.........................จะดูโลกแง่ไหนดี? .............. จงดูเถิด โลกนี้ มีหลายแง่ ดูให้แน่ น่าสรวล เป็นชวนหัว หรือชวนเศร้า โศกสลด ถึงหดตัว ดูให้ทั่ว ถ้วนความ ตามแสดง จะดูมัน แง่ไหน ตามใจเถิด แต่ให้เกิด ปัญญา มาเป็นแสง ส่องทางเดิน ชีวา ราคาแพง อย่าให้แพลง พลาดพลั้ง ระวังเอย ฯ
22 พฤศจิกายน 2550 15:25 น. - comment id 792220
เพื่อความสวัสดีแห่งชีวิตสิ่งที่เธอควรมี "สติปัญญา" สิ่งที่เธอควรแสวงหา "กัลยาณมิตร" สิ่งที่เธอควรคิด " ความดีงาม" สิ่งที่เธอควรพยายาม "การศึกษา" สิ่งที่เธอควรเข้าหา "นักปราชญ์" สิ่งที่เธอควรฉลาด "การเข้าสังคม" สิ่งที่เธอควรนิยม "ความซื่อสัตย์" สิ่งที่เธอควรตัด "อกุศลมูล" สิ่งที่เธอควรเพิ่มพูน "บุญกุศล" สิ่งที่เธอควรอดทน "การดูหมิ่น" สิ่งที่เธอควรกิน "พุทธธรรม" สิ่งที่เธอควรจดจำ "ผู้มีคุณ" สิ่งที่เธอควรเทิดทูน "สถาบันกษัตริย์" สิ่งที่เธอควรขจัด "ความเห็นแก่ตัว" สิ่งที่เธอควรเลิกเมามัว "การพนัน" สิ่งที่เธอควรสร้างสรรค์ "สัมมาชีพ" สิ่งที่เธอควรเร่งรีบ "การแทนคุณบุพการี" สิ่งที่เธอควรปฎิบัติทันที "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"
22 พฤศจิกายน 2550 15:29 น. - comment id 792221
ข้อที่ควรพิจารณาข้อที่บุคคลควรพิจารณาอยู่เสมอ พิจารณาอยู่บ่อย ๆ เพื่อทำใจให้ยอมรับความจริง ที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่ภาษาพระท่านเรียกว่า อภิณหปัจจเวกขณะ มี ๕ คือ ๑. ควรพิจารณาทุก ๆ วันว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ๒. ควรพิจารณาทุก ๆ วันว่า เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้ ๓. ควรพิจารณาทุก ๆ วันว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ๔. ควรพิจารณาทุก ๆ วันว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ๕. ควรพิจารณาทุก ๆ วันว่า เรามีกรรมเป็นของตัวเอง เราทำดีก็จะได้ดี ทำชั่วก็จะได้ชั่ว
22 พฤศจิกายน 2550 15:41 น. - comment id 792226
คัดลอกมาจากคุณจั่นเจาสมมติว่าคุณเป็นครูที่สุภาพ เรียบร้อย ไม่ศรัทธาในไม้เรียว แต่ต้องมาคุมชั้นเรียนที่เต็มไปด้วยนักเรียนเหลือขอ ที่ไร้ระเบียบวินัยและไม่สนใจการเรียนเลย คุณจะพูดอะไร พวกเขาก็ไม่สนใจฟัง แถมยังคุยเล่นและกินขนมแข่งกับคุณอีก เจอแบบนี้คุณจะทำอย่างไร ? ครูผู้หนึ่งตกอยู่ในสภาพดังกล่าวมานานนับเดือน จะพูดจะสอนอย่างไรก็ไม่เป็นผล จนรู้สึกท้อแท้เป็นกำลัง เกือบจะวางมืออยู่แล้ว แต่วันหนึ่งเธอได้ความคิดขึ้นมาว่า น่าจะลองเปลี่ยนวิธีการ เธอขอให้นักเรียนทุกคนเขียนชื่อนักเรียนทั้งชั้นลงในกระดาษ ชื่อละบรรทัด จากนั้นให้เขียนสิ่งดี ๆ หรือลักษณะที่น่าประทับใจของเพื่อนแต่ละคนต่อท้ายชื่อของเขา โดยมีเงื่อนไขว่า ให้เขียนอย่างซื่อตรงจริงใจ ครูนำกระดาษเหล่านั้นกลับไปบ้าน แล้วรวบรวมคุณสมบัติดี ๆ ที่เพื่อน ๆ เขียนถึงแต่ละคน มาใส่ลงในกระดาษแผ่นใหม่ แผ่นละหนึ่งคน วันรุ่งขึ้นก็นำกระดาษเหล่านั้นแจกให้นักเรียนทุกคนตามรายชื่อ ปรากฏว่าหลายคนอ่านแล้วไม่เชื่อว่า ตนจะมีสิ่งดี ๆ อยู่ในตัว นับแต่นั้นมาบรรยากาศในห้องเรียนก็เริ่มเปลี่ยนไป นักเรียนตั้งใจเรียนและมีระเบียบมากขึ้น ครูพูดอะไรนักเรียนก็สนใจฟัง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาตระหนักว่า ตนเองไม่ได้แย่อย่างที่เคยคิด ผ่านไปหลายปี นักเรียนเหล่านี้สำเร็จการศึกษา แล้วก็แยกย้ายกันไปตามวิถีทางของตัว จนกระทั่งได้ข่าวว่า เพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งเสียชีวิตลง เพื่อนเก่า ๆ มาพบกันใหม่ในงานศพของผู้จากไป แม่ของเขาจำเพื่อนของลูกได้ จึงเรียกให้มาหาและสนทนากัน สักพักก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเยินและคร่ำคร่ามาให้ดู แม่บอกว่านี่เป็นกระดาษที่ลูกของเธอพกติดตัวตลอดเวลา เป็นกระดาษที่ครูได้รวบรวมสิ่งดี ๆ เกี่ยวกับตัวเขา ที่เพื่อน ๆ ได้ช่วยกันเขียน แม่เล่าว่าข้อความในกระดาษแผ่นนั้นเป็นแรงบันดาลใจ ให้แก่ลูกของเธอตลอดมา เขามักจะหยิบมาอ่านอยู่เสมอในยามที่มีปัญหาหรือเกิดความท้อแท้ และแล้วเพื่อนหลายคนก็หยิบแผ่นกระดาษ ออกมาจากกระเป๋าของตนโดยมิได้นัดหมาย เป็นกระดาษที่ครูได้มอบให้พวกเขาในวันเดียวกันนั้นเอง พวกเขาพกติดตัวตลอดเวลาเช่นกัน เพราะมันมีความหมายต่อชีวิตของพวกเขามาก กระดาษเพียงแผ่นเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนหลายคนได้ ก็เพราะมันเป็นทั้งสิ่งเตือนใจและให้กำลังใจแก่พวกเขา ว่าพวกเขามีสิ่งดี ๆ อยู่ในตัว กำลังใจดังกล่าวมีความหมายมาก เพราะช่วยให้เขามีพลังที่จะต่อสู้กับอกุศลภายในใจ หรือสิ่งไม่ดีที่สั่งสมจนเป็นนิสัย อาทิ ความเกียจคร้าน ความเกเร ความไม่ซื่อตรง และความเห็นแก่ตัว เป็นเวลาหลายปีที่นิสัยไม่ดีเหล่านี้ สั่งสมและเจริญงอกงามจนหล่อหลอม เป็นบุคลิกที่ชวนระอาและน่ารังเกียจ โดยไม่มีแรงต้านทานจากภายในที่จะต่อสู้เลย ก็จะต่อสู้ต้านทานไปทำไม ในเมื่อฉันเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ยิ่งคิดเช่นนี้จิตใจที่ใฝ่ดีก็ยิ่งอ่อนแรง และต้องพ่ายแพ้แก่นิสัยที่ไม่ดี จะว่าแล้วในเมื่อเด่นในทางดีไม่ได้ ก็ต้องหาทางเด่นในทางไม่ดี ก็เลยมีแรงหนุนให้ทำสิ่งเลวร้ายมากขึ้น การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนนั้น ทำได้สองแนวทาง แนวทางแรก คือ ควบคุมจิตใจใฝ่ต่ำ หรือพฤติกรรมด้านลบ ไม่ให้เติบใหญ่ วิธีที่นิยมใช้ คือ การห้ามหรือบังคับมิให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ควบคู่กับการขู่ว่าจะลงโทษ หรือการทำให้กลัว นอกจากนั้นได้แก่การทำให้ละอาย เช่น ตำหนิ ต่อว่า ประจาน หรือประณาม แนวทางที่สอง คือ การสนับสนุนจิตใจใฝ่ดีให้เจริญงอกงามและมีกำลัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ดีงาม อาทิ การชื่นชมความดีที่เขามี หรือส่งเสริมให้เขาเห็นสิ่งดี ๆ ในตัว รวมไปถึงการชมเชย ใช่หรือไม่ว่าทุกวันนี้ผู้คนมักจะนึกถึงแนวทางแรก จนบ่อยครั้งลืมใช้แนวทางที่สอง เราจึงมักถนัดในการตำหนิมากกว่าการชื่นชม คุ้นกับการลงโทษมากกว่าการส่งเสริม คุ้นกับการขู่ให้กลัวมากกว่าการสร้างแรงบันดาลใจ ผู้บริหารปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งให้ความสำคัญ กับนโยบายห้องน้ำสะอาดมาก คราวหนึ่งพบว่าห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน จังหวัดแห่งหนึ่งไม่สะอาดเท่าที่ควร เขาจึงเดินไปหาพนักงานทำความสะอาด แต่แทนที่จะต่อว่า เขากลับบอกว่า ตอนที่เข้าห้องน้ำได้ยินลูกค้าหนึ่งชมว่า ห้องน้ำปั๊มนี้สะอาดมาก แล้วเขาก็ถามว่า พนักงานผู้นั้นทำความสะอาดอย่างไร เมื่อรู้ว่าเธอทำความสะอาดตามขั้นตอนที่ได้อบรม เขาก็ชมว่า "ป้าเก่งจัง" ทันทีที่ชมเสร็จ พนักงานผู้นั้นก็ขอตัว สิ่งแรกที่เธอทำ คือ ไปห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง คำชมเชยนั้นใช่ว่าควรใช้เมื่อผู้อื่นทำความดีเท่านั้น ก็หาไม่ แม้เขายังทำได้ไม่ดี แต่หากได้รับคำชม ก็อาจเกิดกำลังใจที่จะทำให้ดียิ่งขึ้นก็ได้ น้ำเสียนั้นเราไม่จำเป็นต้องวิดดอก เพียงแค่ทดน้ำดีเข้าไปมาก ๆ มันก็จะไปไล่น้ำเสียเอง นิสัยไม่ดีก็เช่นกัน เพียงแต่เพิ่มกำลังให้จิตใจใฝ่ดีเท่านั้น มันก็จะไปกำจัดนิสัยไม่ดีเอง
22 พฤศจิกายน 2550 15:51 น. - comment id 792235
โอ้..ลุงแทนโลกกว้างซะจริงเลย ข้อคิดมากมายเลยคะ
22 พฤศจิกายน 2550 16:03 น. - comment id 792237
แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ จะขอจดจำไว้เพื่อเตือนตน และใช้ประกอบการดำเนินชีวิตประจำวัน
22 พฤศจิกายน 2550 16:04 น. - comment id 792239
โลกมีหลายเหลี่ยม ให้มอง แต่คนมีเหลี่ยม ไม่น่ามอง
22 พฤศจิกายน 2550 18:43 น. - comment id 792337
ทุกตัวอักษรมีคุณค่ามากมายค่ะ สวัสดีค่ะ คุณลุงแทน
22 พฤศจิกายน 2550 20:44 น. - comment id 792406
คุณลุงแทน "โลกของเรา นั้นหรือ คือสองแง่ ก็ทั้งดี และแย่ รวมผสม มีความสุข เท่าใด ย่อมมีตรม มีสุขสม มีผิดหวัง อยู่ปนเป" (¯`°.¸♥♥¯`° ศรรกราหน้าทะเล้น °´¯♥♥¸.°´¯)
22 พฤศจิกายน 2550 21:10 น. - comment id 792414
มองแง่ดีฤดีจะมีสุข หากอยากทุกข์ให้มองร้ายได้ดังหวัง เลือกเอาเองตามใจในภวังค์ รู้ยับยั้งดวงจิตควรคิดดี คิดบวกค่ะ
24 พฤศจิกายน 2550 14:46 น. - comment id 792938
แวะมาชื่นชมผลงานครับ โลกกว้างนะครับลุงแทน