*** ถวิลครวญ *** เสียงเสนาะไพเราะซึ้งคนึงซ่าน ไหวพลิ้วผ่านรัญจวนชวนสนอง วิงวอนหวานผ่านฤดีทวีทำนอง สอดสู่คล้องปองหวังครั้งเชยชม ดั่งใบล่วงจากต้นระคนฝาก ดุจพลันจากละล่องเคยครองขม น้ำพาหยาดจากฟ้าลอยมาภิรมย์ สู่อารมณ์เปลือกในสลายหัวใจ หวานวจีแว่วซ่านผ่านไพรสัณฑ์ แสงนวลจันทร์เด่นสกาวพราวสดใส หวานพลิ้วเสียงซึมซาบฉาบความนัย เปรียบฤทัยคล้ายรันทดหยดผ่านทวี ถ้อยน้ำคำย้ำคล้ายไว้ฝากฟ้า ล้วนวาจาผ่านนัยคลายเกษมศรี หมองสร้างไพรโขดหินสิ้นเปรมปรีดิ์ ผสานราตรีสรรค์ถ้อยร้อยแง่งอน สำเนียงซ่านล้วนเสนาะฉอเลาะเล่า ดุจดั่งเฝ้าสำเหนียกเรียกสิ่งหลอน อีกทำนองเศร้าหมองคล้องวิงวอน ดั่งออดอ้อนเสมือนเขลาเร้าอาจิณ ล้วนคำนึงคลึงคล้ายสร้างห่วงไว้ เสมือนดวงใจแนวเดียวเกี่ยวใฝ่ถวิล แว่วขานแผ่วสิ่งสล้างกลางแนวกวิน คล้ายเหล่านลินสิ้นหอมยากย้อนมา เสียงสะอื้นลอยลมพรมแผ่วพลิ้ว ล่องผ่านปลิวสู่ทรวงหน่วงหนักหนา เหมือนก่อนนี้เคยฝากไว้ในจินตนา ตลอดเวลาผ่านหมองร้องเสียงเพลง ผ่านราตรีแห่งพฤกษ์ตรึกใยเหมือน ผ่านเสียงเยือนคร่ำครวญล้วนเฉวง รัตติกาลคลึงคล้ายละม้ายกลัวเกรง ยากจะเขลงชมจันทร์อันพร่างพราว. *** แก้วประเสริฐ. ***
28 กรกฎาคม 2551 16:58 น. - comment id 879855
อ่านกลอนกานท์ท่านครูหนูเคลิบเคลิ้ม ช่วยเพิ่มเติมจินตนาพาอ่อนไหว ส่งคำเข้าคลังสมองตรองตรึงใจ ขอบคุณในพจนาค่ะคุณครู
28 กรกฎาคม 2551 18:53 น. - comment id 879894
แด่ อาจารย์แก้วประเสริฐ ภาพสวยค่ะ ถวิลครวญถึงใครเอ่ยอาจารย์
28 กรกฎาคม 2551 18:55 น. - comment id 879897
สวัสดีคะครูแก้ว ไพเราะจังเลยคะ
28 กรกฎาคม 2551 19:23 น. - comment id 879911
สวยจริงๆครับ
28 กรกฎาคม 2551 19:24 น. - comment id 879913
ความไพเราะ เสนาะหู มิรู้สิ้น ครวญถวิล จินตนา พาสนอง เคลิบเคลิ้มอยู่ คู่ฤทัย ในทำนอง คล้ายจับจอง ลองความหวาน ซ่านฤดี ยินสำเนียง เสียงออดอ้อน วอนฉอเลาะ พลิ้วเสนาะ เพราะพริ้งเพริศ ประเสริฐศรี ผ่านพฤกพันธุ์ เงาจันทรา ห้วงราตรี ด้วยเพลงนี้ ที่ฝากไว้ ในจินตนา
28 กรกฎาคม 2551 19:49 น. - comment id 879920
ผ่าน...จึงแวะมาเยี่ยม ยอด...งานกลอนอ่อนไหว เพราะ...ซึ้งติดตรึงใจ ชม...จากใจจริงจริง
28 กรกฎาคม 2551 22:43 น. - comment id 880027
เสียงเสนาะไพเราะซึ้งคนึงซ่าน สำเนียงหวานล้วนเสนาะฉอเลาะเล่า เสียงสะอื้นลอยลมพรมบางเบา คร่ำครวญเฝ้าครางครวญรัญจวนใจ ขออภัย...หยิบบทกลอนบางตอนมาแต่งใหม่ ที่ไม่ได้รับอนุญาตเลย คงไม่ว่ากัน...เนาะ
28 กรกฎาคม 2551 22:46 น. - comment id 880030
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว ไพเราะมากค่ะ เอาภาพมาฝากค่ะ
28 กรกฎาคม 2551 23:09 น. - comment id 880064
ถวิลครวญ..สิงาม คำ..ถ้อย แต่ง ..งดงาม ในการใช้คำ นะครับคุณลุง... ..ผมจำคำของคุณลุง..ได้ ที่ชี้แนะ ..กำลังปรับปรุงครับ ครับ ปกติแต่งสดตามใจนึกอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ทบทวน หรือขัดเกลานะครับ.. ขอบคุณคุณลุงแก้วที่ แนะนำครับ
28 กรกฎาคม 2551 23:09 น. - comment id 880065
แวะมาเยี่ยมชมครูครับ เพราะมากๆ..งดงามครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
29 กรกฎาคม 2551 06:59 น. - comment id 880134
แวะมาชื่นชมครับครูแก้ว
29 กรกฎาคม 2551 11:16 น. - comment id 880190
แวะมาชื่นชมความงดงามของอักษรศิลปคะ
29 กรกฎาคม 2551 11:31 น. - comment id 880195
คุณลุงแก้วเอาอีกแล้วนะคับ ไปตามอารมณ์จริงๆนั่นแหละผมว่า พาคำมาเป็นโขยงเลยคับอาจารย์(แหะๆ) แต่ถ้าคิดว่าเป็นลายกลอนของลุงก็แจ่มคับ แจ่มแบบ"ถวิลครวญ" ครวญจริงๆเลย เอ่อลุงคับ "ดั่งใบล่วง" ร่วงคำนี้ไหมครับ แล้วคำว่า"เฉวง"แปลว่าไรคับลุง รวมถึง"ยากจะเขลง" คำว่าเขลงเหมือนกัน ผมแปลไม่ออก กรุณาด้วยค้าบ คุณลุงแก้วฯ คารวะ
29 กรกฎาคม 2551 12:00 น. - comment id 880200
อ่านแล้วเคลิ้มไปเลยค่ะ... รักษาสุขภาพด้วยค่ะ..
29 กรกฎาคม 2551 12:17 น. - comment id 880217
คุณ ครูกระดาษทราย การแต่งกลอนนั้นต้องทำให้คนอ่านเพลิดเพลิน ในอารมณ์มองเห็นภาพได้แจ่มแจ้งถึงจะนับได้ว่า ประสบผลสำเร็จประการหนึ่ง กลอนนั้นความหมาย แท้จริงคือทำให้แจ่มใสในอารมณ์จ้า รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:23 น. - comment id 880226
คุณ ไหมแก้วสีฟ้าคราม สิ่งที่ผมคิดคือลูกศิษย์หนึ่ง และคนในเวปฯนี้ เป็นประการต่อไปรวมถึงคนอ่านด้วยครับ ส่วนภาพ นั้นผมก็เอามาจากพวกเรานี่แหละเพราะหาภาพไม่ เก่งหรอกและไม่รู้จะไปหาได้ที่ไหนนอกจากรูปที่ ถ่ายไว้เท่านั้นจ้า รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:28 น. - comment id 880231
มาชื่นชมบทกลอนลุงคะ
29 กรกฎาคม 2551 12:29 น. - comment id 880232
คุณ สาวเชียงใหม่ สวัสดีจ้าขอบใจมาก ที่จริงเชียงใหม่ผมเที่ยว มามากนัก แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปแล้วเพราะฟังข่าวมา ว่าเปลี่ยนแปลงไปมากธรรมชาติหายไปเกือบหมด หน้าร้อนจะร้อนมาก หนาวก็ไม่ค่อยหนาวบางทีก็ จะร้อนเสียด้วย ผิดกับสมัยก่อนๆ เพราะเขาตัดต้นไม้ ไปเกือบหมด ในเมืองเป็นป่าคอนกรีตแทนเสียแล้ว ทำให้ไม่อยากไปเสียแล้ว ญาติผมก็อยู่ที่เชียงใหม่ ถึงแม้จะนอกเมืองก็ไม่เหมือนเดิมครับ หากว่าง หรือชอบแวะมาเยี่ยมบ้างนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:33 น. - comment id 880237
คุณ กฤตศิลป์ ชินบุตร ขอบคุณมากครับ บ้านนี้เปิดรับเสมอๆครับหาก ว่างๆแวะมาเยี่ยมคนแก่ด้วยนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:37 น. - comment id 880239
คุณ การัณยภาส ขอบคุณในกลอนที่มอบให้ไว้นะครับ งดงาม มากครับขอบคุรครับ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:40 น. - comment id 880241
คุณ ฝนทอง ขอบคุณมากครับที่ผ่านแวะมาเยี่ยมเยียนครับ หากว่างๆก็มาเยี่ยมอีกนะครับขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:45 น. - comment id 880244
คุณ อรุโณทัย ไม่เป็นไรหรอกครับอย่าคิดมาก ผมเป็นคน เปิดเผยเสมอและไม่ถือสาอะไรหรอกครับ ขอให้ ทุกๆคนสนุกสนานเพลิดเพลินในอารมณ์ก็นับว่าดี ยิ่งแล้วครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:49 น. - comment id 880245
คุณ ช่ออักษราลี สวัสดีจ้าศิษย์ที่รักยิ่ง ครูเก็บภาพไว้แล้วล่ะเพราะ ครูเองหาภาพไม่เก่งแทบเรียกว่าไม่เป็นเอาเสียเลย ส่วนมากที่ลงก็มาจากพวกเรานี่แหละจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 12:58 น. - comment id 880252
คุณ กิ่งโศก เพราะเห็นว่าเราคนกันเองแนะนำนิดหน่อยๆ คงจะไม่ว่ากัน ปกติผมก็แต่งกลอนสดๆทางคอมฯ แล้วขัดเกลานิดๆหน่อยๆก็ส่งเลย ไม่ค่อยได้จำหรือ จดไว้หรอกครับ หากจะให้มาทวนอีกผมก็ทำไม่ได้ เพราะลืมหมดครับ การแต่งแต่ละครั้งเป็นกลอนสด ทื้งสิ้นครับ เพราะไม่ต้องคิดมากสนุกอารมณ์เพลิด เพลินดีกว่ามาหมกหมุ่นเกินไปเกิดทุกข์ใจเรา หากพอใจก็แต่งไม่พอใจก็หยุดแต่งก็สิ้นเรื่อง ผม มักจะละวางเสมอๆครับ ผมแต่งมาเป็นร้อยๆ กลอนแล้วจำไม่ได้สักกลอนเลยครับ อิอิ รักดอก จึงบอกให้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 13:03 น. - comment id 880256
คุณ ฝากฝัน ขอบคุณในความห่วงใยครับ ผมแก่แล้วก็พยายาม แหละครับแต่ไม่รู้ว่าจะอยู่อีกนานเท่าไหร่ครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 13:10 น. - comment id 880261
คุณ รัมณีย์ ขอบคุณมากครับ ว่างๆแวะมาเยี่ยมคนแก่ บ้างนะครับส่วนใหญ่ผมอยู่คนเดียวเหงาครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 13:37 น. - comment id 880269
คุณ ผมชื่อโจ้ ไม่เป็นไรครับ เป็นนักกลอนต้องละเอียด รอบคอบอ่อนไหวถึงจะนำกลอนไปได้ด้วยดี ดีแล้ว ที่คุณมีสิ่งเหล่านี้ในตัวคุณเอง ครับผมจะอธิบายให้ ในสิ่งที่ถามนะครับ ล่วง นั้นหมายถึงหล่นจากต้นไม้ หรือการสิ้นสูญไป ปราศจากย้อนกลับคืนได้ เช่น ล่วงลับ ส่วน คำว่า ร่วงนั้นยังเหลือเยื้อใย เช่น ร่วงโรย หมายถึงมิได้ หล่นจากสิ่งที่อาศัยอยู่ครับ เช่นดอกไม้ที่ร่วงโรย ยังติดอยู่ที่ก้านกิ่งใบเพียงแต่เหี่ยวเฉาและถึง หล่นก็ไม่ไกลต้น คำว่าเฉวงนั้นเป็นคำที่ไม่มีในพจนานุกรมไทย หรอกครับ หรือคำว่า ฉวัดเฉวียน นั้นแปลความหมายว่า ฉ้อราษฏร์บังหลวง หรือ ฉ้อฉล ก็เหมือน กับคำฉวัดเฉวงและคำนี้เพราะเป็นคำเพี้ยน อย่างเช่นคำของพวกวัยรุ่นนั่นเอง เพียงแต่เป็นคำโบราณ เขามักจะนิยม นำมาใช้ในการแต่งกลอน ตัดคำบางคำ ออกไปจะเรียกคำพ้องหรือคำเพี้ยนก็ได้ครับ อย่างเช่น นกบินฉวัดเฉวียนวนไปในเวหา กลับแปลไปอีกอย่างหนึ่งคือ นกบินแฉลบไป แฉลบมาในท้องฟ้าเป็นต้น รักฉวัดเฉวงหวั่นไหวในรักเก่า เป็นต้น แต่ผมตัดเอาเพียงคำเฉวง ซึ่งเป็นคำเพี้ยนมา เท่านั้น เป็นภาษาพูดไม่มีในพจนานุกรมไทย หรอกครับ ส่วนคำว่า เขลง นั้นมีในพจนานุกรมไทย หมายถึง ทอดอารมณ์อย่างสบาย ฉนั้นการเขียนกลอนก็ดีโคลงก็ดีเขาจะตัด บางส่วนออกไปเพื่อมิให้เกิน เช่นกลอนแปด ก็ต้องแปดคำ จึงต้องตัดบางส่วนไป หรือโคลง คำว่า เพริศพริ้ง ก็จะกลายเป็นคำเพริดพริ้ง เป็นต้น ด้วยบังคับด้วยแม่ กด ครับ การเขียนกลอนต้องทราบอะไรๆหลายๆอย่าง ประกอบด้วยรู้จักการใช้อักษรผสมผสานกันเข้า กับทำนองในลักษณะ เด โร มี ฟา ซอล ลา ซิ โด กลอนถึงจะอ่อนไหวพลิ้วไป คงจะเข้าใจแล้ว นะครับ อิอิ ผมเองความรู้น้อยต่ำต้อยแล้วผสม ด้วยบ้าๆบอๆบวมๆบ๊องส์เข้าไปอีกครับ คิดเอาเอง ผิดถูกไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 13:48 น. - comment id 880272
คุณ ชงโค จะเป็นคุณ ช่อชงโค หรือเปล่าเพราะรู้จักกัน มาครับเขาอยู่ที่อเมริกาโน่นผมเองคิดถึงเขาเสมอๆ ครับ หากไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ขอขอบคุณที่ชมมาครับ หากว่างๆแวะมาเยี่ยมคนแก่อีกนะครับจะได้เป็น เพื่อนแก้เหงาครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 13:54 น. - comment id 880274
คุณ white roses ขอบคุณครับ ในความห่วงใยผมเสมอมาผมก็ เขียนไปเรื่อยๆเปื่อยๆตามอารมณ์ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 13:59 น. - comment id 880276
คุณ พิมญดา อิอิ คุณก็รู้นิสัยผมดีว่า ผมเองไม่ค่อยชอบยุ่ง เรื่องคนอื่น ยิ่งเรื่องการเมืองแล้วโอ้ยไปกันใหญ่ เพียงอาศัยจิตใจอารมณ์เป็นปัจจัยเท่านั้นเองครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 15:31 น. - comment id 880311
เป็น "ถวิลครวญ" ที่พริ้มเพราด้วยความไพเราะเลยค่ะคุณลุง...
29 กรกฎาคม 2551 15:48 น. - comment id 880317
เสียงอดีตกรีดฝันวันคิดถึง ความเงียบเหงาอลอึงอยู่ในจิต เสียงพฤกษไพรทำใจให้หวนคิด ถึงมิ่งมิตรยามหวานกาลชมจันทร์ สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ
29 กรกฎาคม 2551 16:57 น. - comment id 880348
ถวิลครวญว่าอยากแต่งกลอนบ้าง แต่ใจร้าง...สมองล้าน่าสงสาร อันตัวเราแสนเศร้าเจอเหล่ามาร แม้อยากสร้างอริยทรัพย์สักปานใด ไม่มีใครเข้าใจในดวงจิต แม้ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดทนไม่ไหว ยากจะหาแม้ในเวบที่เข้าใจ ไม่เป็นไรใจเราดีก็คงพอ สวัสดีค่ะลุงแก้ว
29 กรกฎาคม 2551 18:02 น. - comment id 880369
คุณ whitelily แม่ดอกลิลลี่ขาวแสนสวย ความเหงาอารมณ์เย้า สิ่งเก่าๆเลยปล่อยไปตามอารมณ์บ่มกลอนออกมา แบบนี้แหละจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 18:33 น. - comment id 880373
คุณ พี่ดอกแก้ว โอ้ยอดหญิงธรรมะมาเยือนแล้ว สร้างจิตแผ้วผาดผุดประดุจสี แห่งตะวันบรรเจิดเลิศเปรมปรีดิ์ มรรคฤดีหม่นหมองผ่องพรรณราย อริยะทรัพย์นับหมื่นย่อมคืนกลับ ยามร่างสลับแปรเปลี่ยนเวียนสิ่งสลาย จากเกิดแก่เจ็บตายไม่กลับกลาย สิ่งทั้งหลายหากมองเฝ้าปองธรรม อนิจจังทุกขังอนัตตามาสู่ร่าง เวรกรรมวางเวียนไว้ไม่ชื่นฉ่ำ นอกเสียจากละในสิ่งอิงน้อมนำ สร้างเลิศล้ำปัญญามาตัดรอน ดั่งดอกแก้วขาวพิสุทธิ์ประดุจสล้าง หอมกลิ่นพลางสร้างธรรมล้ำเลิศสอน ต่อมวลชนพ้นเคยย้ำมาซ้ำตอน แล้วถอดถอนกิเลสพ้นจนนิพาน. ผมดีใจที่พบยอดหญิงแห่งธรรม เลยน้อม นำบทกวีนี้ฝากไว้หวังว่ามูลนิธินี้ย่อมบรรเจิดจ้า ตลอดชั่วกาลนาน นะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 18:43 น. - comment id 880378
คุณ บุษย์น้ำทอง สวัสดีครับ ที่จริงกลอนคุณก็งามอยู่แล้ว กระท่อมน้อย หลังนี้ในบ้านกลอนไทยที่ผมเองอาศัยอยู่นี้ยินดี ต้อนรับเสมอประดุจฉันท์ญาติพ้องน้องพี่ หลังนี้ เปิดไว้เสมอมิอาจนับว่าจะยิ่งใหญ่ก็ตามแต่เปี่ยม ด้วยน้ำใจยิ่งนักในทุถกรณีย์หากต้องให้ช่วยเหลือ ก็พร้อมยินดีเสมอเท่าที่สามารถจะช่วยได้ แต่เพียง ข้อแม้ข้อเดียวคือต้องมีความจริงใจต่อกัน ปราศจาก การปั้นแต่งแอบแฝงสิ่งใดๆทั้งสิ้นเท่านี้ก็เพียง พอแล้ว ผมเองท่องเวปฯมาก็มากพอสมควร เห็นว่าเวปฯไทยกลอนนี้แหละคือเวปฯที่เปิด ทุกกรณีย์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็สามารถระบาย ได้ทั้งสิ้น บางคนไม่เคยเป็นกลอนเลยก็สามารถ มาศึกษาไขว่หาความรู้ได้ เพราะทุกๆคนจะคอย ช่วยเหลือให้เสมอๆๆครับขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
29 กรกฎาคม 2551 18:53 น. - comment id 880381
ถวิลครวญนวลใดที่ไหนหนอ เคนเคลียคลอห่วงหวงทั้งปวงฝัน จึงพร่ำเพ้อครวยหาละดาวัลย์ แม่แจ่มจันทร์...วันเพ็ญ....หลีกเร้นกาย.. สวัสดีค่ะลุง...ครวยจริงๆๆเลยค่ะ
29 กรกฎาคม 2551 19:54 น. - comment id 880384
คุณ ครูพิม ครูแสนสวยเมืองเลยเฉลยถาม ถ้อยงดงามยามถวิลจินต์ครวญหา หาวาบหวามสิ่งใดในสายตา ด้วยจินตนาอารมณ์บ่มครรลอง. ยามเงียบเหงาอยู่คนเดียวในบ้านยามฝนตก พรำๆดูเวปฯโน่นเวปฯนี้ก็แสนเบื่อหน่ายจึงได้เขียน บทกลอนเพื่อสร้างจิตใจให้เร่งเร้าอารมณ์ไปตาม สภาพฟ้าดินแหละครับ มิมีอะไรหรอกครับ ขอบคุณ ครูแสนสวยมากนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.