เหมือนพูดพร่ำกล่าวอ้าง............คร่ำครวญ ชีวิตถูกตีตรวน.........................กักกั้น อิสรภาพหอมหวน......................ฝันใฝ่ ใจจิตคิดอย่างนั้น......................ยากพ้นกรงทอง น่าสงสารนกน้อย......................เดียวดาย อยู่อย่างหิวกระหาย...................ไขว่คว้า สุขก็แค่เพียงกาย......................เอมอิ่ม เพียงแค่อยากทายท้า................แกร่งกล้าแหกกรง โบยบินไปสู่ห้วง........................ปรารถนา หลงระเริงโลกา.........................สุดกว้าง ทุกสารทิศจึงมา.........................พายัพ พบนกจึงอยู่ข้าง.........................ชื่นชู้เชยชม รื่นรมย์ครองคู่เคล้า...................เคลียคลอ นกหนึ่งพะเน้าพะนอ.................ชิดใกล้ เพียงเพ้อพร่ำคำขอ...................คำมั่น จะรักกันบอกไว้.........................ตราบฟ้าดินสลาย หลงลืมกลับทอดทิ้ง...................กรงทอง ลืมว่ามีเจ้าของ.........................อยู่แล้ว ลืมลูกเคยตระกอง....................กกกอด อิสรภาพไม่แคล้ว......................คลับคล้ายหมดลง แต่เพียงเจ้านกนั้น....................อาลัย คอยฝากความห่วงใย.................ไม่เว้น คำรักจากดวงใจ........................คำหนึ่ง วอนว่าจงซ่อนเร้น......................เก็บไว้สองคน ทุกข์ทนที่ต้องพราก....................จากลา บินกลับทั้งน้ำตา.........................โศกเศร้า สู่ ณ ที่จากมา.............................คืนถิ่น สิเน่หายังเฝ้า..............................ตอกซ้ำย้ำเตือน
27 กรกฎาคม 2550 01:53 น. - comment id 730569
หากสิ่งคิดว่าใช่ผิดไปจากที่ใช่ ย้อนกลับคืนได้ไหมสู่เรือนเก่า หากผิดแล้วรู้แล้วว่าเพียงเพราะใจเบา ฤานกโง่เขลาต้องมีโทษติดตลอดกาล สวัสดี และราตรี สวัสดิ์ในคราวเดียวกันค่ะ โคลงเฉียบมากค่ะ
27 กรกฎาคม 2550 10:39 น. - comment id 730634
ดุจ วิหก ในกรงทอง ได่แต่มอง มองเธออยู่อย่างนั้น
27 กรกฎาคม 2550 11:17 น. - comment id 730647
แรงฤทธิ์รักรุ่มร้อน อาลัย สุดที่จะหักใจ พร่ำเพ้อ หวนคืนถิ่นแต่ใจ ยังห่วง ชู้ชม หวิวหวั่นจักรักเก้อ ผ่านแล้วเลือนลาง