟ้า นภาพิลาสสาดสมัย เรืองรองผ่องอำไพ เลิศพิไลในสกล
29 ตุลาคม 2551 15:23 น. - comment id 908491
เวลาที่เพ็ญกระจ่างฟ้าแม้สุริยาก็มิอาจเทียบ (คล้องมั๊ยคะ...อิอิ)
29 ตุลาคม 2551 15:35 น. - comment id 908502
วันนี้เพิ่งขึ้น 1 ค่ำเองค่ะ ยังไม่กระจ่างเท่าที่ควร ใกล้ถึงงานลอยกระทงแล้วซีนะคะ ปีนี้มีใครลอยด้วยหรือยังคะ อิอิ เห็นเพ้อรำพึงถึงนาง บ๊อย บ่อย อแอบแซวค่ะ
29 ตุลาคม 2551 16:42 น. - comment id 908526
ไพเราะทั้งกลอนงามทั้งภาพค่ะคุณครูแก้ว ภาพล่างงามมากๆค่ะ ใกล้คืนเพ็ญแล้วซิคะ
29 ตุลาคม 2551 16:43 น. - comment id 908528
ชอบมองดวงจันทร์เหรอคุณลุง กานต์ไม่ค่อยชอบค่ะ กลัว
29 ตุลาคม 2551 16:59 น. - comment id 908536
แวะมาอ่านกลอนหวาน ซึ้งกินใจจ้า ชอบมากเลย อ่านแล้วซึ้งคะ สบายดีนะค่ะคุงแก้ว...
29 ตุลาคม 2551 18:44 น. - comment id 908562
.... สวัสดีค่ะคุณลุงแก้วฯ แหมๆ ๆคุณลุงน๊า ชอบเขียนแต่เรื่องดวงจันทร์ เรื่องวันเพ็ญ เรื่องท้องฟ้าน๊า แหมๆๆ ไม่เห็นเขียนชาวดินอย่างฉางน้อยเลย อิอิ ตัดพ้อพองาม 555555
29 ตุลาคม 2551 20:14 น. - comment id 908584
วันเวลาเคลื่อนคล้อยจันทร์ลอยเด่น ความหนาวเย็นแผ่ซ่านผ่านใจนั้น หมุนเวียนมาร้อนหนาวคละเคล้ากัน ดวงตะวันก็หล่นพ้นหลังภู สวัสดีค่ะคุณลุง แวะมาอ่านกลอนไพเราะค่ะ
30 ตุลาคม 2551 12:19 น. - comment id 908693
คุณ พิมญดา ผมเองเป็นคนชอบราตรีในยามจันทร์เพ็ญ มากครับหากไม่มีมักจะมองดาวต่างๆงดงามมากครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่น่ามองแล้วล่ะ เมื่อก่อนชอบมองดาว ตกซึ่งพบบ่อยๆมากครับตอนเป็นเด็กๆ เพราะไฟฟ้า ไม่มีตึกรามบ้านช่องน้อยมาก ผมอยู่ใกล้ๆสวนชอบ มานอนบนแคร่ชานเรือนมองท้องฟ้าเสมอๆครับ ฉนั้นผมถึงมักชอบแต่งกลอนยามราตรีเสมอๆ ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 12:23 น. - comment id 908697
คุณ ลุงแทน ขอบคุณมากครับในความกรุณาแก่ผมยิ่ง ผมได้รับของเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 12:26 น. - comment id 908698
คุณ กันนาเทวี ขอบใจมากกลอนเขียนงดงามมากจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 12:31 น. - comment id 908701
คุณ โคลอน คล้องกันจ้าเหมาะกับการเขียนเรื่องสั้นหรือ กลอนเปล่าจ้า จริงๆนะหากลองเขียนนิยายเรื่อง สั้นสักเรื่องซิแล้วให้เป็นสำนวนนี้คนตรึมเลยล่ะ รักเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 12:40 น. - comment id 908702
คุณ เฌอมาลย์ มันเป็นเรื่องในสมัยอดีตนั้นความเจริญยัง ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ไฟฟ้าไม่มี ท้องฟ้ายามจันทร์ เพ็ญงามยิ่งนักและยิ่งอยู่ตามชายทุ่งหรือสวนไม้ แล้วนอนมองท้องฟ้าจะงดงามมาก ถึงไม่มีจันทร์ ก็ยังงดงามนอนนับดาวเล่นนับไม่หมดงดงามไป คนละแบบกันเชียวล่ะบ้างกระพริบบ้างไม่กระพริบ บางครั้งมีดาวตกให้เราเห็นบ่อยๆ คนโบราณเขาไม่ให้ชี้ว่าเด็กจะมาเกิด อิ อิ นี่เรื่องจริงนะ ผมเองยังได้รับคำบอกไว้เลย บ้างครั้งเห็นตก อยู่ใกล้ๆดวงใหญ่ เคยวิ่งไปดูตามประสาเด็กๆ ไม่พบอะไรเลยล่ะ ผมเองมักมานอนตากอากาศ ลมพัดเย็นๆสุมไฟกากมาพร้าวกันยุงหน่อยยิ่ง กล่าวยิ่งยาวจ้า ก่อนนั้นวันเพ็ญเดือนสิบสอง นั้นงดงามมากไม่เหมือนเดี๋ยวนี้หรอกครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับเจ้าหญิง รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 12:50 น. - comment id 908706
คุณ ช่ออักษราลี ศิษย์เราภาพนั้นจำไม่ได้ว่าเอามาจากที่ใด ในเวปฯไทยกลอนบ้าง ในเมล์บ้าง ในเวปฯอื่น บ้างจ้า ขอบใจมากนะรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 13:01 น. - comment id 908707
คุณ เพียงพลิ้ว ใช่จ๊ะชอบจริงๆด้วยล่ะตอนเด็กๆแม้ปัจจุบัน ยังชอบอยู่เลยแต่ความสวยงามสู้สมัยก่อนไม่ได้ ไปเล่นเปตองในที่กว้างๆก็ยังนั่งมองเสมอๆเลย แต่ความสวยสู้สมัยก่อนไม่ได้ หลานเราไม่ชอบ เพราะกลัวผีล่ะซิบ้านนอกผีกระสือมีจริงๆนะลุงเคย มองเห็นเลยล่ะ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วก่อนนี้ไฟฟ้าไม่มี ใช้ตะเกียงจ้า ท้องฟ้ายามค่ำคืนสวยๆจริงดัง คห. ที่ตอบไว้ล่ะจ้า รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 13:08 น. - comment id 908710
คุณ Black MooN ขอบใจมากจ้า ร่างกายเดี๋ยวดีบ้างไม่ดีบ้าง ทำไงได้ล่ะสังขารเราหนอ บังคับมันไม่ได้นี่นา ขอบใจมากนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 13:15 น. - comment id 908712
คุณ ฉางน้อย สวัสดีจ้าเจ้าฉางน้อยแสนซน ใช่เพราะมันฝัง ใจมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ ความงดงามของกลางคืน กลางวันสู้ไม่ได้นะยิ่งสมัยก่อนด้วยแล้วเป็นธรรมชาติ งดงามหากไม่มีจันทร์ก็มีดาวสวยๆดาวตกที่เขา เรียกว่าผีพุ่งใต้นั่นแหละแยะเชียวล่ะ ส่วนเรื่อง ชาวดินผมเองก็เป็นชาวดินเหมือนๆกันเลยใฝ่สูง หน่อยฮ่าๆๆพอเขียนไปเขาจะว่าเอา จริงไม่จอมซน รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 13:19 น. - comment id 908714
คุณ แก้วประภัสสร สวัสดีจ้า ขอบใจที่แต่งกลอนให้นะ ผมเอง ก็เขียนไปอย่างงั้นแหละเพื่อมิให้สมองมันฝ่อหาก ไม่ใช่จะแย่ใหญ่ ดีบ้างไม่ดีบ้างปล่อยไปเถอะไม่ ได้คิดอะไรมากนัก สบายใจก็เขียนย้อนอดีตผสม ผสานกันเล่นๆจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 ตุลาคม 2551 15:29 น. - comment id 908745
หวัดดีค่ะคุณลุงไพเราะมากค่ะ คุณลุงสบายดีนะคะ
30 ตุลาคม 2551 17:12 น. - comment id 908769
คุณ นรศิริ สวัสดีครับ ระยะนี้อากาศแย่มากปรวนแปร ไปๆมาๆผมโรคแพ้อากาศด้วยแย่หน่อยครับ ดีนะ ที่บริหารร่างกายเสมอๆจึงค่อยยังชั่วหน่อยครับ ขอบคุณครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.