สะพรึงเพลิง (กลอนกล สนม หน้านวล)

ม้าก้านกล้วย

เปลวพระเพลิง เหลิงเร่า เผาป่าป่น
เปลวระคน ลนลวก พวกพรรณผอง
เปลวระริก หงิกงอ ก่อเกิดกอง
เปลวละล่อง ต้องลาม ตามแนวเนิน
เปลือกกะพี้ มีแผล แผ่เป็นแผ่น
จึงข้นแค้น แสนแสบ แทบสะเทิ้น
ระอุไอ ไฟผลาญ นานเหลือเกิน
ยับย่อยเยิน เกินกว่า มาแก้ไข
ยามกลางวัน นั้นยัง บังบดแสง
มิให้แจ้ง แสงกระจ่าง กลางไสว
พอพลบพลัน พรั่นพรึง ซึ่งแสนไกล
ลับแลไป ในลาดเนิน เกินคะเน
เห็นเป็นแสง แดงฉาน ปานทางเลือด
แผ่นดินเดือด เหือดแห้ง แหล่งสรวลเส
ทยอยลาม วามวาว ราวเกเร
ยามลมเพ เหทาง ล้างมลาย
เปลวอาวรณ์ ร้อนแรง แผลงพิฆาต
เปลวพินาศ กวาดล้าง อย่างโหดร้าย
เปลวอาถรรพ์ บั่นทอน วอนวอดวาย
เปลวทำลาย ร้ายกาจ อาจลุกลาม
ระทึกกลัว ตัวตน บนกองเพลิง
ขวัญกระเจิง เพิงไพร ไหววูบหวาม
กระจายฮือ อื้ออึง จึงวู่วาม
ต้องตายตาม ท่ามใน ไฟนรก

(ม้าก้านกล้วย)
อันกลอนกล สนมหน้านวล นี้ จะเรียกเป็นกลกลอนที่ มีรูปแบบ ตรงฉันทลักษณ์ที่สุด คือ ให้เฉพาะ สัมผัสสระ ต่อตรง ข้ามท่อน คือ คำที่ สาม ส่งสัมผัสสู่ คำที่ สี่ และ คำท้ายท่อนสอง สัมผัสตรงสู่ คำแรก ท่อนสาม ซึ่ง หลักการเขียนกลอนแปด จะเป็นอย่างนี้ เพียงแต่ ให้คลี่คลายได้บ้าง ไม่สัมผัสได้บ้าง สัมผัสทบคำ(โดดไปใช้คำถัดไป) ได้บ้าง แต่ กลนี้ ไม่ยินยอม เพราะ เงื่อนกล อยู่ตรงนี้ นี่เอง				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    25 มีนาคม 2546 17:02 น. - comment id 118650

    เก่งจัง...อีกหนึ่งผลงานดีๆสร้างสรรค์อีกที โดย...ม้าก้านกล้วย...น่าน...ตัดเข้าโคดสะนา...อิอิ
    
    (o*^___^*o)
  • ใจปลายทาง

    25 มีนาคม 2546 18:29 น. - comment id 118687

    .....ใช่แล้ว คุณลุง  ( ขออนุญาติ ) เก่งจริงๆๆ
    ชอบอ่านค่ะ  
    ......เอ !  อ้อมเรียกลุงแก่ไปป่าวค่ะ  อิๆๆ
  • ตู่นุดี

    25 มีนาคม 2546 18:55 น. - comment id 118696

    เย้ๆๆๆ
    ชอบอ่านกลบทมากๆเลย
    ...คนคิดได้นี่เก่งมากจริงๆเลยเนอะ
    ..อยากอ่านกลบทงูกลืนหาง อ่ะค่ะ
    เก่งให้อ่านหน่อยจิคะ..
  • rain..

    25 มีนาคม 2546 19:22 น. - comment id 118707

       เรน..ขอหลบ..มุมห้อง..
       เรน..ขอจ้อง..มาแอบอ่าน..
       ก้อเรนกลัว..ไม่กล้าผ่าน..
        แค่แอบอ่าน..นานไป..ไว้ฝีกปรือ..
             ...เรน..ขออนุญาต...นะคะ..
             ...ขอบคุณค่ะ..
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    25 มีนาคม 2546 20:50 น. - comment id 118743

    ที่จริงสาว ๆ ควรหัดแต่งไว้หน้าจะได้นวลเหมือนสนม อิอิ
  • ม้าก้านกล้วย

    25 มีนาคม 2546 21:38 น. - comment id 118761

    สำหรับกลอนกล งูกลือนหาง แต่งให้แล้วนะครับ
  • ใบบอนแก้ว

    26 มีนาคม 2546 00:51 น. - comment id 118828

    ...เข้ามาเยือนครับ พี่ม้าก้านกล้วย...เพราะชอบใน กล  เข้ามาเพื่อศึกษาแบบอย่างนะครับ..แต่อ่านแล้วทำให้คลับคล้ายคลับคลาว่าระหว่าง..กลอนกล สนมหน้านวล กับ กลอนกลช้างชูงวง นั้นเหมือนกันหรือเปล่าครับ...
    
                   ....สวัสดีครับ....
  • ม้าก้านกล้วย

    26 มีนาคม 2546 07:27 น. - comment id 118871

    ใน ศิริวิบูลย์กิตติ์ เรียกว่า ช้างชูงวง ครับ แต่ ตามประวัติเดิม สมัยปลายแผ่นดินศรีอยุธยา ใครจะถวายตัวเข้ามาเป็นสนม จะต้องเรียนรู้ที่จะเคร่งครัดประเพณ๊ ธรรมเนียมราชสำนักต่าง ๆ ซึ่งแม้แต่การเขียนบทประพันธ์ก็ต้องเคร่ง  เล่ากันว่า บทแรกของการเรียน คือ แต่งหน้า แล้วบทต่อมา คือ แต่งกลอน ทีนี้ พวกอาลักษณ์(คนเขียนกลอนของพระราชา) เลยล้อเลียนกันว่า ใครที่แต่งกลอนเคร่งฉันทลักษณ์ เป็นพวก สนม หน้านวล คือ เรียนแต่งหน้า แล้วมาเรียนแต่งกลอน ครับ
    ชื่อนี้ เรียกก่อนช้างชูงวงซะอีก แต่ เชื่อว่า หลวงศรีปรีชา(เซ่ง) ผู้แต่ง(เรียกแต่งไม่ได้สิ เพราะแต่งหลายคน) ผู้รวบรวม เรียบเรียง ท่านมิกล้าใช้ ชื่อ สนมหน้านวล ด้วยเหตุว่า ท่านเอง ก็ เป็นบุตรในสนม คนหนึ่ง
  • ราม ลิขิต

    26 มีนาคม 2546 10:14 น. - comment id 118917

    สวัสดีครับคุณม้าก้านกล้วย
    
    เมื่อคืนเข้ามาจะคุยทีนึงแล้ว ปรากฏว่าหลายวันมานี้มักจะขลุกขลัก เลยขึ้นมาใหม่สายวันนี้ 
    
    ไม่มีอะไรหรอกครับ เห็นคล่องเรื่องสนมมาก เข้าใจว่าน่าจะมีทีเด็ด ผมไม่มีสนมเลย ขนาดทำหน้านวลทั้งวัน ผมควรจะทำอย่างไรดี
  • น้ำ

    26 มีนาคม 2546 19:56 น. - comment id 119041

    กวีกลอนครู......
    เสพอิ่มแท้...
    ขอชมครับ..
  • ม้าก้านกล้วย

    26 มีนาคม 2546 21:05 น. - comment id 119058

    อย่าง ม้า ก้านกล้วย เนี่ย ใครต่อใคร เรียก ลุงแล้ว
    ระดับ ท่านราม ลิขิต ต้องเป็น ปู่ แน่ ๆ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน