๑. น้ำลดแห้งขอดจอดเรือแจว สิ้นกุมภา'แล้วแก้วตาเอ๋ย สันทรายโผล่พ้นจนเรือเกย น้ำคำเอื้อนเอ่ยนั้นเผยใจ ว่าพ้นเดือนยี่หนีเดือนสาม น้ำลงตรงข้ามสะพานใหม่ มูนทรายกองสุมในมุมใจ พี่ปัดไม่ไหวได้แต่รับ ใจชายคงไปไม่พ้นเจ้า ผู้เฝ้าเคลียคลอพะนอสดับ รสจูบยากถอนก่อนจันทร์ลับ ฉวยจับมือเจ้าเคล้าสัญญา เดือนสี่พี่ต้องแต่งขันหมาก เพื่อฝากผู้ใหญ่ให้ไปหา สู่ขอคนงามตามเวลา แล้วเร่งวิวาห์ในเร็ววัน จันทร์เพ็ญดวงเด่นเป็นพยาน สัญญาริมธารด้วยรักมั่น แม้นพี่ผิดคำที่จำนรรจ์ จักยอมให้บั่นชีพบรรลัย ๒. น้ำไหลรวยรินสิ้นเดือนสี่ ใกล้ปีใหม่เมืองเรืองไสว ตลิ่งสูงแลลิ่วลับลงไป หัวใจเล็กลีบดูตีบตัน หากโดดลงไปแล้วไม่ตาย คงต้องอับอายเม็ดทรายนั่น หากกลับบ้านไปไม่ต่างกัน ถูกคนหยามหยันนั้นสุดอาย ใจชายแม้นอยู่ไม่ห่างเจ้า เธอเล่าแปรใจได้ง่ายง่าย รอยจูบครานั้นยังไม่คลาย มีชายคนอื่นมาชื่นแทน เดือนสี่มีเฒ่าแก่ใหญ่ จากเมืองศิวิไลซ์ที่ไกลแสน หอบดอลลาร์มาจากต่างแดน แต่งเจ้าไปแทนพี่แสนช้ำ จันทร์เพ็ญมองเห็นเป็นเบี้ยวบิด สัญญาศักดิ์สิทธิ์โดนเหยียบย่ำ เป็นเจ้าเปลี่ยนใจใช่พี่ทำ ตายเพื่อคนใจดำไปทำไม
1 เมษายน 2550 10:14 น. - comment id 678939
อรุณสวัสดิ์ครับ
1 เมษายน 2550 22:22 น. - comment id 679079
พอแล้งมากานดาเจ้าลาจาก รักถูกพรากอยากตายก็อายแสน เจ้ามีคนใหม่มาจากต่างแดน จึงลืมแฟนคนเก่าที่เจ้ามี อันสัญญาว่าไว้ใยลืมหมด แสนรันทดหดหู่ใจให้หมองศรี ลาแล้วหนารักเก่าเศร้าเหลือดี หน้าแล้งนี้รักถูกพรากจากกันไกล สวัสดีค่ะ..สัญญาหน้าแล้งน่าสงสารจัง