มองฟ้าคราใดให้รู้สึก ในลึกลึกแอบคิดด้วยอิจฉา ฟ้ามิเคยเลยร้างห่างสายตา มีเพื่อนมาห้อมล้อมเห่กล่อมใจ คราคืนค่ำดวงดาวก็พราวแสง กระพริบแข่งขานรับจับฟ้าใส อีกบางคราดวงจันทร์อันอำไพ สาดแสงให้โลกงามยามราตรี เมื่อดาวเดือนเลือนหายจากปลายฟ้า ตะวันจ้าทักทายมิหน่ายหนี โลกอาบอุ่นด้วยแสงแห่งระวี ฟากฟ้ามีเพื่อนพ้องมิหมองใจ ดูซินั่นเมฆน้อยลอยเลื่อนลับ หากแม้นจับลงมาจากฟ้าได้ จะปั้นเป็นฝูงปลามิช้าไย แล้วปล่อยไปว่ายฟ้าท้าคลื่นลม หลังฝนโรยโปรยปรายฟ้าคลายร้อน นกบินร่อนเรื่อยเรียงร้องเสียงขรม รุ้งทอแสงระยับตาชื่นอารมณ์ ฟากฟ้าพรมสีสันอันงดงาม อยากโผผินบินได้คล้ายปักษา คุ้งขอบฟ้ากว้างนักก็จักข้าม เกาะเรียวรุ้งเลื่อมสลับสีวับวาม* สัมผัสความอุ่นคลาย ณ ปลายฟ้า*
ปราณรวี 7 พ.ค. 2551 22:49 น. - ID 114903 
4205
5
0
7 พฤษภาคม 2551 23:08 น. - comment id 847391
หากฟ้ามีเมฆดำคอยปกคลุม ฟ้าคงกลุ้มมองแล้วไม่สดใส อีกฟ้าผ่าล่อมาคงขัดใจ รีบหนีไกลจากฟ้าน่ากลัวจัง อิอิ แบบมึนๆ จะเอาที่หนี่ง
7 พฤษภาคม 2551 23:20 น. - comment id 847399
สวัสดีดึกดื่นพี่ป. สบายดีมั้ยครับ กลอนเพราะเหมือนเดิมเลยนะ มิสๆ....
7 พฤษภาคม 2551 23:25 น. - comment id 847403
ไพเราะมากค่ะ เพลงก็เพราะมาก สบายใจจริงๆนะคะ มาอ่านกลอนแล้วอารมณ์ดีค่ะ
7 พฤษภาคม 2551 23:40 น. - comment id 847405
ดาวประกายงดงามยามคืนค่ำ ครั้นฝนพรำรุ้งงามจึงทอสาย ต่างอยู่คู่ฟ้า..ทว่า..เดียวดาย เอื้อมสุดปลายแห่งฟ้า..คว้าเพียงลม.. ไพเราะจังเลยจ้า ทั้งเพลงและกลอนเข้ากันได้ดีจ้าเห็นแล้ววว ..หัวหกตกคำมำ..เป็นไงอ่ะ อิอิ
8 พฤษภาคม 2551 00:26 น. - comment id 847417
๑ คุณรัน อิอิ มีเมฆดำมาคลุมเลยเหรอคะ งั้นฝนจะมาดิ้คะ ดีๆ กำลังร้อนๆ เลยค่ะ ตกดับร้อนก็ดีเนาะ แต่ว่า มาแต่ฝนนะ ฟ้าผ่าไม่เอาง่ะ ฟ้าแล่บฟ้าร้องนี่ ป หลบก่อน ไม่เคยไปสาบานอะไรไว้หรอกค่ะ แต่ ไม่ไว้ใจไว้ก่อน อิอิ ๒ ลิงธนา หวัดดียามดึกดื่นค่ะ ปกติจะลงกลอนดึกๆ นะคะ แบบบ้านโล่งๆ ไง ก่อนลงก็ดูฤกษ์งามยามดีก่อน ด้วย อิอิ แต่กลอนวันนี้ดูไร้สาระไปน่ะ แบบหมดมุข หัวไม่แล่นเลย ๓ คุณช่อ เฮ่อ ป นะแต่งไปแบบไม่มีไรในหัวเลยค่ะ แต่อยาก แต่งไงคะ เลยออกมาได้เท่าที่เห็น แบบเอาภาพกะ เพลงมาข่มไว้ด้วย ไม่งั้นกร่อยสนิทเลยค่ะ ๔ ครูหมูอ้วน โห ยามค่ำมีรุ้งด้วย เจ๋งจริงด้วย ฮี่ๆๆ แซวๆ ค่ะ อ่านะ เถอะ อย่างน้อยก็ได้เอื้อมแล้วไงคะ ถึงแม้ จะคว้าได้แต่ลมก็ยังดีนะคะ (ดีไงหว่า งงเอง) อ้าว..หัวหกตกแล้วคลำไงคะ อิอิ แบบว่าคลำๆ ว่ามันโนมั้ย ฮ่าๆๆ ไปน้ำขุ่นๆ นิ ป
8 พฤษภาคม 2551 03:38 น. - comment id 847438
เขียนไพเราะงและ งดงามจริงๆค่ะ
8 พฤษภาคม 2551 03:42 น. - comment id 847439
เพราะมากครับ กระผมแวะมาเยี่ยม ศึกษาหาความรู้ครับ
8 พฤษภาคม 2551 07:28 น. - comment id 847496
อ่านแล้วอิจฉา ฟ้า ไปด้วยเลยอ่ะ ป.
8 พฤษภาคม 2551 07:44 น. - comment id 847505
๖ คุณนรศิริ สวสัสดีค่ะ ขอบคุณที่ชอบทกลอนค่ะ ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเรื่องมาแต่งน่ะค่ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ ๗ คุณเฮาชาวดอย อิอิ แวะมาเป็นแพ็คคู่เลยค่ะ เท่าที่เห็นกลอน คุณมีเนื้อหาดีมากเลยค่ะ ป ซะอีกเริ่มเขียน เรื่อยเปื่อยแระ ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ ๘ โคลอน ดีจังมีเพื่อนแระ เวลาท้องฟ้าโปร่งๆ อากาศ ดีๆ ไม่ร้อนจัดนะ ป ชอบออกมานั่งมองฟ้าจัง มันมีอะไรให้จินตนาการเยอะนะคะ
8 พฤษภาคม 2551 08:03 น. - comment id 847512
8 พฤษภาคม 2551 12:04 น. - comment id 847569
แก้วประเสริฐ.
8 พฤษภาคม 2551 12:32 น. - comment id 847577
อย่าอิจฉาฟ้าเลย อยู่บ้านกลอนก็มีเพื่อนเยอะแยะนะนะ
8 พฤษภาคม 2551 12:34 น. - comment id 847580
สวัสดีระหว่างมื้อกลางวันค่ะ ๑๐ คนบนเกาะ นั่นน่ะซิเนาะ ไปอิจฉาฟ้าทำไม ป ก็ไม่เข้าใจ เหมือนกันค่ะ อิอิ มื้อกลางวันทานอะไรคะ หรือไปนั่งเลี้ยงทุยอยู่กลางทุ่งคะ ฮี่ๆ๑๑ คุณลุงแก้ว โหยย อย่าอิจฉาเลยค่ะ ป ไม่มีอะไรให้ใคร อิจฉาหรอกค่ะ.. จริงๆ กลอนบทนี้แต่งมาก็ เริ่มจากจินตนาการจากเพลงค่ะ ส่วนภาพน่ะ มาหาเจอทีหลัง แต่บังเอิญคล้ายๆ กลอนน่ะ ค่ะ เลยออกมาแบบจินตนาการฟั่นเฟือน แบบที่เห็นค่ะ ลุงแก้วสบายดีนะคะ
8 พฤษภาคม 2551 12:36 น. - comment id 847583
๑๒ คุณตามน อิอิ ป ก็ว่าไปเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ช่วงนี้มีอะไร ให้คิดเยอะน่ะค่ะ เลยหัวเรื่อยเฉื่อย แต่ง อะไรออกมาไม่มีคอนเซปท์นัก ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
8 พฤษภาคม 2551 12:50 น. - comment id 847604
สวัสดีค่ะพี่ ป อิอิ เพราะจัง ช่ายๆ ว่าไปก้อน่าอิจฉาเอิ๊กๆๆ ชอบมองท้องฟ้าตอนเย็น ๆ กะตอนเช้าตรู่อ่ะค่ะ ตอนเช้าก้อจะเป็นฟ้าที่สวยมากๆเลย ส่วนตอนเย็นๆ ก้อจะเป็นสี แดงๆส้ม แสดๆ อิอิ สวยมากเลยย อิอิ
8 พฤษภาคม 2551 13:19 น. - comment id 847625
สวัสดีค่ะคุณ ป. มาทักทายกลอนสบาย ๆ พร้อมกับวันสบาย ๆ ที่แดดร้อนค่ะ.... รีก็อิจฉาฟ้าเหมือนนะนี่...
8 พฤษภาคม 2551 13:33 น. - comment id 847632
๑๕ เจ้าตัวเล็ก โรงเรียนใกล้เปิดแล้วจิ้...ช่ายๆ ให้มองเช้า กะเย็นก็พอมองได้นะ แต่ถ้าให้ออกไปมอง กลางวันนี่คงหงายหลังเป็นลมไปเลยนิ ฮี่ๆ แบบว่ามันร้อนไง๑๖ คุณรี โหหห นี่เดือนพฤษภาแล้วเนอะ ทำไมยังร้อน ขนาด ป ห่างหายจากอากาศแบบนี้ไปนาน หลายปี ตอนนี้นะไม่ออกไปไหนเลยค่ะเวลา กลางวัน ร้อนจนเหมือนจะไหม้เลยนะคะ
8 พฤษภาคม 2551 13:52 น. - comment id 847651
..น้านๆไปอิจฉาทำไมฟ้า ..ฟ้าทำให้โลกสวยงามและมีความสุข แล้วมีดวงดาวมากมาย..
8 พฤษภาคม 2551 14:00 น. - comment id 847658
๑๘ พี่ไหมไทย ง่ะ...ดูดิ้คะ บนฟ้าน่ะ มีทั้งเดือน ดาว อาทิตย์ เมฆ ลม ฝน รุ้ง ฯลฯ เฮ่อ แบบว่ามีอะไรให้ คิดจินตนาการไปได้เยอะแยะเลยนะคะ เลยจับมาแต่งกลอนเล่นซะเลย
8 พฤษภาคม 2551 14:17 น. - comment id 847664
บนท้องฟ้ามีเมฆน้อยลอยขาว มีภาพเงาจินตนาพาคิดฝัน อยากเป็นเมฆลอยล่องอัศจรรย์ แต้มสีสันพื้นฟ้าให้งดงาม สวัสดีค่ะ พี่ปราณรวี ดอกบัวชอบมองก้อนเมฆแปลสภาพเป็นรูปร่างต่างๆสวยดีค่ะ ดอกบัวขอให้พี่ ป. มีความสุขทุกวันค่ะ
8 พฤษภาคม 2551 16:48 น. - comment id 847690
บนท้องฟ้ามีดวงตะวัน อีกดวงจันทร์และดาราหลาย มีปุยเมฆมีสายฝนกล่นกระจาย มีแสงพรายเฟื้องฟุ้งรุ้งอ้วนงาม. มีอะไรอีกน๊า...
8 พฤษภาคม 2551 17:02 น. - comment id 847691
๒๐ ดอกบัว เมฆขาวลอยลิบลิ่วปลิวลมพัด เป็นภาพสัตว์นานาตามตาเห็น อยากบินได้ไขว่คว้ามาปั้นเป็น ให้เฉกเช่นจินตนาภาษาเรา ฮี่ๆ ร้อนๆ หัวไม่แล่นเลยค่ะ ตอนนี้ถ้าออกไป มองเมฆคงตาลายกลับเข้ามา
9 พฤษภาคม 2551 06:26 น. - comment id 847755
หวัดดี ป. หมดมุขเหรอครับ แต่ผมว่าดูสบายๆนะ ไม่หนักไม่จริงจังมาก เหมือนนั่งฟังเพลงริมทะเล พักผ่อนในวันหยุด ประมาณเพลงวงเฉลียง สบายๆอะไรทำนองนั้น เสร็จงานแล้วใช่ไหมครับถึงแต่งกลอนอารมณ์นี้ออกมาได้ ขอให้มีความสุขครับ
9 พฤษภาคม 2551 10:26 น. - comment id 847837
๒๓ คุณฤทธิ์ จริงๆ มีงานสำคัญมากกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ น่ะค่ะ หัวไม่โล่งหรอกค่ะ เครียดๆ ด้วยซ้ำ เวลาเครียดๆ แล้วอยากแต่งกลอน ทำให้ รู้สึกผ่อนคลายได้ในบางครั้ง อยากแต่งแต่ ไม่มีไอเดียไงคะ ก็เลยจับโน่นจับนี่มาชนกัน ออกมาแบบที่เห็น แต่งเสร็จแล้วก็มองอยู่ ตั้งนานกว่าเอามาลงได้มั้ยนี่ มันดูไร้สาระไงไม่รุค่ะ อีกไม่นาน ป ก็กลับไปโน่นแล้วค่ะ จาก นั้นคงห่าง หรือหายไปเลย ยังบอกไม่ได้ คุณฤทธิ์สบายดีนะคะ ยังรออ่านพุทธประวัติ อยู่อีกนะคะ
9 พฤษภาคม 2551 11:40 น. - comment id 847858
ฟ้าปีนี้ยังมีเรื่องให้อิจฉา แต่ปีหน้าไม่รู้ว่าอิจฉาไหม เพราะแสงแดดแผดกล้าขึ้นเรื่อยไป ฟ้าคงไม่อบอุ่นดังคุ้นเคย ปีนี้ยังสดใสในสีฟ้า ไม่ค่อยร้อนจัดจ้าอย่างเปิดเผย แต่ปีหน้าเรายังไม่รู้เลย ว่าจะเงยมองฟ้าอิจฉากัน เพลงเพราะมาก...กลอนก็สวยงาม ไหนว่าเมืองไทยร้อนไงคะน้อง ป. ..ยังอุตส่าห์มีแก่ใจมานั่งชมฟ้าในหน้าแล้งนี้ได้อีก
9 พฤษภาคม 2551 12:13 น. - comment id 847881
๒๕ พี่ดอกแก้ว สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว....ก็แหม ช่วงก่อนฝนตกลงมา พอชะความร้อนไปได้วันสองวัน ไงค่ะ ฟ้าเลยพอมีอะไรให้จินตนาการบ้าง น่ะค่ะ ... ป ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะว่า ปีหน้าจะกล้ามองฟ้ามั้ย เพราะมองไปอาจ เจอแต่แสงแดดร้อนแผดเผาก็ได้เนาะ ปีหน้าคงแต่งกลอนแบบร้อนๆ มั่งน่ะค่ะ
9 พฤษภาคม 2551 16:42 น. - comment id 847995
อิจฉาฟ้าบางคราฟ้าร้องไห้ รินหลั่งไหลร่วงกระเซ็นเป็นเม็ดฝน บางครั้งไร้ดาราพามืดมน บางครั้งโดนหมอกปกคลุมคงหมองมัว ก็เอาแค่นี้แหละครับ หาที่ลงไม่ได้เหมือนกัน ว่าจะจบในบท ยังไม่จบซะนี่
9 พฤษภาคม 2551 17:26 น. - comment id 848014
๒๗ คุณชัยชนะ สงสัยอากาศร้อนจะเป็นเหตุมังคะ ทำเอา จินตนาการการแต่งกลอนหดหายไปกัน ถ้วนทั่ว ป ว่าจะแต่งเป็นกลอนตอบยัง คิดวรรคแรกไม่ได้เลยค่ะ ตอบแบบนี้ แล้วกันนะคะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
9 พฤษภาคม 2551 22:32 น. - comment id 848113
สงสารฟ้าพาให้ใจแสนเศร้า เห็นฟ้าเหงาเดียวดายไม่ว่างเว้น ต้องห่างไกลผู้คนจนเหมือนเป็น สิ่งลอยเด่นที่อ้างว้างกลางนภาจริง ๆ แล้ว ฟ้าอยู่ไกลน๊า แถมทุกคนยังได้แต่มอง น่าสงสารออก อย่าไปอิจฉาฟ้าเลย อิอิ คิดถึงนะค่ะ แถมขอบอก กลอนคุณ ป. ไพเราะมาก ๆ เลยด้วยค่ะ
9 พฤษภาคม 2551 22:34 น. - comment id 848114
สงสารฟ้าพาให้ใจแสนเศร้า เห็นฟ้าเหงาเดียวดายไม่ว่างเว้น ต้องห่างไกลผู้คนจนเหมือนเป็น สิ่งลอยเด่นที่อ้างว้างกลางนภา
10 พฤษภาคม 2551 00:04 น. - comment id 848155
๒๙,๓๐ ผู้หญิงไร้เงา (มาเบิ้ล)ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย
10 พฤษภาคม 2551 09:20 น. - comment id 848238
สวัสดีครับ ปราณรวี มาขอแอบอิจฉา ฟ้า ด้วยสักคน ไม่ได้เข้ามานานแล้ว ระลึกถึง พี่ๆเพื่อนๆ ทุกๆคนเลยครับผม สบายดีนะ ป.
10 พฤษภาคม 2551 09:39 น. - comment id 848249
๓๒ เฮ้..คุณปางสีฝุ่น อ่านะ..นึกว่าลืมทางเข้าบ้านกลอนไปแล้ว นะเนี่ย...เฮ้อ แบบว่าความคิดกำลังวุ่นวาย สับสนน่ะ เลยแต่งกลอนไม่ค่อยออก บางที เอาเรื่องเก่าๆ ที่แต่งค้างไว้มานั่งมองตั้งนาน ก็แต่งไม่ได้...คงถึงเวลาต้องหยุดเขียนซะ แล้วกระมัง ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
หน้าส่วนตัว
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
