ล่องลอยคล้อยตามสายลม ประคบประงมออกชมท้องฟ้า ก้าวเดินไปในกาลเวลา เสาะแสวงหาช่องว่างหัวใจ ท้องฟ้าสีคล้ำช้ำมาแต่ใหน เสียงร้องไห้ฟังหาไกลไกล เกล็ดน้ำตาแลบแปลบแปลบไวไว เสียงร้องไห้กลายเป็นเสียงคำราม หยดน้ำตาเริ่มพรั่งพรู เหมือนน้ำสายชูชู้รสนาม กรดกัดกินหัวใจไล่หล่าม มิได้ห้ามยามตากฝนจนแสบทรวง ไม่อาจลอยตามลมได้อีก ไม่อาจปลีกหลีกหลบคำลวง ฟ้าฝนทำกันจนหนักหน่วง ได้แต่ควงพวงความเหงาเร้าอุรา พอจะลุกยังเสียหลัก พอจะรักจะเสียน้ำตา พอจะรู้ว่าตัวไร้เสน่หา พอใจฟ้าเสียน้ำตาร่วมกัน
25 กรกฎาคม 2545 16:05 น. - comment id 62789
พอจะลุกยังเสียหลัก พอจะรักจะเสียน้ำตา พอจะรู้ว่าตัวไร้เสน่หา พอใจฟ้าเสียน้ำตาร่วมกัน เทคะแนนให้สุดๆเลยบทนี้
25 กรกฎาคม 2545 17:27 น. - comment id 62811
เห็นด้วยกะ ละอองน้ำ
25 กรกฎาคม 2545 19:44 น. - comment id 62829
ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คนชอกช้ำเพราะใฝ่ฟ้า
26 กรกฎาคม 2545 00:16 น. - comment id 62852
โหแต่งกลอนได้บรรยากาศมากเลยครับ นี่นึกภาพตามตลอดเลย ฝนตกแล้วก็เดินตากสายฝนมา อื้ม เศร้าด้วย ผมนึกไปถึงตอนสะดุดก้อนหินล้มด้วยอ่ะ แล้วก็ร้องไห้ตามสายฝน อื้ม เศร๊า เศร้า เป็นกำลังใจให้ครับ
26 กรกฎาคม 2545 02:06 น. - comment id 62881
เป็นหวัดหรือป่าวเนี่ย.... แต่งกลอนได้ดีจิงๆ
26 กรกฎาคม 2545 08:50 น. - comment id 62902
เหงด้วยกะ ละอองน้ำอีกคนจ้าาา เพราะมาก ^-^
26 กรกฎาคม 2545 20:57 น. - comment id 62968
โถ่ ตากฝนจนได้เป็นบทกลอน วันหลังไปยืนตากฝนมั่งดีกว่า เผื่อจะคิดกลอนออกกับเค้ามั้ง ^-^
28 กรกฎาคม 2545 17:34 น. - comment id 63408
ระวังฟ้าฝ่านะ^_^