คือรสทิพย์แห่งกวีวจีถ้อย มโนร้อยจารึกผลึกอักษร ผ่านหยดหมึกบันทึกเป็นบทกลอน ฟุ้งขจรหอมกลิ่นถิ่นกวี หอมเอยหอมบุปผาผกากรอง ยังเป็นรองกลิ่นหอมอักษรศรี ที่ร้อยเรียงเคียงรสหมดจดดี หอมวจีจารึกสารผ่านกาพย์กลอน งามเอยงามงามใดได้ประจักษ์ ว่าน่ารักงามจริงหญิงสมร แต่ความงามเช่นนั้นยังผันจร อาจถ่ายถอนเปลี่ยนลับกับเวลา ส่วนความงามบันทึกจารึกรส วจีพจน์แห่งกวีทั้งนี้หนา ย่อมงามเด่นเหนือกาลที่ผ่านมา งามโสภาหมดจดรสกวี....
12 กุมภาพันธ์ 2551 21:36 น. - comment id 822797
เขาบอกว่า ตักบาตรอย่าถามพระ เขียนกลอนก็จะเหมือนกันไหมนะ คือ รู้สึกอย่างไร ถามได้ไหมเนี่ย
12 กุมภาพันธ์ 2551 22:26 น. - comment id 822810
นมัสการค่ะหลวงพี่ แต่งได้งดงามจริง ๆค่ะ
12 กุมภาพันธ์ 2551 23:04 น. - comment id 822816
งามใดอื่น หมื่นแสน ไม่แม้นเหมือน ความเป็นเพื่อน ในกวี ถิ่นนี้หนา บ้านอบอุ่น ด้วยรัก จักได้มา สหายข้า บ้านนี้ มีอุ่นไอ กลิ่นจึงฟุ้ง กระจาย อยู่รายรอบ ทั่วเขตขอบ บ้านนี้ ที่หลงใหล เพราะมีรัก ไมตรี จากหัวใจ มาเติมให้ ชีวี มีชีวา นมัสการค่ะ .....
13 กุมภาพันธ์ 2551 06:40 น. - comment id 822862
นมัสการค่ะ รสกวีไพเราะมากๆเลยค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 06:52 น. - comment id 822863
ตอบคุณอัลมิตรา..... เป็นคำถามที่ตอบยากที่สุด ในรอบสองสหัสสวรรษ อิอิ ว่าเข้าไปนั่น ความรู้สึก? บางกลอนก็เขียนไปตามความรู้สึกที่มี แต่บางกลอนก็เขียนไปตามจินตนาการ เช่น คือคิดเอาว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น
13 กุมภาพันธ์ 2551 06:54 น. - comment id 822864
กระต่าย.... ขอบคุณจ้า ชมกันเห็นๆ
13 กุมภาพันธ์ 2551 07:07 น. - comment id 822868
มณีดุ่ยๆๆ.... รสรักถนอมใจยามได้รัก ให้ประจักษ์รักซึ้งคะนึงหา กลิ่นความรักหอมหวลอบอวนมา อาบชีวากลมกล่อนรักย้อมใจ อันมิตรแท้แผ่เผื่อเอื้อความรัก สายใยถักแน่นเหนียวไม่หวั่นไหว เมื่อรสรักแห่งมิตรสถิตใด โลกวิไลงดงามตามทำนอง...
13 กุมภาพันธ์ 2551 08:51 น. - comment id 822883
ผจงจรดหยดหมึกผลึกอักษร กรองสุนทรผ่านถ้อยร้อยประสาน เสกสร้อยสุตวรรณศิลป์กวินกานท์ รื่นสราญร้อยรสบทกวี ต้องบอกว่ารสกวีของพี่มหาพริ้วไหว ไม่แพ้รสระนาดของขุนอินเลย..
13 กุมภาพันธ์ 2551 09:33 น. - comment id 822899
สงสัยบทกวีจะงดงามจริงๆ นะคะ ป เลยตกหลุมรักบทกวีอยู่นี่ไงคะ อิอิ นมัสการค่ะพระคุณเจ้า
13 กุมภาพันธ์ 2551 10:04 น. - comment id 822908
ร่ายอักษรกลอนกลกล่อมคนเศร้า เพื่อคลายเหงาเศร้าใจในรอยฝัน กลั่นจากจิตกรองจากใจหมายกำนัล เพื่อกล่อมขวัญวันหม่นของคนเรา หมึกทุกหยดจรดจิตลิขิตถ้อย จารึกรอยจากกมลของคนเหงา จารอักษรกลอนกานท์มานานเนา อาจบรรเทาเบาบางบนทางใจ ต่างร่วมโลกเดียวกันสรรค์อักษร ต่างบทกลอนลิขิตคิดไฉน ร่วมสร้างสรรค์วรรณศิลป์คู่ถิ่นไทย จรรโลงใจยามยลด้วยกลกานท์ หมึกทุกหยดจรดจิตลิขิตเขียน ต่างบทเรียนเพียรรับร่วมขับขาน สลักเสลาภาษาไทยให้ตระการ ร่วมสืบสานวรรณศิลป์จินต์กวี.. นมัสการยามสายค่ะ น้ำชาค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 13:28 น. - comment id 822970
เขียนความฝันบรรยายสายรู้สึก เล่าสำนึกความรักใส่อักษร ฝากความหมายถ่ายนัยใส่บทกลอน ทุกบทตอนซึมซาบจากกาพย์กานท์ เปิดเผยถ้อยร้อยรำพันสรรค์สร้างสุข ผ่อนคลายทุกข์ด้วยกลอนอักษรหวาน บอกความคิดลิขิตคำตามชำนาญ ปณิธานกวีมีหัวใจ
13 กุมภาพันธ์ 2551 14:51 น. - comment id 823027
สวัสดีค่ะ หลวงพี่ ..................................... สวนอักษรพาค้นหลงใหลฝัน เหมือนสวรรค์พาเพลินชวนค้นหา อันวิชามีค่าพาศรัทธา ควรบูชาเรียนรู้อย่าทิ้งวาง
13 กุมภาพันธ์ 2551 15:56 น. - comment id 823062
....ท่านมหา บนข... วันนี้อ่านแล้วใจมันสงบ เลยขอชื่นชมอย่างเดียวนะค่ะ พักรบชั่วคราวค่ะ ภารกิจเยอะเจ้า ค่ะ....
13 กุมภาพันธ์ 2551 16:37 น. - comment id 823094
ท่านมหาเจ้าคะ..รสกวี เสพแล้วยากถอนตัวเจ้าคะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 18:43 น. - comment id 823166
คุณอรุณสุข.... อิอิ คุณอรุณสุขเองก็หลงรสกวีเข้าให้แล้ว.... เพราะหลงรักถ้อยคำนำร้อยเรียง เทอกเอียงความในให้ผสาน เป็นทุกข์สุขเรื่องราวกล่าวตำนาน บรรณสารจารึกบันทึกคน....
13 กุมภาพันธ์ 2551 18:48 น. - comment id 823169
ตอบคุณป. ความมหัศจรรย์ของตัวอักษรคือ ทำหน้าที่ถ่ายทอดสรรพสิ่งจากใจ ออกมาเป็นความงดงามทางภาษา เป็นบทกวี...
13 กุมภาพันธ์ 2551 19:07 น. - comment id 823180
จ้า คุณเฌอมาลย์... หากหยิบใจที่งามไสวด้วยรัก มาร้อยถักด้วยอักษร โลกนี้จะเต็มด้วยบทกลอน ที่สะท้อนความรัก... หากนำความเศร้าของคนในโลกนี้ แล้วลิขิตด้วยอักษรบรรดามี โลกนี้จะเรียงรายด้วยอักษร อันสะท้อนความเศร้า... หากนำรอยยิ้มละไม และดวงใจอันอ่อนโยนของคนในโลกนี้ มาจารึกด้วยตัวอักษร โลกนี้ก็เต็มด้วยความอ่อนโยน แห่งรอยยิ้ม... ไม่ว่าเรื่องราวใดๆ จะสุขสมรื่นรมณ์ใจบรรดามี หรือทุกข์โศกเศร้าโศกี ตัวอักษรสามารถสะท้อนเรื่องราวอันนั้น เป็นบทกลอน....
13 กุมภาพันธ์ 2551 19:24 น. - comment id 823189
เพียงพลิ้ว.... เพียงหนึ่งคำบรรยายความรู้สึก สะท้อนลึกเรื่องราวให้กล่าวขาน ดุจศิลาจารึกบันทึกกาล เป็นตำนานผ่านใจให้ได้ยล คือวัฒนธรรมลำค่าในมนุษย์ ประเสริฐสุดอักษราค่าเหลือล้น อันถ้อยคำคือความในจากใจคน จารึกตนเป็นอักษรสะท้อนมา..
13 กุมภาพันธ์ 2551 19:27 น. - comment id 823192
ดีจ้าโอเลี้ยง... บ้านกลอนนี้อุปมาเหมือนกับสวนอัษร รอพี่น้องบ้านกลอน เก็บมาร้อยเรียงเป็นมาลัย
13 กุมภาพันธ์ 2551 19:29 น. - comment id 823193
จ้าคุณยา... อิอิ ไม่เป็นไร เอแต่ว่าแปลกๆไปนะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 19:31 น. - comment id 823194
คุณพิมญดา.... อิอิ แสดงว่าเป็นเอาหนัก เจริญพร...ถ้ำกระบอกไม่ทราบรักษาได้เปล่า
13 กุมภาพันธ์ 2551 20:00 น. - comment id 823216
นมัสการเจ้าค่ะ หลวงพี่ อันรสทิพย์แห่งกวีวจีถ้อย ที่เรียงร้อยคล้อยคำร่ำอักษร ทำให้เราหวั่นไหวในบทกลอน บ้างมีอ้อนมีซึ้งติดตรึงตา บ้างก็มีที่อารมณ์เกิดป่มเด่น คิดคล้อยตามความที่เห็นเป็นห่วงหา เลยหดหู่หัวใจให้โศกา และร่ำหาร่ำไห้เปี่ยมในทรวง บ้างก็มีอารมณ์เกิดปมด้อย คิดรสถ้อยร้อยสนุกทุกแดนสรวง ร่วมเฮฮาสาระพันมันส์เต็มทรวง ใจก็พ่วงเริงรื่นสดชื่นใจ มาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนเจ้าค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 20:48 น. - comment id 823234
ใช่เพียงบทรสถ้อยร้อยอักษร หากสะท้อนดวงจิตคิดไฉน จากส่วนลึกนึกฝันผันจากใจ ดุจดั่งสายน้ำไหลไม่ขาดตอน หลากวิสัยหลายแง่เผยแพร่สาร ล้วนจดจารหวานขมบ่มอักษร อิงเหตุผลปนอารมณ์คมคำกลอน ทั้งยอกย้อนเรียบง่ายระบายความ มาตรแม้นรู้คู่กระทำย้ำความคิด แก้ไขผิดเป็นถูกทุกคำถาม รู้แยกแยะดีชั่วอย่ามัวตาม ทุกถ้อยความมีประโยชน์ไร้โทษภัย แต่หากหลงดงภาษาคว้าเพียงเปลือก มิรู้เลือกด้วยปัญญามาแก้ไข เพลินเพียงถ้อยอร่อยลิ้นตราบสิ้นใจ คงอาจไร้คุณค่าน่าจดจำ.......... ไดอรี่
13 กุมภาพันธ์ 2551 20:50 น. - comment id 823235
จ้า อาราเล่... คือรสทิพย์แหงกวี ร้อยวจีมาสร้างสรรค์ อิ่มอกอิ่มใจพลัน อิ่มใดนั้นบ่เทียมเลย อ่านบทกวีรัก ใจพร้อมพรักรักเปิดเผย คำรักกวีเอ่ย เพื่อเปิดเผยความในใจ อ่านบทกวีเศร้า ใจรุมเร้าเศร้าอ่อนไหว เรียกหยดน้ำตาใน รินหลั่งไหลเป็นบทกลอน สุขทุกข์และโศกเศร้า มันรุมเร้ายากถ่ายถอน บันทึกมันเป็นบทกลอน ผ่านสะท้อนบรรเทาใจ...
13 กุมภาพันธ์ 2551 22:23 น. - comment id 823254
นมัสการ..พระอาจารย์ .. วันนี้มาเก็บตุนกลอนพระอาจารย์ไว้ก่อน... ได้ทั้งเนื้อหา ..ได้ทั้งความไพเราะ......
14 กุมภาพันธ์ 2551 00:00 น. - comment id 823269
นมัสการ ขอรับ มา ร่วม ดีด สี วจี รส พจนา ด้วยขอรับ