.แม้นย่ำค่ำคืนนี้มืดสนิท ไฟมืดมิดยังมีจันทร์จรัสจ้า ไม่เห็นผองปักเป้าเหล่าจุฬา ยินแต่เสียงแว่วมาตามสายลม เป็นสำเนียงขับกล่อมทำนองทุ่ง จากย่ำค่ำยันรุ่งปรุงผสม ก่อกำเนิดจากไผ่หวายและสายลม กล่อมอารมณ์ลำนำทำนองเพลง ร่ายสำเนียงสูงกลางบ้างก็ต่ำ บ้างกระหน่ำรัวรับฉับกระเฉง บ้างเฉื่อยชาช้าบ้าเป็นบางเพลง บางทีเร่งเร็วจัดเสียงขาดไป ไพรสำเนียงสอนสั่งทางชีวิต เร่งไม่คิดผิดคาดอาจจะพลั้งได้ แม้นเชื่องช้ายืดยาดอาจเสียใจ ประมาณไว้ไม่เร็วช้าสุขารมณ์ ลมชายทุ่งยังพัดสะบัดไหว ว่าวน้อยใหญ่ยังส่ายหางกลางเวหา ลมชีวียังมีมิจากลา ต้องฟันฝ่าพาดวงมานต้านสายลม.
18 สิงหาคม 2546 23:38 น. - comment id 161032
ทุกครั้งที่สัมผัสงานงาม นำเสนอความงดงามแห่งไพรรก โตรกธารและธรรมชาติ ในหัวใจดวงนี้ยังคงซาบซึ้งเป็นอย่างมากครับ เขียนงานแบบนี้มาให้อ่านกันบ่อยๆ นะครับ
20 สิงหาคม 2546 00:47 น. - comment id 161382
งามเสียจนอึ้งค่ะ อยากรู้จักคนเขียนแล้วซีคะ..
20 สิงหาคม 2546 00:51 น. - comment id 161386
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=644 เย็นลมว่าว วินัย จุลละบุษปะ : : Key F เย็น ยามเมื่อเย็น ลมว่าว ปัดลมร้อนผ่าว เป่าลม ที่หนาว ไปสิ้น ร่ม เย็น ทั่ว ทุก ถิ่น บน แผ่น ดิน สาย ลมรำเพยทั่วไป เย็น เย็นเพราะลม โชยเฉื่อย จิตใจหายเหนี่อย ด้วยลม ชโลมจิตใจ ว่าว น้อย ลอย ลม ฉันพลอยรื่นรมย์ ยิ่งชมยิ่งคิดไปได้ สายลมชื่นใจ ว่าวลอยเหลิงไปเกลื่อนตา ดู ดู เหมือนว่าวเริงร่าย จุฬาคว้าส่าย ปักเป้าเจ้าย้ายเริงร่า ยิ่ง ดู ดูเหมือนว่า เจ้าจุฬาคว้า ไปไม่มีผ่อนเบา หลง ความคนองเพลินพล่าม จิตใจเหิมห่าม จู่โจมเพราะความโฉดเขลา โฉบ ฉาย พราย มา เดี๋ยวเดียวจุฬา กลับมาติดเหนียงปักเป้า ฝืนดึงฉุดเอา ยิ่งพันรัดเข้าแนบตัว โอ้ ความรักเราเหมือนว่าว ว่าวลอยหาญห้าว ดั่งคราวที่รักเกลือกกลั้ว ไม่ ดู ดี หรือชั่ว ใจมืดมัว เพราะ รักพันพัวติดตรา แม้ ใครคนองลองเล่น อวดดีถือเด่น จะเป็นเหมือนเช่นจุฬา ลุ่ม หลง เริง ใจ หลงเข้าบ่วงไป ก็ควรให้สมน้ำหน้า ช้ำในอุรา ต้องกินน้ำตาร่ำไป แม้ คนทนงเองเล่า จัดเจนเสียเปล่า ก็ยังโง่เขลาไปได้ พูด มา จริงหรือไม่ ใครต่อใคร ช้ำ ใจ ตายไปมากครัน ขอ จง คนึงดูบ้าง เล่ห์เหลี่ยมหลายอย่าง ต้องตรองทุกทางให้ทัน ว่าว เหลิง เริง ลม หลงต้องป่านคม ขาดลอยหล่นผลอยไปนั่น รักเราเช่นกัน หมั่นคอยระวังเถิดเอย...