เย็นยะเยียบเหยีบย่ำหยั่งภูผา หลบหลีกเลี่ยงบอกลานครสรวง สู่ผาตั้งผาสูงใหญ่ใกล้แดนดวง ดั่งภาพลวงภาพนิมิตยังติดตา เมฆหมอกขาวขาวกว้างทะเลหมอก ค่อยค่อยซอกผ่านพ้นแนวภูผา ค่อยค่อยคืบค่อยค่อยคลามผ่านขึ้นมา สะท้อนแสงสุริยาฟ้าอำไพ จากภูสูงเสียดยอดทะเลหมอก เหลือเพียงแค่เกาะนอกทะเลใหญ่ จากผากว้างกว้างขวางสักเพียงใด ก็เป็นได้แค่แผ่นดินถิ่นทะเล ด้วยเมฆหมอกทะเลร้ายเข้าบังตา เหลือเพียงว่าเศษแผ่นฟ้าดูสรวลเส ฝ่าลมแรงทะเลเมฆมิปนเป ยังรวนเรเมืองหมอกทุกซอกซอน แลผาบ่องช่องเขาประตูใหญ่ เหตุไฉนธรรมชาติวาดสั่งสอน ดูน่าแปลกรูเขาประตูกลอน ลมกระโชกโบกตอนผ่านเข้ามา เย็นยะเยียบเหยียบย่ำประตูใหญ่ ยังสงสัยใครหนอใครเฝ้าสรรหา แหล่งแสนสรรค์สรรสร้างวางศรัทธา ดั่งเวลาจะหยุดย่ำเหยียบหยุดลง กระแสลมสมแดนทะเลเมฆ ยังวิเวกหวีดแหวกเป็นผุยผง แม้นหินผากล้าแกร่งยังแปลกปลง ทะลวงโลกผ่านวงตรงภูกลอน อันผาบ่องแปลว่าช่องประตูใหญ่ กำเนิดใหม่ด้วยลมหอบยังโหยหอน กรีดร่องหินบิ่นไปให้ร้าวรอน ค่อยค่อยทอนออกเป็นช่องของประตู ประตูนี้เป็นช่องเปิดสู่แดนลาว เมื่อถึงครวมไทยประเทศเขตต่อสู้ ประตูคอยปกป้องจ้องศัตรู มิให้สู่ประเทศไทยได้โดยง่าย ถึงตอนนี้มีแต่ความสงบ สงครามจบจบสิ้นสิ้นสลาย มิมีแล้วมิมีใครที่ต้องตาย จึงได้กลายเป็นผาบ่องช่องประตู เย็นยะเยียบเหยีบย่ำธรรมชาติ ที่มิอาจต้านทานจะต่อสู้ เย็นยะเยือกเกลือกกล้ำค้ำฤดู ฟ้ากับภูคู่เคี่ยวเกี่ยวข้องกัน อันเมฆหมอกซอกลมและภูผา รวมกันมาเป็นผาตั้งที่รังสรรค์ จากน้ำมือธรรมชาติที่แบ่งปัน วิไลร่างสร้างฝันนิรันดร
10 ตุลาคม 2546 12:39 น. - comment id 173496
ไปเที่ยวมาครับ สนุกมาก และประทับใจมากด้วย เสียดายอีก 25 กิโลเมตรจะถึง ภูชี้ฟ้า แต่ไม่มีเวลาเที่ยว อ้อผาตั้นี่อยู่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นะครับ มีรถขึนไปประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากเขตชุมชน และขึ้นเขาอีกแค่ 200 เมตรเอง
11 ตุลาคม 2546 00:57 น. - comment id 173632
ไปใช้ชีวิตแถวนั้นมา เกือบ 2 อาทิตย์ ครับ ที่ หมู่บ้านมูเซอ นาศิริ สวย จนไม่ลืมได้เลย พออ่านบทกวีบทนี้ ยิ่งจำ ฝังใจ
11 ตุลาคม 2546 04:34 น. - comment id 173665
เป็นกลอนที่ไพเราะมากเลยค่ะ ยอากไปเทียวบ้างจัง แต่ไม่ค่อยมีเวลา แต่ถ้ามีเวลาจะไปเที่ยวดูนะค่ะ