ลมหนาว

ม้าก้านกล้วย

ลมหนาว สาดดาว พราวฟ้า
พัดฝ่า เงื้อมผา ป่าเขียว
ซอกซอน เสลา กราวเกรียว
แกะเกี่ยว ปลิดปลง พงพฤกษ์
ชุ่มชื่น กลับคืน ถดถอย
เมฆพร้อย จันทร์พราง กลางดึก
จักจั่น  เรไร ระทึก
ดั่งปรึก-ษากัน พรั่นพรึง
หมู่มด เกี่ยวตวง รวงข้าว
ยามหนาว เหน็บล้า มาถึง
เรไร เจ้ายัง ดังดึง
กรีดกลึง สำเนียง เสียงเพลง
จักจั่น เอ่ยนาม ถามมด
ถ่ายทด ทานไป ใยเร่ง
ฟังข้า เริงร่า บรรเลง
สักเพลง กล่อมขับ สดับเอา
มดว่า เฉยช้า มิได้
หนาวแห้ง แล้งร้าย ใช่เขลา
ลูกหลาน ทั้งรัง ยังเยาว์
ตุนเข้า ขอดไป ไว้กิน
เจ้าฤา ครวญกู่ อยู่ใย
ฝนถด หมดไป ใจสิ้น
เจาไม่ เร่งล่า หากิน
จะสิ้น อาหาร ผ่านวัน
จักจั่น เฉลย เอ่ยขึ้น
ค่ำคืน เหมือนแม้น แสนสั้น
พวกข้า บรรดา จักจั่น
เกิดมา ไม่นาน ก็ ตาย
จึงร่าย เพลงพร่ำ ทำนอง
กล่อมก้อง ระเหลิง เริงร่าย
ก่อนเว - ลารุด สุดท้าย
ก่อนตาย ฝากดี ไว้ดู
  -ม้าก้านกล้วย-				
comments powered by Disqus
  • คะน้า

    16 พฤศจิกายน 2544 07:31 น. - comment id 19570

    ไพเราะเหมือนบทเพลง อ่านแล้วรื่นดีจังค่ะ
  • ธนรัฐ สวัสดิชัย

    16 พฤศจิกายน 2544 16:19 น. - comment id 19642

    เพราะจังเลย...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน