ฉันไม่เห็นอะไรเลย โลกก็ดูเฉยเมยอย่างที่คุ้น ฟ้าก็ดูว่างเปล่าอย่างทารุณ ลมก็หมุนหมุนวนไร้ที่ไป ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เคยแม้แต่คิดจะสงสัย จะเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางไปอย่างไร กาลเวลาจะเปลี่ยนไหมก็ช่างมัน ความว่างเปล่า ความปวดร้าวเหมือนเป็นกำแพงกั้น ปิดใจจากอะไรนับร้อยพัน อยู่ในโลกโลกของฉันเพียงผู้เดียว ฉันอยู่บนโลกอีกใบ ที่ลอยไปไร้แรงมายึดเหนี่ยว ที่ทุกสีคือสีที่ซีดเซียว ที่ความฝันแม้สักเสี้ยว ก็ไม่เหลือ
23 มกราคม 2551 11:01 น. - comment id 814433
พยายามว่างเปล่า .. กับว่างเปล่า .. มันต่างกันนะ ..
23 มกราคม 2551 11:04 น. - comment id 814435
สีซีดเซียวเหรอคะ แบบนี้ต้องป้ายสีให้ซะแล้วล่ะ ชอบสีไหนล่ะคะ ^_^
23 มกราคม 2551 11:30 น. - comment id 814447
ในความว่างเปล่า บางทีก็มีสิ่งซ่อนเร้นค่ะ...
23 มกราคม 2551 12:06 น. - comment id 814458
สวัสดีค่ะ หมอกจาง... แต่งแต้มความฝัน สีสันงดงาม... ความรักสีชมพู... อย่าให้ชีวิตไร้สีสัน แม้มองแล้วว่างเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ต้องมีสีชมพูด้วยแน่...
23 มกราคม 2551 12:18 น. - comment id 814466
ระบำความว่างเปล่านี่ เข้าข่ายโป๊หรือเปล่านะ
23 มกราคม 2551 14:18 น. - comment id 814506
ต้องใช้แว่นขยายช่วยอีกที
23 มกราคม 2551 17:33 น. - comment id 814577
มีคนคิดลึกด้วยขอบอก...อิอิ กลอนเหงาจัง....เห็นภาพคนที่ไม่เหลืออะไรหรือใครเลย....แต่ในความว่างเปล่าเราก็ยังรู้สึกได้ว่าเราอยู่คนเดียว อย่างน้อยก็ยังมองเห็นตัวเองเนาะไม่ได้ว่างเปล่าเกินไปนัก
23 มกราคม 2551 17:44 น. - comment id 814585
สวัสดีค่ะคุณหมอกจาง เพราะว่ามี ความมี ความว่างเกิด ความว่างเปิด เผยให้ ความมีเด่น ไร้ความว่าง ความมี ฤๅจำเป็น ความมีเร้น แล้วความว่าง มีค่าฤๅ **************************************
23 มกราคม 2551 18:04 น. - comment id 814595
ผมก็เป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลยเหมือนกัน ทุกวันนี้ชีวิตนั้นก็มีให้แค่ครอบครัวเท่านั้นเอง
23 มกราคม 2551 22:42 น. - comment id 814667
กีกี้ นั่นสินะ.. ......................... เพียงพลิ้ว ไม่ดีกว่าฮะ ผมกลัวโดนป้ายสีที่สุดเลย .......................... whitelily นั่นสิ ถ้ามันว่างจริงๆ คงไม่มีอะไรให้พูดถึงเนาะ ........................... แมงกุดจี่ อาจะมี หรืออาจจะแค่เคยมีก็ไม่รู้ฮะ สีชมพูเนี่ย .......................... ก้าว..ที่กล้า ไม่น่าใช่มั้งครับ ถ้าอันที่ว่านั่นต้องเรียกจ้ำบ๊ะสิ ........................... เฌอมาลย์ กล้องจุลทรรศส่องเลยก็ไม่ว่ากันครับ ........................... โคลอน นั่นสิเนาะ .......................... Alphilic นึกถึงปรัชญาเต๋าเลย ขอบคุณกลอนที่เอามาแจมครับ .............................. กวีปกรณ์ เป็นกำลังใจให้ ...............................
14 กุมภาพันธ์ 2551 08:03 น. - comment id 823337
โลกอันว่างเปล่า เป็นหนึ่งเสี้ยวปวดร้าวของโลกกว้างใหญ่ ฉันเฝ้ามอง.. เธอจะขังตัวเองในนั้น อีกนานเท่าใด จึงจะก้าวออกมาพบใคร ... ในโลกที่เหลือ หวัดดีวันวาเลนไทน์หมอกจาง...
14 กุมภาพันธ์ 2551 22:58 น. - comment id 824020
ละอองน้ำ สวัสดีวันวาเลนไทน์เช่นกัน..
19 กุมภาพันธ์ 2551 06:53 น. - comment id 824891
ฉันไม่เหลืออะไรเลย มีแต่ความชาเฉยเข้าจับจอง รอบตัว หัวใจ มีแต่ความหม่นหมอง จันทร์เซียวส่องแสงไม่ถึงตา ฉันไม่เคยค้นคำตอบะไรเลย อย่างเคย ,รับรู้ และ ยอมรับ ไร้แรงหา ว่าทำไม เหตุใด อย่างไหนในกาลเวลา เพียงปล่อยให้เวลาหมุนผ่านไปแต่ละวัน เหลืออะไนอกจากความว่างเปล่า กับวูบเงาของใจที่ไหวหวั่น มีแต่รอยริ้วลากบากใจเป็นชั้น-ชั้น รอ เวลา คืน วัน...จะหมดลง ฉันอยู่ในโลกที่โศกนี้ โลกใบเดียวกับที่ใครอื่นลุ่มหลง คงเพราะ..เขายังมีความงดงามและมั่นคง แต่ฉันอยากจบ"ชีวิต"ลงเมื่อไร้"ชีวี" ฉันยังต้องอยู่ในความว่างเปล่า ขับล้อเริงเร่ารอบตัวฉันนี่ ทับถม เย้ยเยาะหรือไม่-ฉันก็สุดเข้าใจในท่าที ในเมื่อ...สิ้นไยดีแล้วในแววตา