อยากจะเขียนบทกลอนสุนทรหวาน ร้อยประสานคำงามทั้งความหมาย ให้คนอ่านได้คิดอภิปราย เข้าใจง่ายรู้คือสื่ออย่างไร อยากจะเขียนบทกวีมีคุณค่า ทั้งเฉียบคมด้วยปัญญาน่าเลื่อมใส ไม่ซ้ำคำซ้ำความอยู่ร่ำไป เหมือนครูกลอนสอนไว้แต่บางบรรพ์ อยากจะเขียนกลอนดีลีลาล้ำ แต่อับจนถ้อยคำนำรังสรรค์ จึงต้องปรือฝีมือทุกวานวัน ด้วยมุ่งมั่นเป็นกวีที่ปรีชา แม้นอยากร้อยถ้อยกลอนสุนทรหวาน ต้องรักอ่านฝึกเขียนเพียรศึกษา พรสวรรค์หรือจะสู้แสวงมา ยอดกวีไร้ตำราหาใดมี...
26 พฤษภาคม 2551 22:14 น. - comment id 853995
แล้วสักวันฝันเจ้าจะเป็นจริง คนเก่ง เป็นข
26 พฤษภาคม 2551 22:31 น. - comment id 853998
ขอเป็นแรงใจหนึ่งให้ถึงฝัน พร่ำรำพันวันนี้นี่ส่งเสริม เขียนกลอนดีมีใจมั่นต่อเติม เพียงแค่เริ่มก็ดีมีสุขใจ
26 พฤษภาคม 2551 23:11 น. - comment id 854012
อยากเขียนทุกประเภทที่กล่าวมาค่ะ แต่ยากส์สสส
27 พฤษภาคม 2551 00:42 น. - comment id 854028
กลอนคุณเพราะตั้งแต่เข้าบ้านมาก็เจอกลอนเพราะของคุณมาตลอด ผมชอบจะตายไป แต่งดีมาตลอด ที่อับจนน่ะผมครับ ที่บางวันหาคำมาแต่งไม่ได้ดังใจเลย
27 พฤษภาคม 2551 06:16 น. - comment id 854074
เท่านี้ก็พริ้งจริงๆแล้วค่ะ
27 พฤษภาคม 2551 08:04 น. - comment id 854108
มาชื่นชมผลงาน ไพเราะมากครับ
27 พฤษภาคม 2551 11:01 น. - comment id 854137
รักที่จะอ่าน งานน้องๆคนรุ่นใหม่ไฟฝันแรงกล้า แต่ละคน ต่างมีพรสวรรค์ฝันจินตนา คนละสไตล์ ตามแบบฉบับแห่งอุปนิสัย สะท้อน..สื่อ.. ให้เห็นถึง ความเป็นตัวเองอย่างเด่นชัดค่ะ ว่า.. รัก ชอบ ชื่นชม มีทัศนคติ วิสัยทัศน์ ต่อโลกใบกลมๆบิดๆเบี้ยวๆ ของเราอย่างไร และ.. ต่อวิถีชีวิตผู้คนเช่นไร หากจะเทียบ ความงามของบทกวีกับอิสสตรี (ไปกันได้มั้ยนี่) จะบอกอีกทีว่า ก็คงมี.. เสน่ห์...สาระงดงามไปคนละแบบ และ.. ที่สำคัญทุกสิ่งนั้น ขึ้นอยู่กับประเด็นสำคัญ คือขอเพียงมีจิตสำนึก เมตตาปรารถนาดี พลีจารจด.. ลดร้อนไร้ให้กับทุกดวงใจ ในโลกนี้.. ให้ได้พบทางสว่างสวยไสวแสนงาม นิยามค่าคำคุณธรรมค่ะ ก็คงเป็นสิ่งที่พึงทำได้ อย่างแสนยอดเยี่ยมเป็นที่สุดแล้วนะคะ และด้วยรักรักค่ะ เลยเอาภาพสาวงาม ที่แสนอิสรเสรีมาลงให้ดูนะคะ พี่พุดชอบทั้งงามแผกและงามดิบ เลยรจจนางานทั้งสองแนว ไว้ได้อย่างกลมกลืนค่ะ ทั้ง.. ในนาม *สาวบ้านนาผู้รักท้องทุ่งท้องนา รักรวงระย้า วิถีธรรมชาติไพร ธรรมชาติไท และ *พุดพัดชา* อีก นามปากกา ที่รจนาได้ทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งหวังหวานและขมขื่น พร้อมเพียรหยิบยื่นธรรมะ ให้รู้รักเป็นรักให้เย็นใสงาม ในท่ามโลกแล้งไร้นะคะ ที่นับวัน.. จะกลายกลับผันแปร เอาแน่นอนไม่ได้แล้วค่ะกับทุกข์ ภาวะวิกฤตโลกร้อน ใจดวงอรชรจึ่งเพียรแสวง ถักร้อยสร้อยคำที่เป็นงาน *กลางๆอยู่ระหว่าง *ความเป็นปัจจุบันปุถุชนคนธรรมดาธรรมชาติดวงชีวาชีวีที่จักเช่นนี้เองนะคะ รักและรักค่ะ จากดวงใจพี่พุด เขียนกลอนเศร้าใช่เศร้าใจไปทุกครั้ง เขียนกลอนหวังใช่หวังได้ไปทุกสิ่ง เขียนกลอนช้ำใช่ช้ำใจในโลกจริง เขียนทุกสิ่งขอแค่ดีเท่าที่ทำ.. เขียนเรื่องรักใช่รักใครไปเสียหมด เขียนงามงดให้งามใจไม่ได้ช้ำ เขียนห่วงหาใช่วิ่งหามาระกำ เขียนจากจำใจจากจบพบแต่ดี.. เขียนดอกไม้ใช่ว่าต้องปลูกเสียทุกต้น เขียนรักคนใช่อ้อนใครจากใจนี้ เขียนฝากฝันฝากงามจันทร์มอบสิ่งดี เขียนชีวีฝากชีวาใช่ด่าใคร.. เขียนสวรรค์เขียนนรกยังไม่เคยตกเลยสักครั้ง เขียนความหวังให้กำลังใจไม่หวั่นไหว เขียนความดีความงามโอบเอื้อใจ เขียนเขียนไปดีกว่าหายใจไปวันวันอิอิ
27 พฤษภาคม 2551 12:43 น. - comment id 854161
เห็นด้วยกับคุณพุดครับ งานที่กลั่นจากหัวใจย่อมมีค่าเสมอครับอย่างน้อยก็มีค่าสำหรับตัวเราครับ
27 พฤษภาคม 2551 15:38 น. - comment id 854242
พรสวรรค์หรือจะสู้แสวงมา ยอดกวีไร้ตำราหาใดมี... ^ ^ ^ เป็นสัจธรรมจริงๆค่ะ ก่อนที่จะทำในสิ่งที่ใจรัก เราต้องให้คุณค่าและความสำคัญกับสิ่งนั้นก่อน
27 พฤษภาคม 2551 16:31 น. - comment id 854282
กลอนที่เขียนคนเขียนเท่านั้นค่ะที่จะรู้ความหมาย ของตัวกลอนที่แท้จริง....
27 พฤษภาคม 2551 21:01 น. - comment id 854401
อืมมม ยอดกวีไร้ตำราหาที่ไหนก็ไม่มี จริง ๆ ด้วยแฮะ
31 พฤษภาคม 2551 20:38 น. - comment id 855694
แม่นแล้ว ถูกต้องนะคร๊าบแวะมาเยี่ยมค่ะ
12 มิถุนายน 2551 15:44 น. - comment id 860890
หากเขียน ย่อมมีคนอ่าน.. หากไม่เขียน ใครเล่าจะมารับรู้..