หวานหยดหยาดน้ำค้าง ประกายพร่างกลางใบงาม ระยิบระยับวาม แววตาพราวแห่งสาวน้อย รับฟ้าอรุณรุ่ง สายแดดพุ่งปานเอื้อมสอย เล้าโลมน้ำค้างปรอย เจ้าตระหนกระเหยหาย แดดจัดสัมผัสซึ้ง โลกตะลึงหยาดละลาย รักหนอพอแดดสาย ก็หลีกหลบไม่พบกัน หยดหวานหยาดน้ำค้าง สายแล้วคว้างกลางโลกผัน สิ้นแล้วแก้วแพรวพรรณ ปลีกตะวันไปไหนนะ. .......................................................... นิทานหยาดน้ำค้าง (จากหนังสือ เทวโลก เขียนโดย พลูหลวง) ดาฟเน่ คือ เทพีแห่งน้ำค้าง เธอเป็นพระธิดาของเทพประจำสายน้ำ ดาฟเน่มีความงามเลื่องลือในสวรรค์และบนโลก ทรงครองความบริสุทธิ์ ถือพรหมจรรย์ ไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศเลย เมื่ออพอลโลประสบพบนางเข้า พระองค์บังเกิดความลุ่มหลงในนาง แต่เมื่อเข้าใกล้นางนางก็วิ่งหนีเสียทุกที เมื่ออพอลโลแนะนำตนว่าคืออพอลโล เทพบุตรผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ เทพีดาฟเน่ก็ยิ่งกลัวความเป็นผู้มีรักอันเหลือเฟือของอพอลโล จึงวิ่งหนีสุดชีวิต อพอลโลก็เกิดตามไปติดๆ จนใกล้แม่น้ำ เทพีดาฟเน่จึงกล่าวอ้อนวอนต่อเทพแห่งแม่น้ำผู้เป็นพระบิดา ขอให้ช่วยด้วย เพเนอุส เทพประจำแม่น้ำเห็นว่าจวนตัว และวิธีช่วยธิดาของพระองค์ได้ชั่วกาลนาน จึงเสกนางให้เป็นต้นไม้ ทันใดนั้นเทพีดาฟเน่ก็กลายเป็นต้นลอเรลในฉับพลัน ต้นลอเรลนี้เป็นที่รักของอพอลโลถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ เพราะพระองค์ตรัสว่า "แม้นางอันเป็นที่รักของข้า จะหนีไปพ้นและชนะเรา แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้เราพรากจากกันไม่ ด้วยต้นลอเรลจะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ นางจะมีส่วนร่วมในชัยชนะทุกครั้ง ต้นลอเรลคือตัวนางนี้จะเป็นต้นไม้ประจำตัวเราไปด้วย"
20 เมษายน 2549 09:33 น. - comment id 572560
น้ำค้างบนใบบอน..
20 เมษายน 2549 10:47 น. - comment id 572561
หยดหวานหยาดน้ำค้าง สายแล้วคว้างกลางโลกผัน สิ้นแล้วแก้วแพรวพรรณ ปลีกตะวันไปไหนนะ. .......................................................... ไปเป็นปุยเมฆขาว แต้มฟ้าพราวระเกะระกะ รอวันรอวาระ ได้ที่พร้อมพิรุณริน แจมค้าบ
20 เมษายน 2549 12:41 น. - comment id 572585
... หยดหยาดจากฝั่งฟ้า โปรยปรายมาละอองใส ข้านผ่านคืนยาวไกล แล้วจากไปพร้อมอรุณ