** พลิกเปลี่ยน ** ๏ นางงามวางบ่วงช้ำ ฤทัย ร้อยเล่ห์วกเวียนใจ ผ่านเจ้า อุปเท่ห์พลิกสู่ใน สิงสู่ ดวงแฮ กลเม็ดเด็ดมอบเคล้า แล่งเนื้อพัฒนา ๚ เหลี่ยมมุมมุขเสกสร้าง กลมกลืน แฝงบดเบียดหวานชื่น ฝากไว้ หวังเพียงกลับพลิกฟื้น คืนสู่ รังแฮ กลิ่นกายวนเวียนไซร้ แนบห้องนางพราย ๚ เล่ห์ร้ายกาลผ่านพ้น นานปี เม็ดหมกพ้นห้วงฤดี จรดสล้าง มิใคร่พลิกนวลฉวี คืนแนบ กายเฮย เกรงกริ่งก้านปทุมร้าง หยาดฟ้ากลางสมร ๚ สวาดปูมกลิ่นพลิกแล้ว ห่างวัน จริงเฮย กลศึกวางสุขสันต์ ล่องฟ้า มาดแม้นอิงแนบกัน คงพราก ยากแฮ ฝืนหับบ่มใจข้า มากแท้กริ่งเกรง ๚ พบสมรหยอกหนุ่มเย้า เคียงกาย แผลเก่ายากผลิตฤทัย มากแล้ว ขอเพียงหยั่งดวงใจ มิแทรก นางแฮ ยลสวาดขย้ำเหยื่อแป้ว ฟาดพื้นปฐพี ๚ กลเม็ดพลันเปลี่ยนฟ้า ตลบดิน หนุ่มกลับผันสู่จินต์ พรากเจ้า เวรกรรมส่งรวยริน คืนฝาก นางแฮ ครวญคร่ำสะอื้นเคล้า หลั่งน้ำจินต์มลาย ๚ เล่ห์เหลี่ยมมิหยั่งฟ้า สูครอง จริงนา เปรียบดั่งแหลอดช่อง หลีกได้ เสน่หาปลิดครรลอง เนืองแน่น ตลบเฮย เฉิดบ่ครอบคลุมไว้ แหลกสิ้นลับตา ๚ บทเรียนเยี่ยงดั่งเจ้า โรมรัน ศึกกลับพลิกแปรผัน สู่ฟ้า แม้ซึ้งฉ่ำเฉิดอนันต์ ยังพราก สวาดแฮ ร่ำออดเสียงไขว่คว้า ผ่านแล้วเลือนสลาย ๚ะ๛ *** แก้วประเสริฐ. ***
6 พฤศจิกายน 2550 01:46 น. - comment id 663395
Soory I made you miss understanding. I'm study Medical (science - lab for dental) year 1 (begining) take care
6 พฤศจิกายน 2550 01:51 น. - comment id 663398
มาคาระวะร่วมกับป้าดอกไม้ครับ อาจารย์แก้ว เกินบรรยายจริงๆครับ ห่มผ้าหนาๆนะครับเวลานอน อากาศหนาวลงทุกวัน
5 พฤศจิกายน 2550 21:39 น. - comment id 783343
แวะมาอ่านโคลงงดงามค่ะ..เปลี่ยนเร็วจัง...
5 พฤศจิกายน 2550 21:53 น. - comment id 783357
คารวะอีกรอบ โคลงเพราะค่ะ อยากเรียนรู้อีกแล้ว จะไหวไหมนี่ อิอิ
5 พฤศจิกายน 2550 22:19 น. - comment id 783385
แวะมาอ่านโคลงอันไพเราะค่ะ สบายดีมั๊ยค่ะ...ห่มผ้าอุ่นๆนะคะ
5 พฤศจิกายน 2550 22:32 น. - comment id 783397
สวัสดีค่ะ คุณแก้ว งิ้มเองค่ะ แวะมาเยี่ยมนะคะ
5 พฤศจิกายน 2550 22:48 น. - comment id 783415
เพราะคะ แบบนี้พิมแต่งมะเป็นอะคะคุงลุงแก้ว
5 พฤศจิกายน 2550 23:25 น. - comment id 783439
เพลงบรรเลงประกอบเพราะมากคะ
6 พฤศจิกายน 2550 07:14 น. - comment id 783538
พลิกเปลี่ยนไปไหนค่ะ อิอิ ที่นี่หนาวจังเลยค่ะ ที่โน้นเป็นไงบ้างคะ สบายดีนะคะ
6 พฤศจิกายน 2550 07:22 น. - comment id 783542
สวัสดีครับท่านพี่ มาเล่นโคลงสี่เหมือนกันเหรอครับ ผมมะขอเอาด้วยนะ มึนคร้าบบบบ ชอบอ่านอย่างเดียวครับ
6 พฤศจิกายน 2550 08:28 น. - comment id 783587
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ใช่ไหมคะคุณลุง
6 พฤศจิกายน 2550 09:12 น. - comment id 783607
แพรวพราวรอบด้านจริงๆค่ะอาจารย์ แวะเอารูปสาวๆสวยๆมาฝากให้อาจารญ์ด้วยคิคิ
6 พฤศจิกายน 2550 09:47 น. - comment id 783623
6 พฤศจิกายน 2550 10:54 น. - comment id 783664
คุณ white roses คุณกุหลาบขาวแสนสวย บวก น่ารักสุดๆ ครับผมก้แบบนี้แหละเป็นตัวของตัวเองเสมอ มีความเชื่อมั่นตัวเองสูง อิอิ ชมตัวเองหน่อย ก็มัน จริงๆนี่ครับ ตั้งแต่เล่นกลอนมาไม่เคยเลียนแบบ ใครเลย คิดเองทั้งนั้น ผมถือว่าผิดถูกเป็นครูเรา พอนานๆเข้าเปรียบนักมวยก็เจนสนาม ค่อยปรับ ปรุงแม่บทแม่ไม้ได้ ก็ค่อยยังชั่วดุจวันนี้แหละ อิอิ ดุจอากาศที่แปรเปลี่ยนไปผมก็แย่ เลยให้อารมณ์ คนอื่นแย่เช่นผมซิครับ จริงแม๊ะ อิอิ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:02 น. - comment id 783672
คุณ เก็จถะหวา คนเรามันต้องปรุงตัวเองเสมออย่าหยุดนิ่งจ๊ะ หากคนที่ผมแนะนำ ที่สำคัญหนึ่งคือ ตัวเราเชื่อมั่นตัว เอง ใช้สติปัญญาเราอย่าได้ไปเลียนแบบคนอื่นเขา ผิดถูกถือเป็นบทเรียนเรา พอแก่กล้าก็จะชำนาญ จ๊ะ รักเสมอๆๆ ผมก็แนะนำไว้แล้วทั้งกลอนโคลง กาพย์ ไปอ่านทบทวนซิจ๊ะ ครูผมสอนไว้ว่า หากจะ ริเขียนกลอนอย่าไปเลียนแบบเขาเป็นอันขาดมิฉนั้น มันจะฝังลึกในจิตใต้สำนึกยากจะลบเลือนได้ จะลบก็ยาก ให้หัดคิดเองทั้งสิ้นถือว่าผิดถูกคือครูเราหาที่อื่น ใดมาสั่งสอนได้ดีเท่ากับตัวของเราเองจ๊ะ หากคนที่ผมแนะนำนั้นต้องตั้งมั่นเด็ดเดี่ยว ไม่กลัวอุปสรรคใดๆทั้งสิ้นคิดว่า เขาทำได้เราก็ ทำได้มีสติปัญญาสองมือครบสามสิบสองเช่นกัน จำไว้นะ รักเสมอจ้า อิอิ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:04 น. - comment id 783674
คุณ มณีจันทร์ จ้าอากาศเริ่มเย็นแล้วผมก็เริ่มแย่แล้ว เหมือนกัน ขอบคุณที่ห่วงใยผมเสมอมา นับได้ว่า เป็นผู้รู้ใจผมคนหนึ่ง ขอขอบคุณยิ่งขอรับ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:15 น. - comment id 783676
คุณ งิ้ม สวัสดีครับคุณงิ้ม ผู้มีใจที่แสนประเสริฐ ยาก จะหาสาวใดเสมอเหมือนมิได้ ตั้งแต่ผมจะมีเมล์หรือ การติดต่อกัน ก็มีเพียงคุณและคุณแหม่มเท่านั้นที่ ยังผูกพันติดต่อแม้ว่าเราจะไม่ได้คุยกันเลยทางmsn ด้วยเนื่องจากผมเบื่อทางนั้น เรารู้จักมิเคยเห็นหน้า พบปะคุยกันเลยแม้สักชั่ววินาทีก็ตาม แต่ด้วยความ ผูกพันรำลึกถึงซึ่งกันและกันดีกว่าการพบหน้า กันเสียอีก นับได้ตั้งแต่รู้จักกันมาก็เป็นเวลา หลายปีผ่านมาแล้ว เราก็ยังรักติดต่อกันด้วยความ จริงใจซื่อสัตย์ต่อกัน ซึ้งใจในคำว่าเพื่อนที่สุด คุณเป็นหนึ่งในสองที่ผมรักมากที่สุด เพราะเหตุใด ก็เพราะไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่ก็ยังติดต่อกัน คุณทั้งสองติดต่อมาทางเมล์ผมผมตอบคุณกลอน แม้บางครั้งการเขียนกลอนผมจะผูกพันไปถึง คุณทั้งสองก็ตามเพียงแต่เป็นนัยเท่านั้นเอง ขอขอบคุณอย่างซึ้งที่สุดเท่าที่ผมจะมีครับ ขอบ คุณมากครับ รักเพื่อนเสมอมิมีวันจาง แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:23 น. - comment id 783679
คุณ พิมญดา คนเราไม่เก่งมาจากในท้องมารดาหรอกครับ ถึงแม้จะเรียนมาก็ตามทีหากขาดการฝึกฝนรักและ เอาใจใส่ต่อเขา เมื่อเราไม่มีความรักให้เขา เขาหรือ จะมีความรักให้เราครับ ทำตามที่ผมได้เคยแนะนำ ไว้นำไปทบทวนหันฝึกหัดเขียนผิดถูกไม่เป็นไรนี่ คือแบบฝึกหัดที่เราทำเอง ไม่จำเป็นหรอกครับที่จะ ไปเลียนแบบเขา ความภูมิใจก็ไม่มี ซ้ำบางครั้งยัง ได้รับการตราหน้าเสียอีก ผมตั้งแต่เล่นกลอน มาอ่านของเขาก็แยะ ตำราก็มาก ไม่คิดที่จะเขา มาเลี่ยนแบบสักบทหนึ่งเลย เขียนเองคิดเอง เพราะจิตอารมณ์ผมรักเขา เขาก็รักเรา ครูผม สอนเอาไว้ว่า การจะทำงานอะไรสักอย่าง ควร มอบความรักให้เขา เขาก็จะรักเราเองแหละ รักต้องให้รักถึงที่สุด ผมจำไว้มาจนและสามารถ เอาตัวรอดมาถึงปัจจุบันนี้ก็ด้วยคำสั่งสอนครู บาอาจารย์ยึดมั่นเสมอมาครับ หัดไว้ครับหัดไว้ ไม่เกรงใจครับ ขอให้คุณได้ประสบกับสิ่งที่คุณ ชอบครับ มีอะไรหากผมรู้ไม่ปิดบังหรอกครับ ขอขอบคุณยิ่งครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:25 น. - comment id 783680
คุณ กุหลาบแดง สิ่งนี้ผมมักจะใช้มานานแล้วแค่ 2 เพลงบรรเลง เท่านั้นครับสลับกันไปเรื่อยๆครับ นานๆจะลองก็ เพียงประเดี๋ยวเดียว ฉะนั้นจะว่าเป็นเพลงประจำ ของแก้วประเสริฐก็ว่าได้ครับ ขอขอบคุณอุตส่าห์แวะ มาเยี่ยมเยียนผม ขอบคุณยิ่งครับ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:31 น. - comment id 783681
คุณ silver snitch Never mine when you are my friend for take care I love my friend but you are study medical or rich or poor I love anything when you come to me God or good help you now take care for you kaew prasert
6 พฤศจิกายน 2550 11:33 น. - comment id 783683
คุณ ดาวระดา ครับอากาศเย็นต้องอาศัยผ้าห่มมากครับ ขอบคุณในความห่วงใยเสมอมา ยังไม่รู้เลย ว่าจะห่มได้อีกนานสักเท่าไรครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:37 น. - comment id 783684
คุณ เพียงแพรว ครับผมพลิกเปลี่ยนอารมณ์ผมครับไปตาม ความรู้สึกของอารมณ์ที่จะเขียนครับ ทางนี้แค่เย็นๆ ครับไม่ถึงกับหนาวครับ แต่ฟังข่าวเสมอว่าทางชนบท เริ่มหนาวมากแล้วครับ หากเป็นผมคงจะแย่มาก เชียว บอกตรงๆผมรักชนบทมากกว่าเมืองกรุงครับ ชนบทให้อะไรๆต่อผมมาก ทั้งบรรยากาศ คือสัตย์ซื่อ ที่ยากนักจะหาได้จากคนเมืองครับ ขอขอบคุณ ในความห่วงใยเป็นญาติคนหนึ่งครับ ขอบคุณยิ่ง แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:42 น. - comment id 783687
คุณ คนบนเกาะ ปกติแล้วผมมักจะเล่นกลอนแปด เพียงเพื่อ จะขัดเกลาบทเรียนเท่านั้นครับ ในชีวิตผมรักอยู่ ไม่เกินสามอย่างเกี่ยวกับบทกลอนตามคำสั่งอาจารย์ ครับ คือ กลอนแปด โคลงสี่สุภาพ และกาพย์ยาณี11 แม้นว่าผมจะเขียนได้แต่ก็เพียงผิวเผินเท่านั้น คือเรียนเพื่อรู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม แต่ที่ใส่บ่า แบกหามคือตามที่บอกแหละครับ จะดีหรือไม่นั้น สำหรับผมถือว่าแค่เพียงเด็กประถมเท่านั้น เองครับ ดีกว่าอนุบาลหน่อย ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 11:56 น. - comment id 783690
คุณ เพียงพลิ้ว หลานกานต์ที่รัก.....คำนี้เป็นคำที่ผมใช้ ประจำเสมอ เรียกว่าเสื้อเกราะสำหรับชีวิตผมนะ จะเล่าให้ฟังคือว่า สมัยผมยังเรียนมัธยมนั้น สิ่งที่ ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ตอนเรียนภาษาไทยไว้ ว่าคนเราควรจะมีอาวุธและเสื้อเกราะใช้สำหรับป้อง กันตัวเองเสมอ อย่าได้ลืมเลือนเป็นอันขาด นักรบ หากขาดอาวุธและเสื้อเกราะย่อมพลาดท่าเสมอมา แม้นจะเป็นแค่ตัวช่วยก็ตามเถอะ ตอนจะจบการ ศึกษามา ท่านมอบเสื้อเกราะให้ผมและเพื่อน ทุกๆคนคือ คำประโยคนี้ " ให้รู้ลบเป็นปี ให้รู้ หลีกเป็นหาง" ท่านให้ท่องและให้ตีความด้วย สุดท้ายตอนสอบก็ออกข้อสอบมาด้วยครับ ส่วน อาวุธท่านให้เลือกเอาว่าจะใช้อาวุธใด ซึ่งมีอยู่ ในคำโคลงและกลอน เป็นอาวุธประจำกายไว้ เวลาจบออกไปจะได้ใช้ให้เป็นประโยชน์ ยัง กำชับว่าอาวุธเราอย่าให้เป็นสนิมเด็ดขาด ผมเห็นว่า โคลงง่ายต่อการจดจำและชอบด้วย ส่วนกลอนแปดแม้จะรักมาก แต่ยาว เช่นทวน ย่อมเป็นอาวุธป้องกันตัวในระยะสั้นประชิดไม่ ได้จึงได้เลือก โคลงไว้ คือ " นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย เลื่อยบ่ทำเดโช แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งโยโส แมงป่อง ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤทธี " เป็นอาวุธประจำกายในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ ฝึกขัดเกลามิให้เป็นสนิทตามคำสั่งเสียอาจารย์ ซึ่งบัดนี้ท่านจากโลกนี้ไปแล้ว ขอเอ่ยนามท่าน เพื่อสักการะอีกรอบ คือท่านอาจารย์ ยรรยงค์ ปั้นธุระ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาเกี่ยวกับโคลง กลอนให้ผม ได้จดจำไว้มิมีวันเลือนหายไปจาก ผมได้จวบจนสิ้นอายุขัยครับ นับแต่ออกจากโรงเรียนไปศึกษาต่อก็ใช้ อาวุธและเสื้อเกราะนี้แหละฟาดฟันปัญหาต่างๆ ได้ลุล่วงด้วยดี ทั้งยังเป็นคาถามหาเสน่ห์ด้วย จะเอาไปใช้ไม่ห้าม ควรสักการะผู้ที่แต่งฝากไว้ ด้วยก็จะเป็นสิริมงมลแก่เรา แม้นจะจำชื่อไม่ได้ แต่ให้รำลึกถึงคำโคลงและคำคมเอาไว้นะหลาน รักเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 12:00 น. - comment id 783694
คุณ ผู้หญิงมือสอง คนเราหากอยู่นิ่งเฉยๆมากก็ไม่ดีจะสร้างความ ขี้เกียจแก่เรา ควรจะหาอะไรทำไว้ฝึกสมองเราไว้ เพื่อประโยชน์ต่อเราไม่ว่าทั้งอดีตหรืออนาคต ดุจ โบราณสั่งลูกหลานว่า "อยู่บ้านใคร อย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเขาเล่น " นี่แหละถึงได้ชื่อว่า ทำตัวเราให้เป็นประโยชน์ทั้งสังคมและตัวเราเอง จ๊ะ เมื่อสะสมนานขึ้นจัดเจนขึ้นก็เกิดความแพรว พราวในตัวเองเสมอเว้นแต่ว่าเราจะนำไปใช้ ในทางดีหรือเลวเท่านั้นจ๊ะ จำไว้ เกิดมาต้องทำ ตัวเราให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือตัวเราเอง จ้า รักเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 12:04 น. - comment id 783697
คุณ กชมนวรรณ คนเราจะชำนาญได้ก็ด้วยการฝึกฝนจ๊ะ มิ ฉนั้นอาวุธเราจะเป็นสนิท อย่างน้อยก็ควรจะท่อง และตีความนัยของอาวุธอย่างสม่ำเสมอใช้สอนจิต ใจเราให้อ่อนโยนได้อีกวาระหนึ่งจ้า ช่างเถอะ จะโคลงเคลงก็ถือได้ว่าเป็นโคลงเหมือนกันจ้า พอผ่านกาลเวลาก็จะเหลือแค่โคลงไม่เคลงหรอก เชื่อผมเถอะไม่ต้องเสียเงินสักสลึงเลย อิอิ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
6 พฤศจิกายน 2550 15:59 น. - comment id 783825
แต่งได้ดีมากค่ะหนูอ่านแล้วชอบจริงๆค่ะขอให้แต่งเยอะๆนะค่ะแล้วหนูจะเข้ามาอ่านค่ะเป็นกำลังใจให้พี่นะคะ
6 พฤศจิกายน 2550 19:22 น. - comment id 783964
คุณ แก้มป่อง ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ แต่จะแต่งยาวนั้น ต้องดูอารมณ์ก่อนครับยังรับปากไม่ได้ครับ แต่ ก็จะพยายามครับ ขอบคุณยิ่งครับ แก้วประเสริฐ.