กบเขียดร้องระงมนาหน้าแล้ง ประดุจร่ายแถลงการณ์ขอฝน แต่ยามนี้เทพทุกตนก็จนใจ ด้วยว่าน้ำขาดไปช่วงสงกรานต์ จึงทุกสถานเกาะแก่งแหล่งฟ้า ไร้กลุ่มก้อนเมฆา จะกลั่นเป็นหยาดพิรุณธารา หลั่งจากฟากฟ้า ประโลมดิน.....
2 เมษายน 2551 09:59 น. - comment id 833605
ฝนแล้ง...แต่ไม่แล้งน้ำใจค่ะ..แวะมากราบนมัสการค่ะหลวงพี่... http://maameu.ath.cx/meu/
1 เมษายน 2551 22:48 น. - comment id 836214
ยินดีต้อนรับกลับบ้านเจ้าค่ะ เด่วมาใหม่มาจองที่ 1 ก่อง
2 เมษายน 2551 02:44 น. - comment id 836229
แวะมาอ่านบทกลอนอันไพเราะจ้า แวะมาด้วยความคิดถึง
2 เมษายน 2551 09:10 น. - comment id 836251
วายุพัดซัดพาเมฆาคลุ้ม ธุลีกลุ้มเกลื่อนตาเวหาหาว อสุนีลงฟาดฉาดฉาดกราว ทั้งเดือนดาวลับหายจากสายตา กลางหน้าร้อนไฉนเล่าแล้งเท่านี้ ไหนยังมีพายุย้ำมาซ้ำหา ข้าวยากหมากยับแสนอัปรา คงถึงคราขัดสนแล้วคนไทย.. ลำบากกันอีกแล้ว.นี่ยังไม่นับอัตราเงินเฟ้อ ขึ้นอีก 5 เปอร์เซนต์กว่า..แต่ค่าแรงขึ้น แค่สี่เปอร์เซนต์นิดๆ..อย่างนี้เท่ากับว่า รายได้ลดลง..กว่าเดิมนั่นเองเพราะข้าว ของแพงขึ้น..คงจะแล้งจริงๆอย่างที่ท่าน แถลงแล้วขอรับ..สงสารก็แต่คนใช้แรงงาน ต่างๆที่ต้องดิ้นรนอย่างยากแค้น..เพื่อหา เงินจุนเจือครอบครัว...ขอรับพระคุณท่านเจ้า.
2 เมษายน 2551 10:09 น. - comment id 836263
ชะตากรรมชาวนาไทย.. รอรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญก่อนนะ คอยหน่อยนึง..อิอิ
2 เมษายน 2551 10:38 น. - comment id 836271
ฝนแล้งแล้วยังเจอโจรแล้งน้ำใจขโมยเกี่ยวข้าวอีก สงสารชาวนาจังค่ะ
2 เมษายน 2551 11:41 น. - comment id 836280
แล้งร้อนได้ แต่อย่าแล้งน้ำใจกันนะคะ
2 เมษายน 2551 11:43 น. - comment id 836282
แล้งนี้เพราะเทพไท เก็บน้ำไว้เล่นสงกรานต์ ไม่เหลือไว้เจือจาน เหล่าชาวบ้านตาดำดำ ข้าวขายราคาดี แต่ปีนี้ไม่มีน้ำ ทวยเทพเหมือนแกล้งทำ ชาวนาช้ำต้องทำใจ ความทุกข์ของชาวบ้าน รัฐบาลควรแก้ไข เกื้อกูลหนุนปัจจัย มีน้ำใจให้แก่กัน อย่ามีเพียงลมปาก คนทุกข์ยากต้องโศกศัลย์ ช่วยเหลือเอื้อแบ่งปัน ไทยเหมือนกันช่วยฉันที
2 เมษายน 2551 15:14 น. - comment id 836326
แห่นางแมวร้องเมี้ยวเมี้ยวลั่นทุ่ง แมวสะดุ้งตัวเปียกร้องเรียกหา เทวดาโปรดช่วยด้วยนำพา ส่งฝนมาจากฟ้าสุลาลัย เดินตะลุ่มดุ่มดุ่มสุ่มทุกบ้าน น้ำสาดบานทุกหมู่ผู้อาศัย ให้เจ้าเหมียวเปียกโซกโกรกถึงใน แห่เดินไปให้ทั่วทุกมุมเมือง ตีไม้เคาะโห่ร้องก้องท้องนา ฝนรีบมาหล่นโปรยโชยทุ่งเหลือง ดินที่แตกแยกห่างจากรุ่งเรือง รอฝนเอื้องหยดฟ้ามาสู่ดิน กว่าจะเสร็จพิธีรีตรองสับ เจ้าเหมียวซับน้ำตามิถวิล หนาวซู่ซกอกช้ำน้ำตาริน โถ่เจ้าดินแห้งผากลำบากตู
2 เมษายน 2551 16:27 น. - comment id 836351
คุณยาแก้ปวด...... ที่หนึ่งคว้าไป ตามระเบียบ...
2 เมษายน 2551 16:28 น. - comment id 836352
ตอบคุณ Black MooN..... ไม่ได้เจอกันนานขอบคุณที่แวะมา....
2 เมษายน 2551 16:35 น. - comment id 836355
ตอบคุณอรุณสุข..... ...เกิดวิกฤติแล้งน้ำเคยฉ่ำฟ้า เข้าเมษาสงกรานต์ต้องดานดิ้น เทพแห่งฝนอับจนน้ำฝนริน จึงร้อนสิ้นทุกสวรรค์ชั้นโลกา ที่ฟ้าแล้งแหล่งน้ำย้ำวิกฤติ วิปริตจากจุดมนุสสา กระทำกิจอันถ่อยด้อยปัญญา ก่อปัญหาโลกร้อนสะท้อนไป.... เป็นปัญหาดังที่คุณอรุณสุขว่ามานั่นแล แต่ทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อเราเป็นแค่ผู้รับผลของกลไกแห่งกรรม (ว่าเข้าไปนั่น) รัฐบาลท่านก็ว่าช่วยเต็มที่แล้วจะเอาอะไรอีก ว่างั้น ตกลงประชาชนก็ต้องก้มหน้ากันต่อไป.....
2 เมษายน 2551 16:39 น. - comment id 836359
ตอบ คุณ White rosees... สาธุ...อย่างไรเสียคนไทยเราก็ยังมีน้ำใจนี่แหละที่จะดับร้อนได้ อากาศร้อนๆ ทำใจเย็นๆ....รับสงกรานต์
2 เมษายน 2551 16:41 น. - comment id 836361
คุณคอนพูทน.... แหมชาวนาว่าจะขายข้าวได้ราคาซักหน่อย แต่ปุ๋ย ยา กลับขึ้นราคาไปรอก่อนหน้านี่แล้ว...
2 เมษายน 2551 16:43 น. - comment id 836362
คุณเพียงพลิ้ว... นั่นซี โจรพวกนี้ต้องทำอย่างคุณสมัครท่านว่า จับใส่กรงแล้วแห่ไปรอบเมือง ทำนองแห่นางแมว เอาซะให้เข็ด....
2 เมษายน 2551 16:45 น. - comment id 836363
คุณครูเจี๊ยบ..... ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง ใกล้สงกรานต์เข้ามาแล้ว ยิ่งต้องใจเย็นๆ...ความจริงต้องใจเย็นๆ กันตลอดปี...
2 เมษายน 2551 17:08 น. - comment id 836367
คุณ จิ้งจอกน้อย... ขอบคุณสำหรับ กาพย์ยานี อันไพเราะ... ร้อนแล้งทุกแห่งหน เทพแห่งฝนไม่ปราณี น้ำท่าอันเคยมี ก็แห้งหนีไม่เจือจาน ข้าวกล้าอันเคยเขียว ก็แห้งเหี่ยวเพราะแดดผลาญ ไร้รวงใครซมซาน อุ้งมือมารคือนายทุน ลงแรงจนเสียแรง ค่าปุ๋ยแพงใครอุดหนุน ค่ายาก็มารุน ค่านายทุนต้องใช้ไป ทำนาไม่เห็นข้าว ความปวดร้าวใครทนไหว กระดูกสันหลังไทย จะหักไปในวารวัน ร้อนแดดที่แผดเผา ยังบรรเทาที่เงานั้น ร้อนทุนเนืองหนุนพลัน โอ้ใครกันจะดับลง....
2 เมษายน 2551 17:48 น. - comment id 836376
คุณยา และ คุณ เล่..... กบเขียดร้องระงมนาเมื่อหน้าแล้ง ประดุจร่ายแถลงการณ์ผ่านขอฝน แต่ยามนี้เทพทั้งหลายคล้ายอับจน เพราะเวหนเหือดแห้งมาเนิ่นนาน จึงทุกสถานเกาะแก่ง ณ แหล่งฟ้า แล้งธาราร้อนรุกทุกสถาน ไร้เมฆฝนจะเสกฝนชลประทาน เป็นน้ำผ่านแผ่นฟ้าลงมาดิน จึงลำบากชาวนาประสาเข็ญ ต้องบำเพ็ญพิธีการบนบานสิ้น แห่นางแมวรอบบ้านทุกฐานถิ่น เพื่อฝนรินจากฟ้ามาประทาน บ้างปั้นรูปเจว็ดไว้กลางทุ่ง เพื่อหมายมุ่งถึงแถนท่านสงสาร ปั้นเมฆฝนหล่นฟ้ามาเจือจาน น่ารำคาญแถนตนไม่สนใจ หรือเทพเจ้าหวงน้ำไว้สนาน ช่วงสงกรานต์เมษาน่าสงสัย ไว้สาดเหล่าสาวสวรรค์ทุกชั้นไป เลยกักไว้ไม่ปล่อยน้ำให้ฉ่ำริน.... จบยังงี้แหละจ้า บางที่เขาให้ปลูกตะไคร้เอาโคนชี้ฟ้า เพื่อเทวดาจะได้ขำ.....
2 เมษายน 2551 19:07 น. - comment id 836400
สิบนิ้วพนม ก้มกราบ ทาบพื้นดิน นาแล้งสิ้น ลมฝน มาห่างหาย ดินระแหง แห้งผากมา กล้ำกราย เจ็บมิวาย สุดท้อ พ้อกับลม จึงบวงสรวงต่อองค์เทวดา อยู่บนฟ้า พสุธา ให้ได้สม ขอน้ำฝน ปวงข้า ให้พร่างพรม รดใจตรม ฝนแล้ง เหมือนแกล้งกัน นำอาหาร คาวหวาน มาขานกล่าว กล้วยอ้อยข้าว นำมา อย่างเสกสรร ของทุกอย่าง ที่หา มาจำนรร แลกฝนพลัน หล่นฟ้า ข้าขอวอน หายไปนานแง งานยุ่งค่ะ..
2 เมษายน 2551 19:34 น. - comment id 836403
คุณมณีจันทร์..... สิบนิ้วพนมก้มกราบทาบพื้นดิน นำตารินหลั่งโซมชะโลมร่าง หยาดน้ำตาแทนน้ำฝนที่หล่นจาง หยดเป็นทางหลั่งรินลงดินดอน ฟ้าไร้ฝนคนไร้น้ำจะทำนา เทพเทวาอยู่ไหนไม่สังหรณ์ โปรดเถิดช่วยอวยฝนน้ำมนต์พร พรมดินร้อนผ่อนคลายหมายเยือกเย็น ให้ข้าวกล้าแตกหน่อชูช่อรวง ให้ผลพวงเต็มชุกหายทุกข์เข็ญ ให้ชาวนาเบิกบานผ่านลำเค็ญ เก็บเกี่ยวเป็นรวงทองปองกำไร....
2 เมษายน 2551 19:39 น. - comment id 836408
คุณมณีจันทร์..... สิบนิ้วก้มพนมกราบทาบผืนดิน น้ำตารินหลั่งโซมชะโลมร่าง หยาดน้ำตาแทนน้ำฝนที่หล่นจาง หยดเป็นทางหลั่งรินลงดินดอน ฟ้าไร้ฝนคนไร้น้ำจะทำนา เทพเทวาอยู่ไหนไม่สังหรณ์ โปรดเถิดช่วยอวยฝนน้ำมนต์พร พรมดินร้อนผ่อนคลายหมายร่มเย็น ให้ข้าวกล้าแตกหน่อชูช่อรวง ให้ผลพวงเต็มชุกหายทุกข์เข็ญ ให้ชาวนาเบิกบานผ่านลำเค็ญ เก็บเกี่ยวเป็นรวงทองปองกำไร....
2 เมษายน 2551 20:04 น. - comment id 836428
สงสัยไม่ใช่แค่กบเขียนร้องแล้วอะคะ คนก็ร้องตาม ฝนฟ้าผิดฤดู ปรับตัวมะทัน ไม่ได้เข้ามานานเลย สบายดีนะคะคิดถึงมากๆเลยค่า
2 เมษายน 2551 20:11 น. - comment id 836434
เมื่อฝนลานาแล้งดินแห้งผาก ความจนยากเยือนทั่วทุกหัวระแหง ประชาชนรากหญ้าตาแดงแดง จะตะแบงบอกใครฤๅได้ยิน นมัสการครับท่านมหา
2 เมษายน 2551 20:45 น. - comment id 836451
นมัสการครับ..แวะมาชื่นชมครับ
3 เมษายน 2551 04:43 น. - comment id 836486
นมัสการขอรับท่าน... กลับมาจากวังน้อยแล้ว ฤ ขอรับ มาถึงก็เปิด บ้านทันที ดีแล้วขอรับเพราะบ้านกลอนพักนี้ เงียบเชียบเลย...มาร่วมแจมภัยแล้งด้วย อิอิอิ ร้นไฟคายว่าร้น ทาวเด ยนเมื่อฝามทาเม บู่อ้น จางคนใช่รวนเร ชากย่าง ใข้เจา เหมือเบ่นแควแช่งล้น ไม่ไร้ทำงู........ ไร้ฝนคนว่าร้าย เทวดา ยามเมื่อฝนเทมา บ่นอู้ ใจคนช่างเรรวน ช่างยาก เข้าใจ เหม็นเบื่อคนแช่งแล้ว ไม่รู้ทำไง....... ว่ามาแบบนี้ละขอรับ.....
3 เมษายน 2551 06:31 น. - comment id 836490
คุณผู้หญิงมือสอง..... ฝนฟ้าผิดฤดู เดือดร้อนกันทั้งผอง แต่เสียงกบเขียดจะ ก็คงจะก้องอยู่แค่ทุ่งนาแหละ....
3 เมษายน 2551 06:40 น. - comment id 836491
คุณกุ้งก้ามกราม....(เกจิกล้วยไม้) เสียงกบเขียดกึกก้องทั่วท้องนา ถึงฟากฟ้าหรือไม่ใครจะสน ก็แค่เสียงเขียดกบคนจนจน เทพเบื้องบนแค่มองจ้องผ่านไป....
3 เมษายน 2551 06:41 น. - comment id 836492
คุณอินสวน... เจริญพร.....
3 เมษายน 2551 06:57 น. - comment id 836493
จ้า คุณแจ็คกี้.... กลับมาหลังจากภารกิจหลายวัน ชีพจรลงเท้าพอกัน คุณแจ็คกี้บายดีเน้อ นึกว่าชีพจรลงเท้าอีกแล้ว....ใกล้สงกรานต์แล้ว.... ฝนแล้งระดมร้อน แผดเผา คุกรุ่นมิบรรเทา หม่นไหม้ ข้าวกล้าซบใบเซา ซึมเซ่า รอฝนจากเทพให้ ดับร้อนปลอบโยน....