อินทรวิเชียร ๑๑ ....เจ้าต่ายซิหมายท้า ชิชะมาสิเต่าเอ้ย ช้าใยกระไรเลย บ่มิเคยจะแข่งขัน สองเรานะสี่ขา และจะมาพนันกัน วิ่งไป ณ จุดนั้น ชนะฉันชะช้าใย แม้ใครสิแพ้พ่าย ธนจ่ายละลายไป หากแน่กะแก่ใจ เถอะจะได้ประลองตน ให้เจ้านะไปก่อน ระยะผ่อนมิร้อนรน ส่วนข้าจะนอนกรน พละล้นจะเป็นไร เต่ารับมิรอช้า มนพามุเดินไป งุ่มง่ามคละคลานไซร้ ชนะชัยมิไกลเกิน ส่วนเจ้ากระต่ายดง มุหะหลงสิเพลิดเพลิน ตื่นพลันตะวันเดิน ระยะเนิ่นทิวากร สี่ตีนสิโกยอ้าว กลราวจะบินจร ถึงพลันตะวันรอน อุระร้อนสิไฟลน เส้นชัยคะคาดหวัง อุวะชั่งมิเห็นผล เต่าคว้าเสวยยล ชิชะตนนะปราชัย เรื่องเล่านิทานนี้ วจะชี้จะขานไข ถ้ามัวประมาทไซร้ ทุสะให้ระยำตัว ตัวอย่างกระต่ายนั้น มุหะมั่นสิพันพัว แพ้เต่ามุเมามัว มนชั่วประมาทเอย....
8 กุมภาพันธ์ 2551 19:19 น. - comment id 821384
ฮั่นแน่มาเงียบเชียว.. มาจองที่หนึ่งก่องได้ป่าวหว่า
8 กุมภาพันธ์ 2551 19:42 น. - comment id 821390
นึกถึงเพลงกระต่ายกับเต่า ของน้าหงา นะ
8 กุมภาพันธ์ 2551 21:38 น. - comment id 821410
นมัสการค่ะหลวงพี่ กระต่ายตัวนี้ไม่ต้วมเตี้ยมนะ กลิ้งเร็วเลยล่ะจ้า
8 กุมภาพันธ์ 2551 21:50 น. - comment id 821411
จะเอ่ยเล่านิทานที่ขานกล่าว ราชสีห์เฝ้าป่าใหญ่พงไพรสาน นึกลำพองเยื้องย่างเย่อหยิ่งนาน สัตว์อื่นลานลนกลัวทั่วทุกแดน ยามหิวโหยวิ่งล่าหาอาหาร แอบย่องคลานตะปบสัตว์ร้อยแสน ว่าข้านั้นยิ่งใหญ่ในเมืองแมน มิขาดแคลนสิ่งใดไม่หวั่นเกรง แล้ววันนึงราชสีห์จับหนูน้อย บีบไม่ปล่อยคาอุ้งมือข่มเหง หนูตัวน้อยร้องขอเพราะกลัวเกรง ราชสีห์เบ่งคำรามเยาะหยามพลัน ท่านราชสีห์ได้โปรดไว้ชีวิต หนูน้อยนิดสักครั้งอย่าเยาะขัน เราตัวเล็กไม่อิ่มอร่อยมัน โปรดปล่อยฉันไปเถิดจะเกิดดี หากท่านพบประสบภัยในภายหน้า หนูอย่างข้าจะตอบแทนไม่หลบหนี จะสำนึกในคุณงามและความดี ท่านราชสีห์กรุณาปล่อยข้าไป ส่วนราชสีห์ใจดีปล่อยหนูน้อย เจ้าหนูพลอยโชคดีอย่าสงสัย แล้วต่างแยกจากกันเดินต่อไกล ชีวิตใหม่ท่านมอบขอบคุณจริง ครั้นวันนึงราชสีห์ตกบ่วงพราง เชือกโยงยางรัดตัวหัวสมิง ดิ้นไม่หลุดตายแน่แม้ไม่ยิง หมดทุกสิ่งแล้วหนอตัดพ้อใย เหมือนประกายสว่างจากสวรรค์ เจ้าหนูพลันผ่านมาหาพอไหว ได้โอกาสตอบแทนคุณอย่างไว เร่งกัดใส่เชือกรัดที่มัดกุม ราชสีห์หลุดบ่วงเชือกออกได้ แสนดีใจหลุดจากเชือกขยุม แล้วขอบใจหนูน้อยที่ช่วยรุม กัดเชือกสุมออกจากร่างของตน นิทานนี้สอนอะไรไม่ทราบหรอก ท่านช่วยบอกมาเป็นกลอนสัก10หน จะขอบคุณล่วงหน้าเพราะยาคน ขี้เมาซนอยากรู้สู่กบาล....อิอิ...
8 กุมภาพันธ์ 2551 22:22 น. - comment id 821412
นมัสการค่ะ เรื่องหมากับเงา มีสุนัข ตัวใหญ่ กว่าใครเขา ชอบย่องเบา ขโมยเก่ง เบ่งหนักหนา ของของใคร ไม่สน จะเอามา ไม่เลือกว่า จะใช้ วิธีใด อยู่วันหนึ่ง ขโมยหมู มาหนึ่งชิ้น อร่อยลิ้น เป็นแน่แท้ ไม่เฉไฉ แล้วคาบตรง ลงลำธาร เพื่อข้ามไป หาที่เหมาะ เจาะสมใจ ค่อยลิ้มลอง ตรงมาถึง กลางน้ำ ที่รินไหล เอ๊ะนั้นใคร มองเห็น คาบสิ่งของ แถมมีหมู มาด้วย น่าลิ้มลอง จึงมองจ้อง ลึกลง ตรงลำธาร เป็นสุนัข ตัวใหญ่ อยู่ในนั้น ปากของมัน คาบหมู ดูแสนหวาน ชิ้นใหญ่กว่า ของเรา ก็ไม่ปาน อยากจะทาน หมูเขา เข้าเหลือใจ จึงอ้าปาก ทิ้งหมู ลงในน้ำ เพื่อขย้ำ หมูใหญ่ ที่หลงใหล จะต่อสู้ แย่งหมู เขาโดยไว หวังในใจ ต้องได้ มันมากิน เมื่อกระโจน โผนลง ตรงลำธาร เงามืดดำ เลือนหาย คล้ายผกผิน น้ำกระเซ็น ซาบซ่าน พร่านลงดิน หมูซักชิ้น ก็ไม่ ได้เห็นมัน จึงเหลียวดู หมูนี้ ที่คาบมา เร่งมองหา ไม่เห็น เช่นความฝัน หมูก็หาย หมูเขา ก็อดกัน เพราะว่ามัน โลภมาก ลาภจึงเลือน นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โลภมาก มักลาภหาย
8 กุมภาพันธ์ 2551 22:40 น. - comment id 821414
สวัสดีครับ อ.บนข. ผมขอเป็นลูกตาลนะครับ
8 กุมภาพันธ์ 2551 23:14 น. - comment id 821419
กา(อาราเล่)อยากเป็นหงส์ กาลครั้งหนึ่งมีอีกาว่าคมขำ ขนตัวดำเงาสนิทคิดอิจฉา เห็นกลุ่มหงส์สะองขาวพราวพร่างตา พวกอีกาเฝ้ามองแล้วข้องใจ ว่าทำไมตัวฉันนั้นดำนัก จึงประจักษ์ที่ขุ่นข้องจ้องสงสัย แล้วสรุปว่าเห็นความเป็นไป ได้อาศัยใกล้น้ำร่ำพักพิง แล้วอาบน้ำทุกวันพลันขนขาว จักแวววาวงามตาน่าสุงสิง จึงคะเนผิดพลาดคลาดความจริง เลยแอบอิงพิงพักจักทำตาม จึงเห็นดีเห็นงามตามเป็นหมู่ อาศัยอยู่ริมน้ำย่ำผลีผลาม กระโดดเล่นเย็นใจในทุกยาม หวังอยากงามดั่งหงส์คงได้เป็น ลงเล่นน้ำทุกวันหันตามเขา จักแลเฝ้าทำทุกทางอย่างที่เห็น จะกินอยู่อย่างไรใช่ประเด็น จึงลำเค็ญเข็ญใจให้วางวาย ด้วยมิใช่ตัวเราเฝ้าเป็นหงส์ จึงเริ่มปลงทำอย่างไรใช่จะหาย ขนไม่ขาวอย่างเขาเฝ้าเสียดาย ซ้ำชีพวายลงก่อนด้วยอ่อนแรง เพราะไม่มีอาหารหาทานยาก เริ่มลำบากทุกข์ใจให้หน่ายแหนง เริ่มล้มตายมลายลับกลับเสียดแทง ด้วยใช่แหล่งของกาพาวายปราณ มีคติเตือนใจอย่าใคร่หลง ให้ปลดลงปลงใจได้ขับขาน ถึงจะเปลี่ยนอย่างไรใช่สันดาน ธรรมชาติมิอาจหาญต้านเปลี่ยนแปลง เฮ้อ แทบตายเจ้าค่ะ
8 กุมภาพันธ์ 2551 23:15 น. - comment id 821420
ขอเป็นกองเชียร์นะคะ
9 กุมภาพันธ์ 2551 01:25 น. - comment id 821429
กระต่ายเปรียบปัญญาพาไวว่อง เฉกลมล่องพลิ้วไหวเลื่อนไหลหนอ หากแต่ขาดสมาธิมิเพียงพอ ยากสานต่อชัยชำนะปล่อยละวาง เต่าเชื่องช้าอดทนฝึกฝนจิต เรียนรู้ผิดเป็นถูกสู้ทุกอย่าง แต่ปัญญานิดน้อยยากปล่อยวาง ทุกเส้นทางยากลำบากล้วนตรากตรำ หากกระต่ายแลเต่าเอาใจร่วม หนึ่งใจรวมสัมพันธ์พลันสุขหนำ เลิกแข่งขันฟันฟาดอาจหมดกรรม ย่อมจะกำชัยชนะวัฏฏะลวง....อิอิอิ เราก็มั่วไปเรื่อยเปื่อยงั้นๆแหละไร้ความหมาย ....เกี่ยวกับเต่ากระต่ายตรงไหนเนี๊ย! โนตวิ่ง
9 กุมภาพันธ์ 2551 05:45 น. - comment id 821434
นมัสการ ขอรับ ท่านมหา... เวลาจำวัดคงจะน้อยลงเป็นเสียแน่แล้วละขอรับ กระผมเองก็คงจะไม่แตกต่างจากท่านมหาสัก เท่าใดหรอกขอรับ.......
9 กุมภาพันธ์ 2551 07:32 น. - comment id 821447
นมัสการค่ะ มาศึกษาราวเรื่องเนื่องอิสป หลากหลายพบหลากเรื่องเนื่องสืบสาน ทั้งของท่านอีกพี่มีพบพาน เอนั่งอ่านไพเราะเสนาะใจ ในความกวนยียวนก๊วนเรานี้ มองให้ดีย่อมมีชี้สดใส สาระเปี่ยมเยี่ยมยอดกอดฤทัย หาแค่ได้ปั่นป่วนกวนจิตใจ วันนี้จิตขอบคุณ เรื่องราวคุณท่านสดใส ก่อเกิดเรื่องมากมาย จิตจักได้ขอผลงาน นำไปสั่งสอนศิษย์ ตัวนิดนิดให้สืบสาน อ่านกลอนอ่านเรื่องนาน ให้สนานเพิ่มปัญญา อีกเนื่องเรื่องพี่พี่ ที่คงมีน้องเสาะหา ขอนำทำบุญญา กุศลพาแด่ทุกคน... ขออนุญาตเอาเรื่องอิสปที่ทุกคนแต่ง ไปให้เด็กฝึกอ่านนะคะ ... จะได้ทั้งกาพย์ กลอน และแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกค่ะ
9 กุมภาพันธ์ 2551 07:40 น. - comment id 821451
นมัสการครับหลวงน้อง
9 กุมภาพันธ์ 2551 08:55 น. - comment id 821472
ตอบคุณลานเทวา... จ้า รู้สึกว่าจะให้ข้อคิด คติเตือนใจดี
9 กุมภาพันธ์ 2551 08:58 น. - comment id 821474
กระต่าย... อิอิ เป็นกระต่ายยุคใหม่ นะเอง
9 กุมภาพันธ์ 2551 09:14 น. - comment id 821479
ตอบคุณยา...ถอดสลักกรณีกระต่ายกับเต่า... จะขอตอบนิทานที่ท่านกล่าว เป็นเรื่องราวนิทานผ่านไพรสณฑ์ ราขสีห์หนึ่งลำพองผยองตน อำนาจล้นครองป่าพนาไพร เป็นจ้าวป่าครองป่ามานานเนิ่น ช่างเพลิดเพลินนำนาจประหลาดไซร้ บริหารป่าผู้เดียวไม่เกี่ยวใคร ลำพองใจเบ็ดเสร็จเผด็จการ นี่ก็ใกล้เลือกตั้งอีกครั้งหน้า ต้องเข้ามาเป็นผู้นำทำอาจหาญ ใครไม่เลือกอาจตายวายชีพปราณ เป็นอาหารราชสีห์ทุกวี่วัน นโยบายในป่าฆ่าไม่เว้น ใครไม่เห็นกันด้วยม้วยอาสัญ ทั้งกรงเล็บเขี้ยวคมถล่มพลัน บันลือลั่นสัตว์ป่าระอากลัว หลงอำนาจบาทใหญ่ใจเหี้ยมหาญ บริวารมากมายเรียงรายทั่ว ทั้งสัตว์ใหญ่สัตว์น้อยทะยอยตัว ต้องก้มหัวยำเยงเกรงบารมี มาวันหนึ่งจึงราชสีห์ใหญ่ น้ำลายไหลอยากกินหนูลองดูถี ด้วยว่าหนูเป็นยาถ่ายระบายดี ลองซักทีคงถ่ายสบายวาน จึงจับหนูตัวหนึ่งนั้นมาได้ เจ้าหนูไหว้อ้อนวอนป้อนคำหวาน โอ้พ่อจ๋าจ้าป่าพระยามาร อย่าประหารข้าน้อยปล่อยเถิดนา หากเลือกตั้งครั้งใดสมัยอื่น จะเกณฑ์หนูหลายหมื่นทั้งผืนป่า เทคะแนนให้ท่านผ่านสภา เป็นจ้าวป่าอมตะนิรันด์กาล ราชสีห์จึงปล่อยเจ้าหนูนั้น แล้วเดินดั้นเข้าป่าหาอาหาร ให้บังเอิญคราวซวยต้องซมซาน ติดบ่วงพรานรัดรึงตรึงกายา จึงร้องลั่นกลางป่าช่วยข้าด้วย แต่ยิ่งซวยไร้สัตว์จะอาสา เพราะทำชั่วไว้นานที่ผ่านมา มีแต่สมน้ำหน้าแล้วจากไป ความจึงทราบถึงหูเจ้าหนูนั้น รีบบึ่งบั่นมาช่วยจ้าวป่าไว้ ใช้คมฟันบั่นเชือกเข้าทันใด เชือกขาดไซร้ได้หนูผู้มีคุณ ตั้งแต่นั้นราชสีห์จึงมีมิตร ผู้ใกล้ชิดเป็นหนูดูอบอุ่น เลิกใจบาปหยาบช้ามีการุณย์ ใจเจือจุนสุนทรีย์ทุกที่ไป อันนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ กตัญญูรู้คุณเป็นไฉน ราชสีห์กับหนูเห็นอยู่ไง ย่อมสอนใจผู้ค้นให้ค้นเอย.... หมายเหตุ...ลองดูถี คือ ลองดูซี วาน (ถิ่นใต้) คือ ก้น
9 กุมภาพันธ์ 2551 10:16 น. - comment id 821500
ความประมาทคือจุดจบที่ง่ายมาก ๆ ค่ะแค่เสี้ยววินาทีเอง....
9 กุมภาพันธ์ 2551 10:58 น. - comment id 821523
นมัสการค่ะ มาฟังนิทานอีสปค่ะ ทำให้นึกถึงตอนเป็นเด็กเลย พ่อชอบเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนประจำ
9 กุมภาพันธ์ 2551 11:13 น. - comment id 821531
ตอบคุณมณีจันทร์ (เหมากะงา).... ก่อนอื่นต้องขอเริ่มด้วยพุทธพจน์ว่า.. โลโภ ธมฺมานํ ปริปนฺโถ แปลว่า...ความโลภเป็นอันตรายต่อความถูกต้องทั้งหลาย..... จะขอตอบนิทานที่ท่านเอ่ย เพื่อเฉลยมณีจันทร์หวั่นผวา ราชสีห์กับหนูสู้อาตมา แล้วก็มาหมากะเงาเอ้าลองดู เหมากะงาหมากะเงาเราได้คิด ได้เตือนจิตกันไว้ไม่อดสู อันความโลภมาเยือนเหมือนศัตรู เฝ้าคอยดูเรียงรายทำร้ายตน ไม่ละเว้นเป็นคนจนชั้นสัตว์ หากมันกัดกลางใจให้สับสน พิษความโลภมากมายอย่าหมายยล หากหลีกพ้นห่างไกลได้เป็นดี จะขอยกประเด็นเห็นประจักษ์ เรื่องสุนัขกับเงาเราขอชี้ สุนัขหนึ่งเซซวนไม่อ้วนพี เพราะไม่มีอาหารจะผ่านคอ เดินโซเซเหล่ตาหาที่ไหน เขาขับไล่ถูกซัดสัตว์เหลือขอ น้ำลายไหลหากตกผงกคอ หิวจริงหนอขอใครก็ไล่ตี จึงวันหนึ่งผ่านบ้านเห็นชี้นเนื้อ ย่ามใจเหลือปากคาบงาบวิ่งหนี กำซาบหวานผ่านลิ้นมันยินดี วิ่งเร็วรี่หูตั้งไปยังไพร ข้ามขอมไม้พาดผ่านลำธารห้วย รอดชีพม้วยมองผ่านลำธารใส เห็นเงาตนสะท้อนเดือดร้อนใจ เอ๊ะนั่นหมาใหญ่เยื้องยาบคาบเนื้อมา เป็นก้อนเนื้อชิ้นใหญ่กว่าในปาก ไม่ลำบากหากแย่งสุนขา รีบปล่อยเนื้อทันใดไม่รอรา สู่ธารลาไหลลับไปกับเงา เพราะโง่เง่าโลภมากลำช้ำ ต้องระกำซ้ำเยือนเหมือนไฟเผา สุนัขโลภสอนใจคนให้ค้นเงา ว่าหากเมาโลภมากลำบากเอย...
9 กุมภาพันธ์ 2551 12:21 น. - comment id 821557
สวัสดีครับ ลุงแทน.... อิอิ กระต่ายก็เลยตื่นตูม ด้วยประการฉะนี้...ตอนนี้มีงานอบรมเยอะเปล่าครับ
9 กุมภาพันธ์ 2551 12:35 น. - comment id 821560
เยี่ยมๆๆ ดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ หลวงพี่และพี่ๆทุกคน
9 กุมภาพันธ์ 2551 15:24 น. - comment id 821587
น่าสนุกนะ..ว่าแต่ใครเป็นกระต่าย.. ใครเป็นเต่า..ครับ...ตามท้องเรื่อง..นี้
9 กุมภาพันธ์ 2551 15:37 น. - comment id 821592
เยี่ยมค่ะ....
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:31 น. - comment id 821674
ตอบคุณเล่ (กากับหงส์) เรื่องกากับหงส์นี้ แต่งขึ้นมาตามสมติจ้า..... ขอกล่าวแก้นิทานที่ท่านเอ่ย กล่าวภิเปรยเอ่ยคำนำสื่อสาร ราชสีห์กับหนูอยู่มานาน แล้วก็ผ่านหมากับเงาเราเรียบเรียง แล้วก็มาอาราเล่เห่มาร้อง กู่กึกก้องกากามาทำเสียง ว่ากาเอ๋ยกาดำทำไล่เลียง ไม่พอเพียงอยากเป็นหงส์จำนงใจ โอ้กาเอ๋ยกาดำไม่สำเหนียก คนเขาเรียกอีกาน่าแปลกไหม ไม่เห็นเรียก ไอ้กา ว้าทำไม เป็นไฉนหนออีกาผับผ่าซี ที่ตัวดำปิ๊ดปี๋มีตำนาน เป็นเรื่องเล่ากล่าวขานมานานจี๋ กากับหงส์แรกเริ่มแต่เดิมที เป็นเพื่อนซี้คบกันไม่หวั่นใด ทั้งกาหงส์คงเดิมนั้นตัวดำ ไม่งามขำเด่นหรูดูสดใส กากับหงส์ไม่ต่างไม่ห่างไกล เป็นสัตว์ไพรตัวดำธรรมดา จึงวันหนึ่งหงส์นั้นพลันบรรเจิด สมองเกิดความคิดไม่อิจฉา อยากมีขนงดงามอร่ามตา ขอร้องกาเพื่อนจ๋าช่วยข้าที เราทั้งสองจะสวนด้วยสร้างสรร ใช้พู่กันนั้นหมายระบายสี ผลัดกันแต้มแต่งกันนั้นดูซี คงงามดีส่วนเด่นเห็นแต่ไกล กาจึงจับพู่กันบรรจงแต้ม ขนหงส์แจ่มงดงามอร่ามไสว หงส์จึงกลายเป็นหงส์ได้ตรงใจ แต่น้ำใจเคลือบแคลงแฝงเล่กล ไม่อยากให้กานั้นมันสวนเด่น เพราะอาจเป็นคู่แข่งทุกแห่งหน จึงคว้าถ้วยสีดำทำแยบยล สาดใส่ขนสีดำซ้ำอีกา อนิจจากาดำยิ่งดำหนัก เพระเพื่อนรักมิ่งมิตรริษยา ตัวงดงามแต่น้ำใจกระไรนา ไม่โสภาเหมือนตัวชั่วในใจ อันรูปกายภายนอกใช่บอกว่า ใจโสภางามเด่นเป็นไฉน หรือใจจืดใจดำทำระยำไป หงส์กาไซร้สำแดงแฝงไว้เอย...
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:33 น. - comment id 821676
คุณครู เจี๊ยบ... ว่าแต่ว่าเชียรข้างไหนเอ่ย..
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:38 น. - comment id 821678
จ้า คีตากะ....ลิงหลอกพระหลอกเจ้า อิอิ ลิงพระรามชัวร์... คุณคีตากะ เสนอมุมมองคมไปอีกแบบนะเนี่ย... อันกระต่ายกับเต่าเอามาเปรียบ ปัญญาเฉียบคือสมองต้องค้นหา กายกับใจต้องสัมพันธ์จึงผันพา พ้นโมหาครอบคลุมขุมใจเอย...
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:40 น. - comment id 821680
ตอบคุณแจ็ค.... กู้ระเบิดหมดยังเอ่ย ยังไม่ได้ไปวางบ้านคุณแจ็คเลยนี่ มัวแต่วุ่นกู้บ้านตัวเองอยู่ อิอิ กลัวจะระเบิดตูมตามขึ้นมาซิ
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:48 น. - comment id 821681
ตอบคุณเอ... ด้วยความยินดีจ้า แต่คุณเอต้องนำไปเกลาสำนวนใหม่อีกที เพระแต่งมาด้วยความรีบเร่ง... เด็กเด็กกับนิทาน คือของหวานอันยวนใจ ชอบฟังทุกครั้งไป และอาจได้คติธรรม ได้สอนเรื่องการฟัง ใจยับยั้งไม่ถลำ นิทานที่ผ่านคำ คุณค่าล้ำนำแสดง...
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:49 น. - comment id 821682
สวัสดี โยมพี่คนบนเกาะ.... มาอ่านนิทานคำกลอนกันเถิด
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:51 น. - comment id 821683
จ้า โอเลี้ยง....อิอิ ถ้าโอไม่เลี้ยงเห็นทีจะต้องอดแน่
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:52 น. - comment id 821684
ดีจ้า คุณอรุณสุข... อิอิ ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ยกให้คุณอรุณสุขเป็นกรรมการและกัน
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:54 น. - comment id 821685
คุณสลักพิน.... ขอบคุณจ้า คำชมขอพิจารณารับไว้ อิอิ
9 กุมภาพันธ์ 2551 22:10 น. - comment id 821714
ตอบคุณ whitelilly... ถูกต้องแล้วจ้า....เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
9 กุมภาพันธ์ 2551 22:12 น. - comment id 821716
ดีจ้า คุณเฌอมาลย์.... จ้า นิทานหลายๆ เรื่องยังจำฝังใจอยู่เสมอ