...... ดาวคู่ศศิธร ...........

นักเดินทาง(Skeczys)

ราตรีประดับดาว          รติพราวตระกานใจ
แวววับระยับใส               จะสล่างสว่างดิน
   ดูดวงบุหลังล่อง            รุจิส่องกระทบหิน
โค้มฟ้า ณ แดนอินทร์     ก็ชะแล่มยะยวนตา
   ดาวคู่ศศิธร                 จิตกรสะท้อนฟ้า
แต่งแต้มสุจินดา             วรเพชราพราว
   ลมเอยจะเชยเอื่อย       ปะทะเรื่อยสะท้านหนาว
ยินคล้าย ณ เพลงดาว     บ ท กล่อม ธ ราตรี
   ขอบฟ้าก็พลันผ่อง        รวิต้องสุวรรณสี 
แผ่ซ่าน ณ อินทรีย์          รชนีก็พลันลา				
comments powered by Disqus
  • เม่า

    23 มิถุนายน 2546 22:59 น. - comment id 149235

    เก่งจังเลยยยยยยยย
    
    อ่านแล้วก็งงงง         และก็ปลงก็มึนไป
    เก่งจริงนะพี่ใคร      หุหุ  นี้กะพี่เรา
    
    เฮ้อ  เก่งๆ ตามม่ะทัน.........
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    23 มิถุนายน 2546 23:27 น. - comment id 149242

    ชื่นชมครับชื่นชม
    จะไม่ชมเดี๋ยวจะบ่น
    อุตส่าห์ต้องทุกข์ทน
    กว่าจะโกลนเป็นฉันท์งาม
    
    อิอิเย้าเล่นน่ะที่จริงเพราะมาก
  • นักเดินทาง(Skeczys)

    23 มิถุนายน 2546 23:42 น. - comment id 149247

    o น้องเม่า: หุหุ ไว้เดี๋ยวเม่าโตเท่าพี่ ก็เก่งเองแหละ ดีไม่ดีเก่งก่าพี่ด้วยซ้ำ 
    to พี่ฤกษ์: ตกใจหมดเลย นึกว่า... จะกล้ำกลืนฝืนทน ชมขนาดนั้นเลย ขอบคุณมากนะคะ
  • สีน้ำฟ้า

    23 มิถุนายน 2546 23:45 น. - comment id 149249

    ชอบค่ะ ภาษาสวยดี
  • สดายุ

    24 มิถุนายน 2546 08:11 น. - comment id 149282

    ราตรีสิคลี่หนาว          ฤดิผ่าวพะวงใคร
    ซ้อนซึ้งคะนึงไข         หฤทัยไฉนเหงา
    ดูเพ็ญก็เย็นตา           ระอุคาก็คือเงา
    คืบเคียงก็เพียงเขา     อุระเร้าสิเฝ้าหา
    เงียบงันประหวั่นอก     จิตปรกบ่ปรีดา
    สร้อยขมระดมถา        บ่จะภาจะเทียบเพ็ญ
    ดาวพร่างบ่ว้างแสง     ลุแจรงจรัสเย็น
    เปรียบมัวสลัวเห็น       นยะเช่นจะกลับกัน
    ลมเอยชะเชยชื่น        สละรื่นระเริงปัน
    ย้อมอกวิตกฉัน          บ่จะคั้นระคายไข
    เมื่อฟ้าอุษากาล         รวิผ่านประกายไกล
    จักยืนและขืนใจ         บทใหม่จะหมดตรม
     
    
  • เวทย์

    24 มิถุนายน 2546 09:32 น. - comment id 149291

    โค้มฟ้า ณ แดนอินทร์     ก็ชะแล่มยะยวนตา
    โค้มฟ้า ณ แดนอินทร์     ก็แฉล้มอร่ามตา
    โค้มฟ้า ณ แดนอินทร์     ก็แอร่มอร่ามตา
    
    แบบว่า นานาจิตตํ  นะ
    
    
  • ใจปลายทาง

    24 มิถุนายน 2546 10:32 น. - comment id 149299

    สวยงาม
  • นักเดินทาง(Skeczys)

    24 มิถุนายน 2546 10:55 น. - comment id 149302

    o สีน้ำฟ้า: ขอบคุณค่า...
    to พี่สดายุ: ทำมัยมันฟังดูหดหู่จัง...
        คอยคิดคะนึงหา    ทบหน้าณตราตรู
    จิตรักประจักรู้           ตลห่อนจะคลายลง
    to ลุงเวทย์:ชอบอันนี้อะค่ะ
      โค้มฟ้า ณ แดนอินทร์     ก็แอร่มอร่ามตา
    หุหุ ต้องพัดทะนาๆๆ
    to ใจปลายทาง: ขอบคุณค่า
  • ราชิกา

    25 มิถุนายน 2546 10:18 น. - comment id 149486

    เฝ้ามองเดือนจันทร์ฉาย   ธประกายอร่ามตา
    ดั่งต้องมนต์มายา   ศิวะเรืองละเลื่อมพราย
    ขอบฟ้า ณแดนใด   มิมองไกลให้ห่างกาย
    ชื่นสมอารมณ์หมาย  ผิวใจให้คร่ำครวญ.....ฯ
    
    มาร่วมชมความงามด้วยค่ะ...แวะมาทักทายนะ...
    
    
  • สดายุ

    25 มิถุนายน 2546 10:19 น. - comment id 149487

    เช้า...พาอุราคละอภิรมย์
    ฤดิสมปฐมวัน
    เที่ยง...รอพะนอนุชถลัน
    มุประพันธ์ประจันหมาย
    
    เย็น...ยังประดังสุรประพจน์
    อรรถรสบทกราย
    ค่ำ...คืนระรื่นจิตสยาย
    กลคล้ายจะครื้นเครง
    
    นวล...น้องสิปองวิริยะฉันท์
    วัตรนั้นจะมั่นเอง
    สาว...สวยผิว์ช่วยวรรณเชลง
    ผิวเกรง...ก็เกริกไกร
    
    เรียม...ร่ายสยายอักขระมุ่ง
    นยะปรุงประภาไป
    เพื่อ...อรจะย้อนวจนะไข
    พิสมัยสมานหมาย
    
    เปรียบ...เดือนสิเคลื่อนจรนภา
    รัตคราประภาพราย
    ร่วม...ดาริการุจคละฉาย
    ชุติสายจะเสริมแสง
    
    ย่อม...ผ่องระรองกระจะวิกาล
    พิศพานสิเผยแรง
    ห่อน...ยากจะลากศักยะแปลง
    มุแสดงประดับกรอง
    
  • นักเดินทาง(Skeczys)

    25 มิถุนายน 2546 12:19 น. - comment id 149507

    o ราชิกา: ขอบคุณที่แวะเยี่ยมค่า 
    
      มองดาวประดับฟ้า         นั ย นา ณ ราตรี
    นึกองอนงค์ศรี                จะประทับ ณ ฟ้าไกล
      เห็นจันทร์ก็พลันเห็น        บท เป็นพระพัตร์ไป
    นวลจันทร์ฤเทียบได้          ตลหน้าสุกานดา
    
    to พี่สดายุ: ว้าว สุดยอดเลยค่ะ T_T คารวะหลายๆที เก่งจัง  เช้าจะพยายามต่อไป รักฉันฑ์ที่สุดเลย เย้ๆ อิอิ
  • พี่ดอกแก้ว

    27 มิถุนายน 2546 17:25 น. - comment id 149966

    ....โคมฟ้าคราเคลื่อนแสง 
    เจิดจำแลงพร่างเวหา 
    ร่ายมนต์แห่งจันทรา 
    ดาริกาก็คล้อยเงา 
    
    แสงพราวของดาวน้อย 
    กระพริบปรอยคอยเคียงเฝ้า 
    หลงมนต์ดลจิตเร้า 
    ก็ลืมกายหมายรอชม 
    
    เมื่อเดือนเคลื่อนผ่านหล้า 
    ประกายกล้าแห่งแสงคม 
    สะกดความขื่นขม 
    ของใจดาวไม่ร้าวใจ 
    
    ฟ้าเข้มเต็มผืนฟ้า 
    ดวงดาราสุกไสว 
    รองรับระยับไป 
    เป็นพร่างพื้นให้จันทรา 
    
    ฉากงามยามคืนค่ำ 
    ยิ่งดื่มด่ำกับฟากฟ้า 
    ดวงเดือนคู่ดารา 
    ดุจมนตราราตรีกาล 
    
    สวัสดีคะมาช้าไปนิดเจ้าค่ะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    27 มิถุนายน 2546 17:27 น. - comment id 149967

    ....โคมฟ้าคราเคลื่อนแสง 
    เจิดจำแลงพร่างเวหา 
    ร่ายมนต์แห่งจันทรา 
    ดาริกาก็คล้อยเงา 
    
    แสงพราวของดาวน้อย 
    กระพริบปรอยคอยเคียงเฝ้า 
    หลงมนต์ดลจิตเร้า 
    ก็ลืมกายหมายรอชม 
    
    เมื่อเดือนเคลื่อนผ่านหล้า 
    ประกายกล้าแห่งแสงคม 
    สะกดความขื่นขม 
    ของใจดาวไม่ร้าวใจ 
    
    ฟ้าเข้มเต็มผืนฟ้า 
    ดวงดาราสุกไสว 
    รองรับระยับไป 
    เป็นพร่างพื้นให้จันทรา 
    
    ฉากงามยามคืนค่ำ 
    ยิ่งดื่มด่ำกับฟากฟ้า 
    ดวงเดือนคู่ดารา 
    ดุจมนตราราตรีกาล 
    
    สวัสดีคะมาช้าไปนิดเจ้าค่ะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    27 มิถุนายน 2546 17:27 น. - comment id 149968

    ....โคมฟ้าคราเคลื่อนแสง 
    เจิดจำแลงพร่างเวหา 
    ร่ายมนต์แห่งจันทรา 
    ดาริกาก็คล้อยเงา 
    
    แสงพราวของดาวน้อย 
    กระพริบปรอยคอยเคียงเฝ้า 
    หลงมนต์ดลจิตเร้า 
    ก็ลืมกายหมายรอชม 
    
    เมื่อเดือนเคลื่อนผ่านหล้า 
    ประกายกล้าแห่งแสงคม 
    สะกดความขื่นขม 
    ของใจดาวไม่ร้าวใจ 
    
    ฟ้าเข้มเต็มผืนฟ้า 
    ดวงดาราสุกไสว 
    รองรับระยับไป 
    เป็นพร่างพื้นให้จันทรา 
    
    ฉากงามยามคืนค่ำ 
    ยิ่งดื่มด่ำกับฟากฟ้า 
    ดวงเดือนคู่ดารา 
    ดุจมนตราราตรีกาล 
    
    สวัสดีคะมาช้าไปนิดเจ้าค่ะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน