๏ เพราะสับสนดวงจิตเหมือนติดขัด แสนอึดอัดเหนื่อยหน่ายใจหม่นหมอง ทุกคราวที่ร่ายคำพร่ำทำนอง กลอนดันพ้องกระทบใครวุ่นวายจริง ครั้นเขียนเรื่องสังคมโสมมมฉาว ยามอ่านข่าวบ้านเมืองเรื่องร้อนยิ่ง ทั้งไฟใต้,ควันเหนือ เบื่ออ้างอิง คนโดนยิง,เด็กสูญหาย ข่าวรายวัน ยิ่งเขียนยิ่งอดสูหดหู่จิต ชักตะหงิดรัฐบาลสมานฉันท์ นโยบายห่วยแตกยิ่งแยกกัน ไทยทั้งนั้นที่ตายเลือดไหลนอง ยามกลั่นกลอนรักหวานดุจตาลอ้อย เขาก็คอยหมั่นเกี้ยวหวังเกี่ยวข้อง ตูบหยอกไก่กระมังเราหยั่งตรอง ใช่อยากดองจริงจังจึงยั้งใจ คราวเขียนปาด/ปรัชญาก็ว้าวุ่น เพื่อนเคืองขุ่นเรางงงสุดสงสัย ผิดกาละเทศะ ฤๅ กระไร ? เหตุไฉนจิตแผลงระแวงเรา อยากเขียนกลอนรื่นรมย์แต่ขมขื่น แม้นยามคืนเพ่งจันทร์ไหวหวั่นเหงา โลกทั้งโลกล้วนหมองมองสีเทา ธรรมชาติเล่าเคยสวยสดพลันหมดงาม เหมือนรอยร้าวบนอุราเริ่มปรากฏ ความรันทดทุกข์ทุรนเพิ่มล้นหลาม เขียนโน่นนี่ก็อั้นใจบางใครปราม จนอยากถาม "บทกวี" มีค่าอะไร ?" ๚ะ๛
24 มีนาคม 2550 10:07 น. - comment id 675854
ชัดเจน แจ่มแจ้ง แวะมาทักทายค่ะ
24 มีนาคม 2550 10:26 น. - comment id 675864
นี่แหละหนอ บนถนน คนขีดเขียน ก็วนเวียน อยู่ในวัง มีพลั้งเผลอ ก็เรื่องจริง ในวังวน คนมักเจอ ถึงไม่เผลอ เรื่องจริงแดง ทุกแห่งไป สังคมนี้ ตรงไหนชั่ว อย่ามัวปิด เผยสักนิด คนทั้งหลาย ได้แจ่มใส คลิปทั้งหลาย เผยเห็นความ ตามเป็นไป แต่กฏหมาย ห้ามเผยคลิป วีดีโอ เห็นนักเรียน ทุบตีกัน ในนั้นแล้ว ดูชัดแจ๋ว ปากพลั้งว่า โถนะโถ พ่อแม่ส่ง ให้ไปเรียน เป็นใหญ่โต โถนะโถ กลับแย่งแฟน ตบตีกัน หากไม่เอา ซึ่งความผิด คลิปทั้งหลาย ความเป็นไป อันความจริง ทุกสิ่งนั้น ใครทำดี หรือทำชั่ว ได้รู้กัน แล้วเมื่อนั้น คงมีคน คิดทำดี เขียนถึงตัวเองเหมือนกันครับ
24 มีนาคม 2550 10:28 น. - comment id 675866
คำคม อารมณ์เปลี่ยน ใช่ไหมน้อ เคยเป็น ๆๆๆ หวัดดีนะคร้าบ
24 มีนาคม 2550 11:00 น. - comment id 675873
24 มีนาคม 2550 11:39 น. - comment id 675895
มีอยู่หลากหลายอารมณ์ค่ะ จะให้อธิบายก็ไม่ถูก แต่กลอนนี้โดนใจมากค่ะ
24 มีนาคม 2550 15:16 น. - comment id 675943
ใครจะมองเธอว่าไง ช่างประไรไม่เคยจะสนใจ" เพราะรู้เธอเป็นคนดี" เพราะโลกเป็นรูปทรงกลมไงจ๊ะ มันเลยบรรจบกัน พอบรรจบกันแล้วอะไรๆ มันก็ดูคล้ายๆกันไปหมด ไม่ว่าตัวเราเองหรืออีกหลายๆคน........... คิดถึงเสมอ..... ยิ้มหน่อยนะคุณยิ้มแล้วโลกจะสดใสขึ้นมาเกินเส้นผ่าศูนย์กลางทีเดียวเชียวแหละ
24 มีนาคม 2550 15:27 น. - comment id 675944
๏ ใช่อยากดังดั่งเธียรเฝ้าเขียนอ่าน ร่ำจดจารกลกลอนอักษรศิลป์ ด้วยเพราะด้อยสร้อยศัพท์ประดับจินต์ แต่มิสิ้นพยายามทำตามครู ใช่หวังเด่นเช่นปราชญ์เก่งกาจกล้า ไร้ปรัชญาทฤษฏีที่เลิศหรู เพียงอยากเรียนเขียนอ่านจดจารดู ถามผู้รู้หากขัดข้องทำนองกานท์ ความรู้เพียงหางอึ่งซึ่งนิดน้อย ยามผิดถ้อยกลอนโคลงน่าสงสาร ขายขี้หน้าครูบาและอาจารย์ ที่เพียรสานสั่งสอนจนอ่อนใจ วอนครูบาอาจารย์อย่าพาลเบื่อ โปรดจุนเจือศิษย์เขลามิเอาไหน วันข้างหน้าเด่นดังยังซีไร้ท์(ชีพไร้) สิ่งเทิดไว้คือคุณครูผู้ชี้ทาง ๚ะ๛ ..เราอยากเป็นกวีซีอิ๊วอะลิง....
24 มีนาคม 2550 16:14 น. - comment id 675960
ผมเข้ามาอ่านบทนี้ ด้วยความคิดชั่ววูบว่า พี่อิม เขียนบอกรักตัวเองรึป่าว อิอิ เนื่องจากเห็นเขียนกลอนแนวนี้บ่อย
24 มีนาคม 2550 16:48 น. - comment id 675990
ยิ่งเขียนยิ่งอดสูหดหู่จิต ชักตะหงิดรัฐบาลสมานฉันท์ นโยบายห่วยแตกยิ่งแยกกัน ไทยทั้งนั้นที่ตายเลือดไหลนอง ************************************ ชอบบทกลอนนี้ครับ....... การตายมิใช่ทางแก้...... เป็นเพียงทางหายไปจากโลกเท่านั้น..... ทางแก้คือ......... ปลดทุกข์....สร้างสุข ครับ.... สวัสดียามเย็น......
24 มีนาคม 2550 17:04 น. - comment id 676006
เป็นกำลังใจให้ค่ะ..คุณอัลฯ..อย่าคิดมากนะคะ..
24 มีนาคม 2550 17:05 น. - comment id 676007
สู้เค๊า.....สู้กับใจตนเองนะ ... แล้วทักจะมาเยี่ยมใหม่นะ ชอบ ค.ค.ห 7 จัง
24 มีนาคม 2550 17:31 น. - comment id 676021
เข้าใจค่ะ.....เคยเป็นเหมือนกัน....มาให้กำลังใจจ้า
24 มีนาคม 2550 17:40 น. - comment id 676025
อยากเขียนกลอน ก็เขียน อย่าขมขื่น ถึงกลางคืน ก็เขียน อย่าหวั่นไหว พี่คนหนึ่ง ทีช่วย คอยอวยชัย เขียนเสร็จไซ้ มาโพสท ให้งดงาม
24 มีนาคม 2550 21:23 น. - comment id 676077
สวัสดีครับ คุณอัลมิตรา อย่าคิดมากนะครับ สิ่งใดที่เห็นว่า คุณทำแล้ว สบายใจทำเลยครับ เป็นกำลังใจให้มากมาย เพียง.....คำนินทา กุหลาบน้ำตา คำนินทาคือวาจามาแนมเหน็บ คำนินทาหรือจะเจ็บจนหวั่นไหว คำนินทามาสักร้อยไม่สนใจ คำนินทาก็ว่าไปไม่ไหวติง คำนินทาภาษาคนที่จนตรอก คำนินทาเอ่ยอ้างออกบอกชายหญิง คำนินทาเพียงลมพาอย่าประวิง คำนินทาที่แน่จริงคือสิ่งดี นินทาเพื่อนมิมองตนนั่นคนบ้า เอาวาจามาใส่ร้ายคิดป้ายสี เอาความชั่วมาใส่ตนปนราคี คนแบบนี้ไม่ควรคบประสบเจอ เพียงนินทาอย่าถือสาเอามาโกรธ จะเป็นโทษเมื่อภายหลังคิดพลั้งเผลอ เพียงนินทาอย่าเฉียวฉุนหนุนบำเรอ จะพาลเจอกับคนพาลผลาญชีพตน
24 มีนาคม 2550 23:57 น. - comment id 676102
เขาว่ากันว่า .. เมื่อหัวใจของเรามีความสุข เราก็จะมองเห็นสิ่งรอบข้างสวยงาม แต่ถ้าหัวใจของเราหมองหม่น โลกทั้งใบก็กลายเป็นสีเทา รู้ทั้งรู้ว่า .. โลกมีสองด้านเสมอ ความดีงามตรงข้ามกับความชั่วร้าย ความสุขตรงข้ามกับความทุข์ ขาวตรงข้ามกับดำ เขาว่ากันอีกว่า .. บทกวีสามารถทำให้หัวใจของบางใครทุเลาจากความรวดร้าว,บอบช้ำ ซ้ำยังสามารถเยียวยาผู้ร่ายถ้อยนั้นด้วย หากแต่ว่าบทกวีนั้นควรมองโลกอย่างสุข เขาไม่ได้ว่าไว้ แต่เราคิดเองว่า .. บางครั้งมันเหมือนขบถต่อตัวเอง...แสร้งว่าเป็นสุขไปวัน ๆ ทั้งที่ความจริงเราไม่ได้สุข เราอยู่ในห้วงคับขับ หัวใจของเราโศกเศร้า หรืออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่ชวนรื่นรมย์เอาเสียเลย สุขก็สุข ทุกข์ก็ทุกข์ .. ฝืนคละปะปนกันได้อย่างไร ? และสิ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมา ถึงแม้ว่าจะมีเชิงในด้านการเขียนเท่าไหร่ สามารถกลบเกลื่อนความรู้สึก สามารถฉีกอารมณ์ให้เป็นไปในทิศตรงข้าม แต่ทุกครั้งจะหลบเลี่ยวเสียงจากหัวใจของตนเองที่อยากระบายตัวตนได้เชียวหรือ ? หนึ่งคนนี้ กับ หนึ่งคนนั้น .. ได้สิทธิ์เสรีในการเขียนไม่เท่ากัน เหตุเพราะหนึ่งคนนี้ดำรงอยู่ในภาระหน้าที่ ซึ่ง หนึ่งคนนั้นไม่ได้แบกรับสิ่งใด ๆ ไว้บนบ่า มันเป็นความรู้สึกที่อยากระบาย และต้องการให้ใครสักคนรับรู้ เพราะว่า .. ไม่มีอะไรจะทำให้เจ็บปวดเท่ากับการที่เราไม่สามารถบอกได้ว่า ..เรารู้สึกเช่นไร ? ยังคงเป็นสิ่งที่เราคิดเอง .. คนอื่น ๆ ไม่ได้กล่าวเอาไว้แต่อย่างใด มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
25 มีนาคม 2550 00:05 น. - comment id 676109
ทำตามใจปรารถนาจะผาสุกค่ะ อย่าคิดมากในบางเรื่อง และอย่ามองข้ามในเรื่องบางเรื่องเช่นกัน ใครไม่รู้ เรารู้ก็สุขใจเราแล้ว แค่นี้แหละที่เฌอ พอใจ
25 มีนาคม 2550 05:51 น. - comment id 676141
เพราะว่า .. ไม่มีอะไรจะทำให้เจ็บปวดเท่ากับการที่เราไม่สามารถบอกได้ว่า ..เรารู้สึกเช่นไร ? มนุษย์นั้น...มีความจำ.... หากเจ็บปวด....ก็ปลดจากความจำเสีย.. ก็จะทำให้ดีขึ้นน่ะ..... เวลาเจ็บปวด...ใครมาเจ็บด้วยหรือ... ระบายให้หมด...แล้วทิ้งไป... เหมือนไม่เคยเกิดมีขึ้น...ฮิฮิฮิ
25 มีนาคม 2550 10:20 น. - comment id 676172
แบ่งความเจ็บปวดมาให้สักครึ่งหนึ่งจิ จะได้ค่อยยังชั่วขึ้น
25 มีนาคม 2550 12:04 น. - comment id 676235
บทกวีมีไว้เพื่อทุกสิ่ง ระบายความจริงแลในฝัน ..........ทุกอย่าง ทุกคน ล้วนเป็นหนึ่งชิ้นส่วนที่ขับคลื่อน เพียงแต่ ส่วนที่ขับเคลื่อนชิ้นใดเสียหาย สิ้นส่วนอื่นย่อมรนทั้งระบบ...........
25 มีนาคม 2550 13:25 น. - comment id 676266
มีบางคนหลงเงาโลกอักษร โคลงกาพย์กลอนอักขราที่ลิขิต มีทั้งเกลียดทั้งชังทั้งเป็นมิตร เพราะต่างจิตต่างใจในโลกลวง หมู่นี้เขียนไม่ค่อยออกอ่ะอิม คำหายจากสมองหมดแย้ว ช่วยจุดไฟหน่อย
25 มีนาคม 2550 16:04 น. - comment id 676343
เจ็บจนชิน มันin ในหัวใจ
25 มีนาคม 2550 16:34 น. - comment id 676345
คนเขียนทั้งสวยทั้งเก่ง พอบรรเลงก็ว้าวุ่น ลุ้นกันแย่งจีบกันมันก็แบบนี้แหละ ฮ่าๆๆๆจะโทษ ใครดันเกิดมาสวยเองนี่นา อิอิ แก้วประเสริฐ.
25 มีนาคม 2550 18:51 น. - comment id 676391
เป็นอย่างที่ใจอยากเป็น...คิดอย่างที่ใจอยากคิด...ครั้งหนึ่งในชีวิตอย่าเพิ่งรีบถอดใจ...บางทีคงถึงเวลาแล้วที่เราจะอยู่กับตัวเองให้มากไง...ไม่ใช่อยู่ลำพังนะแต่อยู่อย่างที่ไม่ต้องลำบากใจน่ะ(ทำให้ งงมั๊ยเนี่ย)
25 มีนาคม 2550 21:28 น. - comment id 676433
คุณไอดิน..กลิ่นฝุ่น .. เป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่อยากเขียนค่ะ ขอบคุณค่ะที่แวะมา คุณคนบนเกาะ .. หลายเรื่องราวอยากเขียนอยากเจียรถ้อย อยากประดอยประดิษฐ์ความคิดนั่น หากข้อความทั้งหมดต้องปลดพลัน ต้องปิดกั้นความรู้สึกที่ลึกร้าว ประหนึ่งต้องปกาศิตรอนสิทธิ์เขียน ดั่งโดนเฆี่ยนวิญญาณซมซานกล่าว บทกวีกลั่นจากใจนัยเรื่องราว กลับร้อนหนาวไร้สักหนคนเข้าใจ คุณเพชรพรรณราย .. อารมณ์ของอัลมิตราในตอนนี้ ยากอธิบายค่ะ และถึงแม้ว่าจะอยากอธิบายให้ใครสักคนเข้าใจ ก็ใช่ว่าจะได้ดังหวัง ค่ะ คุณSilver Snitch .. ขอบคุณสำหรับดอกไม้ค่ะ คุณเพียงแพรว .. กลอนชุดนี้ เขียนเมื่อต้องลบกลอนตนเองออกไปหนึ่งชุดค่ะ ความรู้สึก และ ความรู้สึก .. ที่ยังคงรู้สึก คุณทักทาย .. ใครจะมองอย่างไร อัลมิตราไม่ค่อยหวังผลสักเท่าไหร่ค่ะ เล่นเน็ตมานานพอสมควร มีเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านเข้ามาให้เรียนรู้บ่อย ๆ มันทำให้รู้สึกเฉย ๆ กับ นั่นนี่ ที่วนเวียนฉวัดเฉวียน รวมถึงที่ ลับ ๆ ล่อ ๆ หากคุณทักทายสังเกต ก็จะเห็นว่า .. บางกระทู้ของอัลมิตรา มีคนไม่กล้าลงชื่อสมาชิก บ้างก็สวมรอย บ้างก็คอยหาโอกาส ซึ่งอัลมิตราก็ไม่คิดถือสา ไม่อยากรกสมอง เหตุผลที่อัลมิตราคิดอย่างนั้นก็คือ ใคร ๆ ที่ว่านั้น ไม่ได้มีค่าควรแก่การสนใจเลย แต่ถ้าใครสักคนที่ควรแก่การสนใจและเอาใจใส่ ตรงนั้นก็เป็นอีกเรื่องที่จะต้องสานต่อในทางดีค่ะ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. อาจไม่ได้ดั่งใจบางใครสอน ด้วยหลายตอนที่เพี้ยนเขียนผ่อนผัน แค่สนุกเหมือนเล่นไปในวันวัน ไร้ภาพฝันจินตนาคราบรรเลง เราเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดา เรื่องจะมาบรรจงเขียนตรงเผง ช่างยากเย็นเข็ญใจให้กริ่งเกรง เหมือนร้องเพลงยังผิดคีย์มีเรื่อยไป คุณห้วงคำนึง .. เรื่องของความคิดชั่ววูบ อาจทำให้ผลที่เกิดขึ้น ต้องใช้เวลาอยู่นานพอสมควรที่จะสะสาง และก็ไม่แน่ว่า จะรักษาหรือเยียวยาให้ได้เหมือนเก่า ค่ะ คุณวิภาวดี/บิ๊ก .. ค่ะ เขียนไปก็เท่านั้น มันเหมือนกับว่า ยิ่งเขียน ก็ยิ่งหาคำตอบไม่ได้ว่า .. ทำไมนะ ทำไม ถึงยังไม่สำนึกกันเสียที คุณกุหลาบขาว .. :) ไม่ได้คิดมากเลยค่ะ คิดแบบเนือย ๆ ด้วยซ้ำไป คุณทักทาย .. โห ไปเชียร์เขาทำมาย เด๋วเขาได้ใจ เขียนมาอีกอื้อ ตอบแย่เลยเรา .. คุณเจน_จัดให้ .. ค่ะ อัลมิตราเป็นบ่อย ๆ คุณก่องกิก .. ก็ยังอยากเขียนกลอนสังวรจิต แต่ห้ามคิดห้ามไม่ได้หัวใจเอ๋ย จะยับยั้งทำอย่างไรไม่รู้เลย มันคอยเผยว่าตัวเรายังเศร้าเป็น คุณกุหลาบน้ำตา .. ขอบคุณค่ะ อัลมิตรานึกอยากจะบ่น ๆ ขึ้นมา เดินไปบ่นกับปลาทองในโหล มันก็คอยแต่จะว่ายน้ำหลบอยู่เรื่อย มันคงเบื่ออัลมิตราเหมือนกัน หรือไม่มันก็คงหน่าย หน่ายเพราะว่ามันพูดแล้ว อัลมิตราฟังไม่รู้ความภาษาปลาแก้มป่อง คุณเขียนกลอนเกี่ยวกับคำนินทา ซึ่งตอนนี้อัลมิตราไม่ได้รับรู้เลยนะ มีคนนินทาอยู่หรือเปล่า หรือลอบนินทา .. อัลมิตราไม่ได้ใส่ใจหรือติดตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น .. อยู่ในเน็ต อยู่ในสังคมที่ย่อเล็กลงมา แต่ก็เหมือนสังคมทั่ว ๆ ไปที่ปะปน คงเลี่ยงเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ .. อย่าไปสนใจมันเลยจะดีกว่า คุณเฌอมาลย์ .. อืมม ห้ามความคิด ห้ามยากจังค่ะ คุณวิภาวดี/บิ๊ก .. เวลาเจ็บปวด ใครมาเจ็บด้วยหรือ ? อืมม อัลมิตราคิดว่ามีนะ ทุก ๆ เวลา ไม่ว่าสุข,เศร้า,เจ็บปวด อาจมีใครสักคนร่วมความรู้สึกค่ะ คุณฤกษ์ .. ถ้างั้น แบ่งไปสักห้าพันละกัน จะได้คนละครึ่งพอดี ลงตัว คุณเปเป้ซังฯ .. เหมือนว่าครั้งหนึ่งอัลมิตราเคยพูดไว้เช่นนี้ ในห้องประชุม เจ้านายถามว่า อยากเป็นอะไร (คงหมายถึงจิตนาการมั๊ง) อัลมิตราตอบว่า อยากเป็น เฟืองเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่ง ที่สามารถทำให้ระบบเดินได้ ค่ะ คุณร้อยฝัน .. ยังไม่ได้ถามเลยว่า กาพย์ที่เป็นคำขวัญเมืองชัยภูมิ มีเด็กนักเรียนคนไหนเขียนต่อได้จนจบบ้าง ขาดอีกแค่สองช่วงเองที่อัลมิตราเขียนไม่จบ ความจริง อัลมิตราพยายามแล้ว แต่อาจเป็นเพราะว่า ไม่อยากนั่งเทียนเขียน และที่สำคัญ เรื่องของคำขวัญ ควรเป็นเรื่องที่รู้ลึกแล้วนำมาเขียน .. เสียดายที่อัลมิตราไม่มีข้อมูลพอ เอาเป็นว่า ถ้ามีเด็กนักเรียนคนไหนเขียนต่อได้จบ อย่างที่บอกไว้ มีรางวัลเตรียมไว้แล้วค่ะ คุณพิมพิม .. เจ็บบ่อย ๆ จนชิน .. ไม่นะ บางที เจ็บบ่อย ๆ มันก็แปลว่า ยังเจ็บอยู่ดี คุณแก้วประเสริฐ .. สามบรรทัดเนี่ย คุณเขียนผิดทุกบรรทัดเลยแฮะ บอกแล้ว ให้ใส่แว่นเขียน ... คุณโคลอน .. อยู่อย่างลำบากใจ เป็นอะไรที่ไม่น่าอยู่เสียจริง แต่ในความลำบากใจ บางทีหาทางออกได้ บางที หาทางออกไม่ได้ เลยไม่อยากอยู่ให้รู้สึกลำบากใจไปกว่าเดิม ชักงงแล้ว ค่ะ
26 มีนาคม 2550 08:11 น. - comment id 676493
คุณทักทาย .. โห ไปเชียร์เขาทำมาย เด๋วเขาได้ใจ เขียนมาอีกอื้อ ตอบแย่เลยเรา ท่ายนผู้ชมทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ.... อิ อิ อำกันหนุกๆ น่านะคะ.... อิ_อิ และก็ห้ามเครียดรู้ไหม
26 มีนาคม 2550 09:41 น. - comment id 676528
คุณทักทาย .. ไม่ได้เครียดเลย วันนี้เริ่มงานกับแอร์เย็นฉ่ำ งานที่กองอยู่มุมโต๊ะ เคลียร์ไปแล้วกว่าครึ่ง ช่วงนี้เบรคทานขนมล่ะ
26 มีนาคม 2550 12:56 น. - comment id 676578
ส่งเมลผพิลาบสื่อสารของคุณน่ะค่ะ)เด้งดึ๋งเออเรอร์ไปเลย.... เดี๋ยวจะลองอีกที
26 มีนาคม 2550 15:33 น. - comment id 676697
คุณทักทาย .. อัลมิตราได้รับแล้วค่ะ :)
26 มีนาคม 2550 20:18 น. - comment id 676813
จ๊ะ...
14 เมษายน 2550 13:43 น. - comment id 682899
ไพเราะ ความหมายดีมากครับพี่ ชอบวรรคสุดท้ายมากมาย