เหม่อมองดูสายน้ำในยามเหงา ไอเย็นเบาเหวงหวิวปลิวมาต้อง คลื่นกระแทกแตกกระเซ็นเป็นใยยอง เกิดเป็นฟองลอยล่องต้องผิวกาย ครั้นอาทิตย์ฉายส่องท้องนที ดุจดังมีดวงดาวพราวเฉิดฉาย ดังเกร็ดแก้วแพรวมณีที่เพริศพราย ส่องประกายสำแดงแสงสกาว ฝูงมัจฉาว่ายเวียนมาดูน่าชม เฝ้าภิรมย์เคียงคู่ว่ายใต้บัวขาว กุ้งกั้งก้อยลอยเต้นเป็นบางคราว นกขายาวยางน้อยคอยจับปลา ธรรมชาติกล่อมไพรวิไลลักษณ์ แจ้งประจักษ์จรรโลงไว้ให้คุณค่า เป็นภาพจินต์แก่ใจนัยนา ประหนึ่งว่าทิพย์วิมานม่านพงไพร ค่าความงามจักอยู่คู่ไพรพฤกษ์ ด้วยสำนึกเพียงนิดจิตฝันใฝ่ ป่าจะงามตามหวังดังฤทัย ดำรงไว้ด้วยสองมือถือร่มเย็น
11 สิงหาคม 2545 19:18 น. - comment id 66562
คือความงามในวันอันสงบ หวังได้พบสิ่งนี้ในเมืองใหญ่ แม้จะพบความร่มเย็นอยู่ในใจ ก็ยังไม่เท่ากวีที่เธอกรอง เพราะมากจ๊ะ.....
11 สิงหาคม 2545 22:28 น. - comment id 66581
ผมรักป่าเป็นชีวิตจิตใจ ทุกสิ่งที่พรรณามองเห็น ภาพแจ่มชัดในจินตนาการ เยี่ยมมากครับ
12 สิงหาคม 2545 08:36 น. - comment id 66641
เพราะมากค่ะ บรรยายได้เห็นภาพดีจังเลย
12 สิงหาคม 2545 15:25 น. - comment id 66695
ขอบคุณ....ตรามากนะ ขอบคุณ...พรระวีด้วยจ่ะ และก็ขอบคุณmonkiมากๆเลยจ้า
12 สิงหาคม 2545 18:07 น. - comment id 66720
^*^ ^*^ ^*^ ภาษางดงามจังเลย ^*^ ............................
18 สิงหาคม 2545 13:01 น. - comment id 68174
แนทจ๋า....ขอบคุณจ้า แล้วเมื่อไรจะได้อ่านของแนทบ้าง