เพรงกาลผ่านภพพื้น ไผทสยาม เรืองเดช ณ เขตคาม ถิ่นนี้ เหนือ ใต้ ออก ตก นาม ลือกระฉ่อน รุ่งดับอีกลับลี้ ห่อนให้ได้เห็น แต่เบื้องโบราณมี หลายเมืองที่เป็นหลักฐาน ก่อเกิดเปิดตำนาน ควรศึกษาที่มาไทย พงศาวดารในกาลก่อน หลายบทตอนต้องแก้ไข ยึดติดความคิดใคร บ่ได้เห็นที่เป็นจริง หยิบยกสาธกอ้าง หนึ่งแนวทางในบางสิ่ง แบบอย่างใช้อ้างอิง ต่างตำราสาธยาย พงศาวดารเหนือ ช่วยหนุนเกื้อปราชญ์ทั้งหลาย แต่งไว้ในเบื้องปลาย เพื่อสืบค้นเบื้องต้นเรา รศ.ยี่สิบห้า พระวิเชียรมารวบรวมเข้า จากเริ่มแต่เดิมเนา ทุกที่แห่งได้แปงเมือง เริ่มจากสุโขทัย สัชนาลัยได้ฟูเฟื่อง บาธรรมราชเรือง ภิเษกรับสมบัติครอง สืบวงศ์พระฤาษี สัชนาลัยที่พระเกี่ยวข้อง สถาปกพระธาตุทอง วิหารไว้กลางใจเมือง ขุดสระตระพังศรี เคียงคีรีอันลือเลื่อง พนมเพลิงประดับเมือง ไว้รับศึกผนึกพล กำแพงแลงศิลา ล้อมพาราทั้งพหล ศาลเทพพระทรงดล วิษณุ ศิวาลัย สมโภชน์นครา ปวงประชาได้อาศัย เจ็ดวันรื่นเริงใจ สวรรคโลก นามธานี สืบวงศ์กษัตรา สี่เมืองมาคู่ราศี ทุ่งยั้ง พิชัยคีรี หริภุญไชยสืบไทยชน เกื้อหนุนร่วมจุนศาสน์ พิทักษ์ชาติราษฎร์พหล ก่อแคว้นสร้างแดนตน ปฐมบทสยามพงศ์ ต่างเมืองเรืองรุ่งรุจน์ นครา ศรีสัชนาลัย พิชัยมา ทุ่งยั้ง หริภุญไชยสี่มหา- นครเขต ร่วมเฮย รวมหมู่ชนสยามครั้ง เก่าพร้องร่วมพงศ์.
8 มีนาคม 2551 16:23 น. - comment id 830403
เวลานึกถึงสุโขทัย นึกถึงวันลอยกระทงทุกทีเลยค่ะ สวรรคโลก อีกเมืองหนึ่งที่อยากไปเยือนค่ะ
8 มีนาคม 2551 16:51 น. - comment id 830423
อาของรพีอยู่ทุ่งสเลี่ยมเจ้าค่ะ เกี่ยวกับสวรรคโลกมั้ยนั่น คงเกี่ยวจิเพราะต้องผ่านนี่นา หุหุ
8 มีนาคม 2551 16:52 น. - comment id 830424
ชอบค่าเมืองเก่า รำลึกถึงบรรพบุรุษผู้ สร้างบ้านแปลงเมือง เสียดายไทยสูญเสีย อิสรภาพเสียแล้วตอนนี้ เขาเข้าครอบครองหมด โดยเฉพาะใจเด็กๆ
8 มีนาคม 2551 16:56 น. - comment id 830427
แต่งได้งดงามมากค่ะ ตอนนั้นก็ติดตามนำเที่ยวสุโขทัยครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้ไม่ผิดหวังค่ะ
8 มีนาคม 2551 18:50 น. - comment id 830449
เยี่ยมจังเลย แต่งกาพย์ยานี 11 บรรยาย พงศาวดารเหนือ ยังไม่เคยไปเที่ยวค่ะ
8 มีนาคม 2551 20:03 น. - comment id 830465
เยี่ยมค่ะ พี่อรุณ ........................................ ลานจินต์สู่ไกลโพ้น จิตอ่อนโยนซ่านด้วยฝัน ลานอดีตเสกสรรค์ เหมือนสวรรค์ในโลกา วันวานแสนสุขนัก จิตพำนักหมดเหนื่อยล้า เคียงข้างเสน่หา ที่ศรัทธาสิ่งงดงาม ความหลังช่างหวานสวย ร่ำระรวยสุดหักห้าม อยากใกล้เฝ้าไถ่ถาม อยากเดินตามสุขที่มา จิตไห้ละห้อยหวน จิตเชิญชวนให้ไขว่คว้า จิตหวังเหมือนบอกว่า รอหมดฟ้า..ก็ยังรอ
8 มีนาคม 2551 20:55 น. - comment id 830496
อ่านโคลงจบ ฝนรู้ประวัติ ศาสตร์ไทย ขึ้นอีก แยะเลยอ่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณอรุณที่ทบทวน ให้ประวัติศาสตร์ ฟังอีครั้ง คิกๆๆๆ
8 มีนาคม 2551 20:56 น. - comment id 830497
เก่งจังคะ ขอ ตบยุง เอ๊ย ปรบมือให้คะ ฉางน้อยคงไม่ถึงครึ่งความเก่งของคุณหรอกคะ
8 มีนาคม 2551 20:57 น. - comment id 830499
7 แน่ะ...... คุณฝนตัดหน้าฉางน้อย ต้องเหยียบเบรคดังเอี๊ยดดดด... ม่ายง้านนน๊า ชนกัน หัว No อิอิ
8 มีนาคม 2551 21:06 น. - comment id 830509
สวรรคโลก น่าจะมาจากบาลีว่า สคฺคโลก โลกแห่งสวรรค์ คุณอรุณสุขบรรยาย เห็นภาพสมจริงดังศัพท์บาลีนั่นแท้.....
8 มีนาคม 2551 22:19 น. - comment id 830555
แวะมาอ่านตำนานเมืองสวรรคโลก ดีครับดี แก้วประเสริฐ.
8 มีนาคม 2551 23:32 น. - comment id 830573
โห..ลาวดวงเดือนเลย.. โอ้แม่เจ้า... งดภาระกิจบอมบ้านนี้ชั่วคราว ขออินกะเพลงและประวัติอันงดงาม ...พูดได้คำเดียวว่า...เนี๊ยบ...
8 มีนาคม 2551 23:52 น. - comment id 830583
เม้นไม่ออก บอกไม่ถูก เจ้าข้า อยากนุ่มรม ห่มสไบ ร้อยมาลัย หน้าระเบียง ชะเอิง เงิง เงย (ชื่นชมด้วยใจเจ้าค่ะ)
9 มีนาคม 2551 00:36 น. - comment id 830592
ดีจ้าคุงอรุณ จะให้ผ่านเลยก็กระไรอยุ่.. ขอมั่วหน่อยแระกัน..หุหุ.. น้องยานั่งพับเพียบร้อยมาลัย เมียดละมัยมะลิผลิบานหอม บรรจงหยิบกลีบน้อยคอยพยอม เกรงดอกตรอมมือนางวางมาลา กรีดสไบสีนวลชวนละม้าย น้องเอียงอายยลแย้มแก้มบุปผา กุสุมาลย์ดวงพักตร์ดั่งจันทรา ผ่านทิวาราตรีนี้คะนึง เสียงระนาดบาดใจฤทัยรุ่ม อกแทบกลุ้มเดือนดาวพราวคิดถึง ดึกป่านนี้พี่นั้นมัวรำพึง หากแม้นดึงเดือนได้คงไม่ตรม หลับหรือยังกัญญาเวหากว้าง อกพี่ร้างขาดเจ้าเฝ้าประหงม นอนหนาวไร้ชายเชยพี่ระทม อกระบมห่วงเจ้าเฝ้าเดือนดาว ราตรีนี้พี่ลาเพลาพลบ รติซบแนบเจ้าในคืนหนาว เยาวมาลย์พี่ห่วงเจ้าดั่งราว ศศินพราวส่องแสงแห่งธราดล เกี่ยวไม๊เนี่ย...หุหุ..แบบตามเพลงอ่ะ..
9 มีนาคม 2551 02:01 น. - comment id 830602
ดนตรีมันเพราะชวนแต่งโคลง... คืนนี้อกพี่ร้าว คิดถึง น้องอยู่ไกลรำพึง แต่เจ้ า ระทมทุกข์เศร้าจึง ร้องร่าย เดือนเด่นดาวพี่เฝ้า มอบให้ใจถวิลฯ แม้นยุพินบ่รู้ ความใน อกพี่แทบขาดใจ ปวดร้าว เจ้าเมินห่างจากไกล ช้ำชอก เหมือนดั่งหมดแรงก้าว ต่อไร้สิ้นแรงฯ ฤาเดือนแกล้งอกให้ อาวรณ์ เงาภาพมิ่งสมร รบเร้า ยลแย้มพักตร์เมื่อตอน พลบค่ำ ดื่มด่ำคิดถึงเจ้า อกกลุ้มเสน่หาฯ ขอลาไปก่อนเจ้า หลับไหล จุมพิตละมุนไป เผื่อเจ้า นิทราบ่ยาวไกล เอื้อมสุด อกพี่เคลิ้มคอยเคล้า อยู่ข้างยามฝันฯ แถมอีกหน่อย..ฟังระนาดตีแล้วอิน...
9 มีนาคม 2551 10:01 น. - comment id 830657
รู้อะไรอีกตั้งเยอะเลยคะท่าน.. โคลงแบบนี้พิมญดามิสามารถ
9 มีนาคม 2551 11:25 น. - comment id 830681
ภาคเหนือตอนล่าง..ตำนานเมืองเก่า น่าสนใจมากๆนะคะ
9 มีนาคม 2551 13:21 น. - comment id 830711
สงสัยว่าเป็นคุณครูสอนประวัติศาสตร์นะนี่ สุโขทัย อยุธยา เขียนแล้ว เหลือกรุงธนบุรี ลพบุรี ... ที่ไหนอีกง่ะ เขียนให้หมดเลยนะคะ คุณครู อิอิ
10 มีนาคม 2551 07:08 น. - comment id 830776
จากลำเก่าเหล่ากอรวมหน่อไว้ แล้วแยกย้ายแตกหน่อสร้างกอใหม่ เป็นเช่นนี้ผลัดเปลียนหมุนเวียนไป เกิดกอใหม่กอเก่าสร้างเรามา มีอำนาจก็บันทึกไว้ลึกซึ้ง ยามเคียดขึ้งเขียนไว้ชั่วนักหนา คืออำนาจปกครองแห่งพารา เป็นตำราชูชนคนของใคร ครารบพุ่งชิงคนก็ทนทุกข์ ครารบรุกพ่ายแพ้ก็ผลักไส แพ้เป็นพระชนะคือมารมาปลอบใจ บันทึกไทยสับสนตลอดมา อิอิ...เพราะมาก..แล้วดีด้วยครับ....มาหากาแฟ ดื่มนะครับ
10 มีนาคม 2551 09:47 น. - comment id 830795
สวรรคโลกตามพงศาวดาร เมืองสวรรคโลกเดิมตั้งอยู่ขึ้นไปทางทิศเหนือตามลำน้ำยม (บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน) ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี มีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงในนาม "เมืองศรีสัชนาลัย" ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาประมาณปี พ.ศ. 1994 พระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา ได้ยกทัพมายึดเมืองศรีสัชนาลัย และได้เปลี่ยนชื่อเมืองนี้เป็น "เมืองเชียงชื่น" ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2017 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงตีเมืองเชียงชื่นคืนได้สำเร็จและทรงเปลี่ยนชื่อเมืองเชียงชื่นเป็น "เมืองสวรรคโลก" นับแต่บัดนั้น ในสมัยกรุงธนบุรีถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองสวรรคโลกนั้นถูกพม่าข้าศึกเข้ามาตีบ่อยครั้ง เจ้าเมืองสวรรคโลกจึงตัดสินใจย้ายที่ตั้งเมืองมาตั้งอยู่ที่บ้านท่าชัย (ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัยปัจจุบัน) ต่อมาราว พ.ศ. 2379 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เมืองสวรรคโลกมีปลัดปกครองนามว่า "นาค" ได้นำงาช้างเนียมไปถวายพระเจ้าอยู่หัว เกิดความดีความชอบ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระยาสวรรคโลก มีบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวิชิตภักดี (ต้นตระกูลวิชิตนาค) ได้ใช้บ้านพักหรือจวนที่บ้านวังไม้ขอน เป็นที่ว่าการเมืองสวรรคโลก ดังนั้นเมืองสวรรคโลกจึงย้ายมาจากบ้านท่าชัยมาตั้งรกรากที่เมืองสวรรคโลกใหม่ (สวรรคโลกปัจจุบัน) นับแต่นั้นมา
10 มีนาคม 2551 09:54 น. - comment id 830796
พงศวดารเหนือ หนังสือพงศาวดารเหนือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แต่ยังดำรงพระเกียรติยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล มีรับสั่งให้พระวิเชียรปรีชา (น้อย) เป็นผู้รวบรวมเรื่อง มาเรียบเรียง เมื่อปี พ.ศ.๒๓๕๐ โดยได้เรียบเรียงตั้งแต่ บาธรรมราชสร้าง เมืองสัชชนาไลย เมืองสวรรคโลก ได้เสวยราชสมบัติทรงพระนามพระเจ้าธรรมราชาธิราช เป็นลำดับมาจนถึง พระเจ้าอู่ทองสร้าง กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี หนังสือที่รวมเรียกว่าพงศาวดารเหนือนี้ เป็นหนังสือหลายเรื่องที่มาแต่ครั้งกรุงเก่า เอามารวบรวมแต่งหัวต่อเชื่อมให้เป็นเรื่องเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ มีรับสั่งให้พิมพ์เป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๒ มีเรื่องตำนานพระแก้วมรกตอยู่ด้วย
10 มีนาคม 2551 10:04 น. - comment id 830800
คุณเพียง ลอยกระทงที่สุโขทัยนั้นจัดเป็นงานใหญ่ ทุกปีด้วยถือกันเป็นที่นิยมว่าเป็นต้นตำรับ สำหรับสวรรคโลกปัจจุบันเป็นอำเภอใหม่ แต่หากสวรรคโลกตามตำนานคือ บริเวณ เมืองศรีสัชนาลัย ปัจจุบัน ซึ่งมีสองเมือง ซ้อนกันอยู่คือ..ชะเลียง และ ศรีสัชนาลัย ชะเลียงเป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยโยนก เชียงแสน..ตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณวัดพระศรี มาธาตุปัจจุบัน..ส่วนศรีสัชนาลัยนั้นก่อตั้ง ใหม่หลังเมือชะเลียง..น่าจะสร้างสมัยราชวงศ์ พระร่วง..ต่อมาก้เปลี่ยนชื่อเมืองตามที่ผม อธิบายไว้ด้านบน... ลอยกระทงที่ศรีสัชฯก็จัดงานใหญ่ครับ.. อรุณเคยไปเที่ยว..สนุกสนานครับ
10 มีนาคม 2551 10:15 น. - comment id 830802
คุณรพี สวรรคโลกปัจจุบันถือเป็นชุมทางหลักในการ เดินทางเพราะเป็นทางผ่านไปศรีสัชนาลัย ศรีนคร..และทุ่งเสลี่ยม..สามารถไปได้ทั้ง เครื่องบิน..รถยนต์และรถไฟ..ทุ่งเสลี่ยม บ้านญาติคุณรพีนั้น..เป็นเขตต่อแดนลำปาง ครับ..ขึ้นเขาไปประมาณเก้าสิบกม.ก็ถึงเขต อำเภอเถิน..ที่นั่นชาวบ้านส่วนมากพูดภาษา เหนือครับ..(ต่างกับบ้านอรุณพูดกลางแต่ สำเนียงแปร่งแบบสุโขทัย) ..ทุ่งเสลี่ยม มีวัดทุ่งเสลี่ยมและวัดพิพัฒน์มงคลที่ต้องไป สักการะหากไปถึง..อาของอรุณสุขก็อยู่แถวนั้น ครับ..ประเพณีส่วนมากสืบมาจากทางภาคเหนือ..ครับ..
10 มีนาคม 2551 10:19 น. - comment id 830804
ครูดอกไม้ การเสียวัฒนธรรมนี่อันตรายยิ่งกว่า การเสียดินแดน..เพราะวันหนึ่งเรา อาจลืมความเป็นไทย..ลืมวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงาม..ที่สั่งสมมาหลายศตวรรษ ได้..อันนี้คงต้องร่วมมือร่วมใจช่วยกัน แก้ปัญญานี้แล้วครับ...
10 มีนาคม 2551 10:23 น. - comment id 830805
คุณสขิลา สุโขทัยเป็นจังหวัดเล็กๆ..ไม่เจริญนักเพราะ นโยบายการพัฒนามุ่งเน้นให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์..ทั้งธรรมชาติและ ศิลปวัฒนธรรมจึงอาจขาดด้อยในเรื่องการ พัฒนาในส่วนความเจริญด้านอื่น .. อดีตนายกฯเคยไปประชุมสัญจรที่นั่นและ วางกรอบให้ปรุบปรุงเรื่องที่พักอาศัยและ การประชาสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น..ครับ
10 มีนาคม 2551 10:26 น. - comment id 830806
พี่ช่อ ยังขาดเนื้อหาไปหลายส่วนแต่ด้วยยังขาด ความชำนาญในการแต่งและการถ่ายทอด จึงออกมาแบบขลุกขลัก..ไปนิดครับอาจจะ ไม่ราบรื่นเท่าใดตอนนี้ก็พยายามฝึกฝน อยู่ครับ..อีกซักสิบปีน่าจะ..พริ้วขึ้น..อิอิ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนครับ..ผม
10 มีนาคม 2551 13:08 น. - comment id 830865
คุณโอเลี้ยง อดีตที่ผ่านผัน เป็นเงาอันพิสุทธิ์ศรี ฟื้นภาพซาบฤดี กำเนิดไซร้ไทยทุกคน เงาเก่าสรรค์เงาใหม่ สิ้นสุดไซร้ก่อเริ่มต้น รากฐานโบราณชน ปริวรรตปัจจุบัน เพียงศิลป์อนุสรณ์ อิฐทุกก้อนค่ามหันต์ ตอกย้ำถ้อยรำพัน สยามเผ่าแต่เก่ามา... ควรรักษ์และเชิดชู เรื่องราวรู้ด้วยศึกษา พื้นฐานชาติประชา สยามกุลเป็นบุญบรรพ์. ดีใจที่มาเยี่ยมครับ.
10 มีนาคม 2551 13:38 น. - comment id 830868
ป้าแช่มเพิ่งว่างมาอ่านเก็บกู้บ้านอยู่ตั้งนาน.. เรื่องประวัติศาตร์อ่านมาน้อยมากเลย อรุณสุขเขียนได้ดีนะได้ทั้งความรู้และอรรถรส
10 มีนาคม 2551 15:23 น. - comment id 830884
คุณฝน ขอบคุณสำหรับกาแฟครับ.วันนี้ง่วงๆสงสัย อากาศร้อน..ขอบคุณที่มาทักทายครับ.. หากมีโอกาสก็หาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ กับธรรมชาติบ้านเรามั่งครับ.. อันซีนน่ะเยอะอยู่นะ...
10 มีนาคม 2551 15:41 น. - comment id 830885
คุณฉางน้อย อรุณก็เพิ่งหัดขีดๆเขียนๆเหมือนกันน่ะครับ อาศัยครูที่บ้านนี้หลายคน..สอนให้...อาจจะ เพี้ยนๆไปบ้าง..ฉันทลักษณ์ผิดๆถูกๆต้องขอ อภัยกันไว้ก่อน...ได้ยินชื่อคุณฉางน้อย มานานเหมือนกัน..เป็นขวัญใจเพื่อนๆเลย นี่ครับ...อิอิ..ไว้มีโอกาสจะไปเยี่ยมที่บ้านครับ
10 มีนาคม 2551 16:12 น. - comment id 830892
นมัสการพระคุณเจ้า... เป็นนามที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ท่านพระราชทานภายหลังจากตีคืนจาก พระเจ้าติโลกราข..แห่งเชียงใหม่.ซึ่งพยายาม เปลี่ยนชื่อเป็นเวียงเชียงชื่น..ตามความหมาย เดิมแห่งชะเลียง..ครับ..สำหรับสวรรคโลก เห็นจะตั้ง...ไล่ๆกับพิษณุโลกครับ..เพราะ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถท่านประทับ ที่นั่น..นานถึง ..ยี่สิบห้าพรรษา...ด้วยพระองค์ ทรงเป็นหน่อเนื้อกษัตริย์จากทั้งสองแห่ง คือพระราชชนนีท่านเป็นธิดาแห่งพระมหา ธรรมราชาที่สี่ (บรมปาล) กษัตริย์สโขทัย พระองค์สุดท้ายกับ..สมเด็จเจ้าสามพระยา แห่งสุพรรณภูมิ...ท่านจึงผูกพันกับราชวงศ์ พระร่วงมากกว่าพระองค์อื่น.. ดังนั้นศรีสัชนาลัยจุงเปลี่ยนนามมาเป็น สวรรคโลกฉะนั้น..ครับ.. นมัสการครับ...
10 มีนาคม 2551 16:35 น. - comment id 830897
คุณลุงแก้ว... ยินดีต้อนรับเสมอครับ....คุณลุงที่มาเยี่ยม เยียนอรุณสุข..
10 มีนาคม 2551 17:23 น. - comment id 830905
คุณยา.. อาลัยในเพลงครวญกำสรวลเศร้า ลาวดวงเดือนเพลงเก่าเรานี้หนอ เพียงได้ฟังโศกหาน้ำตาคลอ อดพนอเนื้อนวลชวนระทม กระไรหรือ..น้องยาฯ..จึ่งลาร้าง สวาสดิ์ห่างอกใจให้ขื่นขม มาร่ำร่ำรำพันถึงวันตรม ร้างนิยมใครเล่าที่เศร้าครวญ ร้อยมาลัยชมเดือนที่เคลื่อนลับ มองพยับเมฆาพากำสรวล ห่มสไบแพรสีฉวีนวล ใยมารวนจิตร้าวหนาวสะทก ฟังระนาดขุนอินขวัญบินหนี ไฉนคนดีจึงพรั่นหวั่นวิตก หรือชายใดรอนริบได้หยิบยก แล้วร้างอกน้องจึ่งไห้อาลัยวรณ์ หากว่าทุกข์เพราะคลาดกันในวันเหงา ที่บรรเทาหมายใจพักไว้ก่อน ว่างเมื่อไดขวัญตาจะพาจร ฝากสุนทร..ตอบถ้อยสร้อยพธู.
11 มีนาคม 2551 09:11 น. - comment id 831000
คุณอาราเล่ ช่างมีความสุขจริงๆนะครับ...เห็นด้วย แต่ติดใจนิดนึง นุ่งลม ห่มสไบ นี่ไม่ดี แน่ครับ..ออกจะเรทไปซักนิด..เปลี่ยนเป็น นุ่งโจง หรือผ้าถุงจะงามกว่า..นะ..ครับ... ด้วยความเป็นห่วง..จริงๆ
11 มีนาคม 2551 09:14 น. - comment id 831002
คุณพิม ออกจะถ่อมตนไปซักนิดแล้วมั้งครับ.. อย่างคุณพิม..นี่ถ้าหากจะแต่งบทไหน ด้วยฝีมือระดับนี้.แล้วรับรองงดงาม ตามฟอร์ม...ครับ....
11 มีนาคม 2551 09:27 น. - comment id 831003
คุณไหมไทย.. ครับ..ยังมีอีกหลายเมืองที่เราอาจจะไม่คุ้นแต่ มีความสำคัญในอดีต..บางเมืองมีอยู่แต่ไม่ ทราบที่มาที่ไปนักปนะวัติศาสตร์อาจมีข้อมูล เพียงข้อสันนิษฐานทำให้ต้องศึกษาค้นคว้าต่อไป..ครับเช่นเมืองบางขลัง บางยม พิรามรงค์ คณฑี..สากอได..เมืองราด. เหล่านี้ยังอยู่ระหว่างค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม ครับ..
11 มีนาคม 2551 09:33 น. - comment id 831005
คุณปราณ ต้องหาข้อมูลก่อนมั้งครับ..หากมีส่งมาให้บ้าง จะดีมากเลย..กำลังหาวัตถุดิบอยู่พอดี.. ปล. รูปที่ลงมานี่งดงามครับ...
11 มีนาคม 2551 18:04 น. - comment id 831109
คุณฝากฝัน แต่กาลเก่าเล่าไว้ใช้เป็นฐาน สืบตำนานเหล่ากอพอสืบสวน หากว่าหลังปรับแต่งแย้งสำนวน เสียกระบวนสืบค่าที่จารึก ฝ่ายชนะมักจดแต่งบทไว้ แปลงเก่าใหม่ย้อนรอยสร้อยผนึก ลบทารุณรอยกรรมขาดสำนึก ถ้อยกถึกจึงเสียงามและความจริง นี่คือจุดอ่อนของการบันทึกประวัติศาสตร์ ของไทยแต่ละยุค..ที่ไม่อาจแยกความจริง ความเท็จออกจากกันได้..สิ่งนี้เป็นเหตุให้ พงศาวดารและตำนานจึงมักค้านกันอยู่เสมอ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนครับ...
27 สิงหาคม 2552 19:23 น. - comment id 1032653
ให้ความรู้ดีมากเลย