แหวกม่านหมอกเจือจางสว่างจ้า สุริยาโผล่มาจากขุนเขา สายลมพัดแผ่วแผ่วแว่วแว่วเบา ก่อนสองเราเคียงคู่อยู่ท้องนา เดินหยอกเย้าเคล้าคลอพนอรัก ประสบพักตร์อายเอียงอย่างเดียงสา ตืนวันผันผ่านไปไม่นำพา การศึกษาพาแยกทางให้ห่างกัน เจ้าฐานะร่ำรวยอำนวยเอื้อ สาวเอื้องเหนือลาสู่แดนสวรรค์ เข้าเขตรั้วมหา'ลัยใจผูกพันธ์ เราต่างมั่นสัญญาถึงลาไกล ปล่อยหนุ่มนาอาชีวะอันต่ำต้อย ตะวันคล้อยย่ำสายัณห์จิตหวั่นไหว ตำสัญญาว่ารักพี่มิเปลี่ยนใจ กาลผ่านไปเงียบหายไร้ข่าวคราว เบอร์ไม่มีจะเมล์มาก็หาไม่ บังเอิญไปในเมืองมีเรื่องเศร้า เห็นหนึ่งหญิงหนึ่งชายเดินคลอเคล้า ใจพี่บาวแน่นเหน็บเจ็บในทรวง แหวกม่านหมอกเจือจางพลางร้องให้ อรทัยไปดีพี่ไม่ห่วง หากเขารักพี่ไม่ว่าเพียงอย่าลวง ใจหนึ่งดวงของพี่นี้เฝ้ารอ .........ลูกทุ่ง....
29 เมษายน 2551 18:08 น. - comment id 844622
ม่านหมอกหญ้าระบัดพัดไหว โลมไล้หญ้าบางกลางทุ่ง เม็ดข้าวร่วงย่างกลางยุ้ง รอรุ่งรพีสีทอง
29 เมษายน 2551 19:16 น. - comment id 844680
สวัสดีตอนเย็นๆค่ะ รักร้างนางจร งามงอนห่างเหิน ฐานะต่างเกิน ต้องเดินแยกทาง เขามีคู่เคียง ต้องเลี่ยงหนีไกล หนุ่มนาเสียใจ มหาลัยหลอกลวง
29 เมษายน 2551 19:25 น. - comment id 844686
แด่ คุณวชรกานท์ อ้อ..มีความหลังฝังใจนี่เอง แต่สงสัยว่าไปอยู่ท้องนาที่ไหนนะ
29 เมษายน 2551 22:13 น. - comment id 844755
สงสารใจหนุ่มลูกทุ่ง ต่อให้หนุ่มลูกกรุงก็คงคล้าย เงินทองของนอกกาย แต่ก็มีความหมายมากมายสำหรับเธอ ความรักอาจเปลี่ยนแปลง รักเธอเสแสร้งตามสิ่งสนองเสนอ ประสบการณ์ต่างคนต่างพบเจอ ย่อมควรที่ฉันและเธอเดินต่างทาง ขอให้กำลังใจคุณวชรกานท์ อ่านบทกวีคุณ เฮาชาวดอย และคุณกันนาเทวี ก็เพราะมากครับ
30 เมษายน 2551 16:58 น. - comment id 844974
มีความหลังฝังใจเรื่องใดหนอ หนุ่มจึงพ้อต่อว่าจนว้าวุ่น สายลมผ่านแผ่วไหว..ใจละมุน ขอความอุ่นแห่งทุ่งนา...รักษาใจ..เด้อค่ะ..