บาดทะยัก (แรงบันดาลใจ ผมได้จากถ้อยคำของ ท่านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ในหนังสือนวนิยาย ไผ่แดง ที่ท่านกล่าวว่า สังคมเป็นบาดทะยัก ครับผม) หวังหายคลายเคลื่อนเลือนโรค เลือนสิ่งโสโครก สิ้นค่า ใจลอยคอยหมอรอยา คิดว่าความหวังยังวาว ไข้เมืองเคืองไหม้ใคร่หมด กวาดคดเกลี้ยงแคว้น แดนขาว ฟ้าเรืองเฟื่องรุ้งรุ่งราว- แสงพราวสรวงพรายฉายพร กลับแพร่แผ่พิษผิดหวัง ความหลังคุกคามตามหลอน โรคามาใหม่ไชชอน กัดกร่อนเกลื่อนกลุ้มรุมกิน ช้ำฟกอกรอนอ่อนล้า ปานว่าชีวาตม์ขาดวิ่น ฝันแคล้วแล้วลอยคล้อยบิน ทั่วถิ่นท้อแท้แน่ไทย ยังโขโสโครกโรคเก่า ปราศเค้าผู้แปรแก้ไข ซ้ำโซโศกาอาลัย โรคใหม่ราวมารลาญทัก มากนองหมองเนืองเมืองนี้ เพียงผีผลุนผลันพลันผลัก ทรุดเพิ่ม เสริมเผ่าเศร้าพักตร์ บาดทะยัก ยอกแย้งแยงยอน! (๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑) ข้อความฝากทิ้งท้าย ผมฟังชื่อ ครม. ชุดนี้ แล้วคิดว่าบ้านเมืองคงซมอีกนานพอสมควรหละครับผม
23 กันยายน 2551 13:54 น. - comment id 898632
เล่นคำได้เพราะดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
24 กันยายน 2551 10:18 น. - comment id 898944
คณะ รมต.ขี้หมูไหล ...........มาพบกัน.. สุขอย่าได้สร่าง
25 กันยายน 2551 05:45 น. - comment id 899132
25 กันยายน 2551 16:27 น. - comment id 899259
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน สวัสดีครับคุณแก้วประภัสสร คุณคอนพูทน คุณลักษมณ์ ในความเห็นของผมบาดทะยักชนิดนี้แก้ยากครับ เพราะกินเมืองมาไม่รู้กี่ปีแล้ว หากจะแก้คงอีกเนิ่นช้า แหละต้องใช้วัคซีนหลายขนาน รวมถึงใช้เวลาอันยาวนาน ค่อยๆเยียวยาหละกระมังครับผม