...ชีวิตของกางเขนน้อยคอยบินโผ เล็กจนโตปีกกล้า กระพือมั่น ขริบริมขาว วาววับ ห่มดำพลัน สองสีสัน เสน่ห์ซึ้ง ติดตรึงตรา ทิ้งคอนนก ที่เคยอยู่ เช่นปัจเจก สู่วิเวก เวิ้งว้าง กลางฟากฟ้า หวังพบที่ ดำนักใหม่ ให้ชีวา เหินเวหา ระร่อนลง โฉบผืนดิน เริ่มเรียนรู้ สิ่งแปลกใหม่ ในชีวิต เกินความคิด จินตนา กว่าบ้าบิ่น รู้ทุกข์ร้อน รู้ผ่อนคลาย เป็นอาจิน เที่ยวทั่วถิ่น พเนจน เร่ร่อนไป อยู่ตัวเดียว เปลี่ยนภายใน ให้เหว่ว้า รุ่งทิวา ตระการแสง สุขสดใส คลอสายลม เคลียแสงแดด เคล้าดวงใจ เกาะกิ่งไม้ บอกลา ตามริมทาง ท่องชนบท เที่ยวเมือง เรื่องน่ารู้ ทนบินสู้ ถลาลม จนรุ่งสาง หมอกสีดำ ไฟหลากสี พร่าเลือนลาง วนอยู่กลาง นภากว้าง สุดวังเวง เสียงเอะอะ จ้อกแจ้ก ลั่นไปทั่ว นกน้อยกลัว จะมีใคร มาข่มเหง กางเขนน้อย เจ้าเอย อย่าหวั่นเกรง เจ้ายังมี บทเพลงป่า พนาไพร จงคิดถึง วันเก่าเก่า เจ้าทนสู้ ผิดเป็นครู พลาดพลั้ง เจ้าเริ่มใหม่ แม้วันนี้ กายเจ้า อยู่แสนไกล จากดงไพร ถิ่นกำเนิด บังเกิดมา กางเขนน้อย คอยพัก พลังไว้ แล้วตั้งใจ จากเมือง เคืองลมท้า พอกันที ขอคืนคอน ที่จากมา จักคืนป่า บ้านนอก บอกหมอกดำ ข้าคิดถึง เสียงดนตรี ที่ขับขาน ก้องกังวาน หรีดหริ่งร้อง ชวนขวนขำ ข้าคิดถึง คอนไม้เก่า ข้าเคยจำ ทุกเข้าค่ำ โผผิน บินตามใจ ขอกลับคืน ผืนบ้านนา ที่ข้ารัก สายลมทัก คลอเสียงน้ำ ที่รินไหล อยู่สันโดษ ตัวเดียว แม้เปลี่ยวใจ ก็เพราะได้ กำลังใจ จากความจริง
9 กุมภาพันธ์ 2547 00:35 น. - comment id 213694
กลอนดี ๆ มีกำลังใจดีนะ ขอชม
9 กุมภาพันธ์ 2547 23:41 น. - comment id 214250
งามบทกลอนนกกางเขนเบนท้องทุ่ง ร่อนหมายมุ่งมองหาปัญญาใหม่ ในที่สุดบ้านของเรานะทรามวัย คื่อหัวใจในชนบท..สดชื่นจริง
10 กุมภาพันธ์ 2547 10:55 น. - comment id 214403
กลอนไพเราะ ความสวยงามมากเลยค่ะ มาชื่นชมผลงานนะค่ะ
10 กุมภาพันธ์ 2547 23:58 น. - comment id 214803
แต่งกลอนได้ดีจริงๆ ผมแก่แล้ว....ยังนึกถึงความหลัง...ที่มีความสูข