ถึงดินแดน แมนฟ้า บนสวรรค์ ช่างเสกสรร งดงาม ราวความฝัน สวยกระจ่าง พร่างพราว ดาวร้อยพัน มีสุขสันต์ ทุกทิพา ราตรีกาล ปราสาททรง สูงใหญ่ ในแดนสรวง ประดับพวง มาลา ร้อยประสาน เสียงเพลงทิพย์ บรรเลง ก้องกังวาน ทั่วพิมาน ละลานตา น่าเชยชม เหล่านางฟ้า เทพบุตร หลายหมู่เหล่า โลดแล่นเคล้า คลอเคียง ส่งเสียงขรม ต่างหยอกล้อ ชี้ชวน พารื่นรมย์ ดอกทิพย์พรม โปรยปราย ขจายจร หอมดอกทิพย์ กลีบบาน ซ่านในอก ดอกไม้ตก ร่วงพราว พรายสลอน เทพนารี รีบคว้า เอื้ออาทร แซมทัดจอน เหน็บไว้ ใด้เหมาะใจ เทพบุตร รุดมา หาอนง ด้วยลุ่มหลง นางสวรรค์ มิผันผาย ส่งสายตา ด้วยเล่ห์ เสน่ห์ชาย ชวนหลงใหล ใฝ่ฝัน ทุกวันไป สะดุ้งตื่น ขึ้นมา เช้าแล้วหนอ น่าจะรอ อีกสักหน่อย คอยไม่ไหว ฝันนั้นค้าง เสียแล้ว โธ่เอ๋ยใจ ช่างกระไร หลอกให้ เราละเมอ นี่แหละหนา ใจคน ช่างคดเคี้ยว ชอบลดเลี้ยว เที่ยวไป ยามทีผลอ ไม่อยู่นิ่ง ชอบวิ่ง จริงนะเออ ทำให้เซ่อ ซึมเซา น่าเศร้าใจ pingpong
26 พฤศจิกายน 2550 20:25 น. - comment id 793646
เดินตามทาง รกเรื้อ และเคี้ยวคด มิกำหนด จุดหมาย ปลายทางได้ ถึงทางแยก สองแพร่ง เป็นแนวไป ถูกผลักไส ทางซ้ายนั้น พลันก้าวเดิน พบกำแพง เหล็กสุงใหญ่ น่าใจหาย มีมากมาย เดินเข้าไป ไม่ขัดเขิน ให้สะทก อกสะท้าน อยากจะเมิน กลัวเหลือเกิน แสนประหวั่น น่าพรั่นพรึง กะทะเหล็กใบ แผ่กว้าง เหลือจะวัด หมู่มวลสัตว์ ถูกคนคุม นำมาถึง ผลักลงไป ในน้ำร้อน ใช้พายคลึง ตาถลึง ตาถลน ปนน้ำมัน น่าหวาดเสียว เปลวไฟ พลุ่งพรายยับ ส่องแสงจับ ทั่วทุกหน คนโศกศัลย์ ส่งเสียงกรีด หวีดร้อง ทั่วหน้ากัน คิดหนีนั้น อย่าหมาย มิได้เลย ลืมตาตื่น เหงื่อไหล เต็มใบหน้า หวาดผวา สะดุ้งใจ โอ้อกเอ๋ย ฝันหรือนี่ เหตุเช่นนี้ ยังมีเคย สุดเปรียบเปรย เอ่ยวาจา หาใครฟัง pingpong
26 พฤศจิกายน 2550 20:26 น. - comment id 793647
มีชายหนึ่ง แต่งกาย ดูงามงด ทั้งหมดจด มีสง่า มีราศรี ยามก้าวเดิน มั่นใจ ในท่าที ทุกทุกที่ ทุกหน ชวนสนใจ คู่มากับ นงคราญ ผู้งามเลิศ ช่างพริ้งเพริศ ใบหน้า แสนผ่องใส สวมชุดขาว กรุยกราย เรี่ยรายไป คล้องมาลัย เครื่องประดับ วาววับตา เข้ามาหา ด้วยยิ้มแย้ม อันแจ่มใส มาใกล้ใกล้ ลูบศรีษะ ด้วยหัตถา ดั่งจะบอก ถึงความรัก ดุจมารดา อีกนั้นหนา ชายหนุ่ม ยิ้มละไม เอ่ยวจี คำไพเราะ เสนาะโสต ได้มาโปรด เจ้านั้น ช่างหรรษา จงดูแล กายี ที่มีมา อย่าไคลคลา คลาดเคลื่อน จากความดี ทำแต่บุญ เป็นกุศล ไปภายหน้า ตั่งท่านหนา อย่าลืม อย่าหลีกหนี สะสมทรัพย์ แห่งทาน บารมี ชั่วชีวี พบสุข ไร้ทุกข์ใจ ไม่ทันเอ่ย ไก่ขัน กังวานแว่ว เสียงเจื้อยแจ้ว ตื่นแล้ว แสนสดใส มีความสุข พบคน ที่จากไป ใช่อื่นไกล บิดา และมารดร ฝันอีกแล้ว คราวนี้ ฝันดียิ่ง ที่พึ่งพิง ไม่ห่าง จากไกลหนอ ยังคอยห่วง คอยเฝ้า คอยเคล้าคลอ ลูกนี้ขอ อุทิศบุญ หนุนส่งไป ปิงปอง
26 พฤศจิกายน 2550 20:27 น. - comment id 793650
*** หลงป่า *** แสนเพลิดเพลินเดินชมป่าพนากว้าง สองฝั่งทางสวยสดงดงามยิ่ง ทั้งพืชพรรณธัญญางามตาจริง ล้วนแต่สิ่งชวนชมที่สมใจ มวลดอกไม้มากมายหลายหลากสี เขียวขจีกลางพนาพาสดใส ดอกพุฒซ้อนหอมระรื่นแสนชื่นใจ แย้มดอกใหม่บริสุทธิ์บุษบา แดงระเรื่อเจือขาวพราวสะพรั่ง ประดุจดังเมืองสวรรค์ชั้นเวหา เหลืองอร่ามงามระยับจับนัยน์ตา โน้มระย้าห้อยระย้อยสร้อยราตรี ภูมรินทร์บินดอมดมผสมเคล้า ดูดดื่มเอาน้ำหวานพาลบินหนี จากดอกหนึ่งสู่ดอกหนึ่งซึ้งฤดี อิ่มเต็มที่บินเริงร่าถลาลม ยิ่งล้ำลึกเดินมาในป่ากว้าง มองข้างทางช่างสดใสไร้ขื่นขม ทั้งขุนเขาลำเนาป่าล้วนน่าชม เสียงระงมวิหคซ้องร้องเรียกกัน แสนเพลิดเพลินเดินหลงทางกลางป่าใหญ่ ฉันตกใจ...ตื่นภวังค์...นั่งใจหวั่น ความสว่างของดาวเดือนและแสงจันทร์ ปรากฏฉัน...ฝันกับเขา...เท่านั้นเอง
26 พฤศจิกายน 2550 20:28 น. - comment id 793652
***สุขในธรรม*** ...........รวยรวยริน กลิ่นไอ ฟ้าและฝน ...........จากเบื้องบน หล่นลง สู่ภูผา ............ทั้งพงไพร ป่าเขา ทั่วพสุธา ..........เป็นดั่งว่า วสันต์ นั้นมาเยือน ..........เหมือนดั่งธรรม อมฤต หลั่งลงแล้ว ..........สู่ดวงแก้ว หฤทัย ใดจะเหมือน ..........จวบสมัย เข้าพรรษา ถึงคราเยือน ..........ริบตักเตือน เพื่อนพ้อง ส่องทางธรรม ..........หมั่นสดับ คำสอน ของพุทธะ ..........เลิกลดละ สิ่งชั่ว ตัวถลำ ..........หันมาสร้าง ความดี ที่พึงทำ ..........เกิดสุขล้ำ ตามทำนอง ของคุณธรรม ปิงปอง
26 พฤศจิกายน 2550 20:35 น. - comment id 793654
หมั่นฝึกใจให้เย็นเหมือนเป็นน้ำ พยายามไม่คิดให้จิตร้อน เฝ้าทบทวนจิตใจไม่อาวรณ์ เฝ้าหมั่นสอนฝึกจิตให้คิดดี ให้ละเลิกลดใจไม่พยาบาท ไม่อาฆาตมาตรร้ายใครข่มขี่ จะมีให้ความเมตตาล้วนปราณี ชีวิตนี้เยือกเย็นเห็นพระธรรม ดั่งพระองค์ทรงสอนให้ลดละ ถึงแม้จะทำยากลำบากล้ำ ต้องหมั่นฝึกต่อไปให้ประจำ จะหมดกรรมได้ไปในที่ดี
26 พฤศจิกายน 2550 20:38 น. - comment id 793656
ดื่มสุรา..พาใจ..ให้ตกต่ำ เลิกดื่มด่ำ..เสียที..นะพี่จ๋า ขจัดทุกข์..ไม่ได้..หรอกพี่ยา แถมนำพา..โรคร้าย..มาใส่ตน นิสัยเคย..ดีดี..มีสติ กลับเริ่มริ..เปลี่ยนนิสัย..ใจสับสน ผีเมรัย..สิงห์ประทับ..กับตัวตน ไม่น่ายล..ยินดี..เลยพี่ชาย หาทางออก..ทางใหม่..เถิดนะพี่ เป็นคนดี..ของครอบครัว..ปรับตัวใหม่ พ่อและแม่..ของพี่..คงดีใจ ที่ลูกชาย..เปลี่ยนนิสัย..ในสิ่งดี เมื่อเขาจาก..พี่ไป..ไม่หวนกลับ จงยอมรับ..กับความจริง..ทุกสิ่งนี้ คงไม่ใช่..เนื้อคู่..นะคนดี โปรดทำใจ..ของพี่..ให้ผ่อนคลาย สักวันหนึ่ง..อาจประสบ..พบรักแท้ พร้อมดูแล..ห่วงใย..เอาใจใส่ มอบความรัก..ความผูกพัน..ปันน้ำใจ อยู่ข้างกาย..ของพี่..ตราปนิรันดร์ กุหลาบขาว...
26 พฤศจิกายน 2550 20:50 น. - comment id 793657
ฝนกระหน่ำมายามเช้า บังทิวเขาจากสายตา ทุกสายลมที่พรมมา นำละอองฝนต้องกาย หอมกลิ่นใบไม้ในสายฝน ระคนกลิ่นเจ้าแก้วกำจาย หอมอยู่มิเลือนหาย คือหอมในความทรงจำ กิ่งค้อมน้อมรับฝน ค้อมลงจนสุดจะต่ำ ดอกใบในฝนพรำ สดใสงามยามกวัดไกว ขอบคุณคุณน้ำฝน ให้พวงแก้วบานไสว รับขวัญฝนฟ้าใหม่ สู่วสันต์กาลงอกงาม แก้วตา
26 พฤศจิกายน 2550 20:53 น. - comment id 793659
ภาพดอกแก้วสวยๆ ค่ะ
26 พฤศจิกายน 2550 20:54 น. - comment id 793661
ได้อ่านกลอน นิรนาม ช่างไพเราะ กานท์เสนาะ ต้องโสต ไพโรจน์ยิ่ง เปรียบเปรยได้ เสนาะ ไพเราะจริง สมเป็นถิ่น แห่งแดน แคว้นคำคม .สวัสดีนิรนาม สบายดีนะ
26 พฤศจิกายน 2550 21:01 น. - comment id 793664
ได้อ่านกลอนท่านเสนาะไพเราะโสต พูดถึงโทษบาปบุญค้ำจุนโลก บางคนทุกข์บางคนสุขบางคนโศรก ก็เพราะโลกสัจธรรมล้วนทำมา
26 พฤศจิกายน 2550 21:03 น. - comment id 793665
..........ดอกแก้วขาว งามพร้อม กลิ่นหอมหวน สีขาวนวล ควรถนอม ไว้แซมผม ทั้งดอกใบ งามพร้อท ยามได้ยล สุดรื่นรมณ์ สมนาม แก้วไม้งาม
26 พฤศจิกายน 2550 21:11 น. - comment id 793668
26 พฤศจิกายน 2550 21:13 น. - comment id 793669
26 พฤศจิกายน 2550 21:15 น. - comment id 793670
26 พฤศจิกายน 2550 21:23 น. - comment id 793673
ขออภัยค่ะผิดพลาดทางเทคนิคค่ะ ลองใหม่นะคะ สวยไหมคะ...สีขาวบริสุทธิ์
26 พฤศจิกายน 2550 21:24 น. - comment id 793675
.......ลุงแทนก็ต้องว่าสวยซิ เพราะหน้า.....ที่พักลุงแทนก็ปลูกไว้
26 พฤศจิกายน 2550 21:30 น. - comment id 793678
ขาวบริสุทธิ์และกลิ่นหอมยามกลางคืน
26 พฤศจิกายน 2550 21:35 น. - comment id 793681
มาปลูกที่นี่หมดสวนแล้วส่งกลิ่นหอมทั่ว........บ้าน ......
26 พฤศจิกายน 2550 21:40 น. - comment id 793685
........ยามลมแผ้ว กลิ่นดอกแก้ว ชื่นนาสา ลมโชยมา พาขจร หมอทั่วถิ่น กลิ่นดอกแก้ว ยามค่ำ ชื่นอุรา ยามนิทรา หลับฝัน กลิ่นตรึงตรา
26 พฤศจิกายน 2550 21:54 น. - comment id 793691
ประชุมดอก ดื่นดาษ สะอาดสด ดั่งดวงดาวพราวปรากฏ ละมุนกลิ่น ตระการนวล น้อมกำนัล ฝันแด่ดิน แด่ผีเสื้อขยับบิน ผึ้งระบำ หรือนางฟ้า มาระบายยิ้มพรายโลก โดยจำแลง เป็นดอกโมก อบอวลร่ำ ชุบชโลมหัวใจ ไข้ระกำ ให้ตื่นปลื้ม ขึ้นดื่มด่ำหวานล้ำรส คลายอาการเจ็บไข้ เพื่อไปพบ วันเมฆฝน บรรจบกับป่าสด แล้วโปรยฝน ปรุงฝัน อันงามงด ลงเลี้ยงดิน ก่อนรินหยด เลี้ยงวิญญาณ ให้ข้าฯจับ จอบคม ก้มเงยขุด ฝังเมล็ดพืช ผ่องผุด ลงใฝ่หวาน ลงใฝ่วัน ดอกผล ท้นตระการ ภาคภูมิใจ ไร้สาร พิษเปื้อนปน หนอนแมลง นกกระจิบ จิตกระจ่าง ไส้เดือนสุข พรวนดินสร้าง ทางมรรคผล โลกในสวน อุ่นสงบ ได้พบตน เดินทางข้าม ผ่านวังวน ความวุ่นวาย ประชุมดอก ดื่นดาษ สะอาดอิ่ม ดั่งนางฟ้า มาดโปรยยิ้ม อิ่มใจหมาย ดอกโมกเอย ดอกโมกดาว พร่างพราวพราย ฝันแห่งข้าฯ คล้าย ๆ จะผลิแล้ว... (ผู้แต่ง : คุณวิสุทธิ์ ขาวเนียม)
27 พฤศจิกายน 2550 10:17 น. - comment id 793798
ต้นไม้ ยังเวียน เปลี่ยนผลัดใบ เหตุไฉน คนไม่ผลัด ตัดชั่วบาง หัดขัดใจ ใส่ดี ทุกที่ทาง หัดปล่อยวาง สร้างดีชัด ไม่ผลัดวัน ใบไม้ ร่วงพราก จากขั้ว มนุษย์ดีชั่ว ล้วนฝัง สังขาร ใบสดอาจ แย่งหล่น ก่อนกาล เยาว์สั้น หรือยาวยืน ใช่ยืนยัน อันใบไม้ เปรียบธรรมะ ชำระจิต มิให้เรา ยึดติด จิตหวั่นไหว ใบเคยเขียวเขียว แต่เดี๋ยวนี้ มีหนอนไช ทุกสิ่งไซร้ ย่อมแปรเปลี่ยน หมุนเวียนไป ในไม่ช้า ก็ร่วงหมด รังมดอยู่ เราต้องรู้ ทุกสิ่งนั้น มันเคลื่อนไหว ทุกนาที เดินหน้า อย่าช้าไย อีกไม่ไกล ก็ถึงฝั่ง ที่ฝังเรา มิมีใคร ยั่งยืน ฝืนชีวิต ใบไม้ปลิด คงเหลือแต่ แค่ตอเหง้า ในที่สุด ก็ไม่เหลือ แม้แต่เงา ร่างกายเรา กับใบไม้ แลคล้ายกัน ใบไม้ที่ล่วงหล่น เปรียบดั่งคนไม่พ้นตาย ใบไม้ย่อยสลาย เปรียบหญิงชายสลายร่าง ใบไม้ได้ข้อคิด ว่าชีวิตจิตทุกอย่าง ต้องตายสลายว่าง ไม่มีทาง…ปล่อยวางเถอะ