หนึ่งด้วงกว่างอ้างว้างกลางดงดอก ชงโคชอกใจช้ำร่ำไห้หา ตำหนิตนต่ำต้อยด้อยปรีชา ผีเสื้อสาวชาวฟ้ามิกล้ากราย หนึ่งผีเสื้อเรื่อริ้นรินน้ำตา การจากลารุนแรงเกินแหนงหน่าย มิรู้เกณฑ์จากเป็นหรือเร้นตาย มิรู้ภายภาคหน้าว่าจะเจอ ด้วงกว่างปีกแข็งโผโล้เล่นลม เจ็บระบมคลายบ้างว่างและเผลอ ชอนไชดงชงโค โถ ละเมอ จำเหลือบรุ้ง มุ่งเหม่อ ถึงเธอนั้น ผีเสื้อสาว เมียงมอง ลงท้องทุ่ง หน่ายสังคม ขรมคลุ้ง สูงสนั่น กรุ่นกลิ่นกาย คลับคล้าย หนอนในฝัน ก็หุนหัน แสวงหา ว่าคือใคร พบพานแล้ว พลัดพรากเพื่อ จะพบพาน สูดลมซ่าน กักสะอื้น กลืนเสียงไห้ ต่างฝ่ายต่าง ผ่านเหงา ต่างเข้าใจ พบกันใหม่ ฐานะใหม่ ใช่กีดกัน สองมิตร สองศักดินาเหลื่อม ซึ่งเอื้อมมือสมานร่วมสานฝัน เหงามานานผ่านมาหน่ายตั้งหลายวัน เมื่อพบกันเข้าใจในมิตรแท้ (ม้าก้านกล้วย)
27 มีนาคม 2546 14:48 น. - comment id 119341
!V..____..V! เศร้าก็เศร้า.. อ่ะ..อ๋อ.. 0+++++++++++* จบแบบแฮปปี้แระ อื่ม...เข้าใจ ๆ น้าใจดีจัง ผ่านมาแบบ งง ๆ (ก็เข้าใจว่าจบไปแล้ว ฮาๆๆๆ)
27 มีนาคม 2546 21:41 น. - comment id 119451
สวัสดีครับคุณม้าก้านกล้วย,พี่สีน้ำฟ้า ผมเริ่มอ่านกลอนแล้วรู้สึกซาบซึ้งจึงลองแต่งดูบ้าง แต่ไม่เจนกลกลอนทำให้อาภรณ์ห่อหุ้มความคิดไม่งดงาม ผมจึงใคร่ขอคำแนะนำเพื่อน้อมนำไปขัดเกลาต่อไป...หวังใจในกรุณาครับ
27 มีนาคม 2546 22:07 น. - comment id 119457
มีความสุขซะที ผีเสื้อ เอ๋ย อิๆๆ
28 มีนาคม 2546 15:30 น. - comment id 119649
*________________________________* ปะป๋า ใจดีจังเลย ในที่สุด ก็จบแบบ happy สักที (สังเกตให้ดี ยิ้มสะแก้มบานเลย ๕๕๕) แต่ท่อนแรก ๆ อ่านแล้วเศร้าจังเลย แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็จบแบบมีความสุข ^-^