ฉันเด็กชาย จนยาก ภาคอีสาน ต้องตรากตรำ ทำงาน อยู่บ้านไร่ ทะเลสวย ใสเย็น เป็นยังไง ไม่เคยเห็น ไม่เคยไป ไม่เคยดู คงจะสวย ด้วยคลื่น ระรื่นริ้ว ระลอกลิ่ว แรงไหม ไม่เคยรู้ ได้แต่หวัง ฟังเขาว่า มีปลาปู ตัวใหญ่กว่า ปลาทู ที่บ้านเรา เขาบอกมา ว่าเห็น เป็นเวิ้งว้าง มีอ่าวกว้าง แลลับตา กว่าคำเล่า คลื่นซัดสาด ร่ำร่ำ ค่ำยันเช้า มีโขดเขา เป็นเกาะกว้าง กลางทะเล ฉันไม่สนใจหรอก ที่เขาบอก ให้ฟัง ยังไขว้เขว ถ้าอย่างนั้น บ้านฉัน ก็มีทะเล มีลมเพ ลมพัด สะบัดใบ ทุ่งข้าว สีเขียว ก็ดูสวย เมื่อลมช่วยโบกโบย โรยลมไล่ เหมือนริ้วคลื่น ยืนดู อยู่ไกลไกล จะหวิวไหว แกว่งไกว ไปตามลม ยอดคลื่นมี เสียงครืน ครึกครื้นซ่า ท้องนา ก็สำเนียง เสียงขับขรม ทั้งกบเขียด อึ่งอ่าง ครางระงม ฟังแล้วกลม กล่อมใจ คล้ายคล้ายกัน ปูปลา ก็มี อย่างที่เล่า นกเขา กางเขน และไก่ขัน มาทดแทน นางนวล ชวนประชัน ก็เป็นนก เหมือนกัน ฉันมั่นใจ ถ้าเช่นนั้น ฉันไม่ สนใจอีกแล้ว ในทางแถว คันนา มาเดินได้ ดีกว่าล่อง ทะเลเล่น เป็นไหนไหน ทะเลลึก เกินไป ไม่กล้าลง (ม้าก้านกล้วย)
25 มิถุนายน 2545 08:08 น. - comment id 57527
เดี๋ยวจะต่อกลอนด้วย อยากเข้ามาบอกว่าให้แต่งกลอนวันกวีศรีสุนทรให้เจ๋งๆหน่อยพรุ่งนี้แล้วจะรออ่านนะ ขวัญยุ่งๆไม่รู้จะได้แต่งมั้ย.. รักและคิดถึง..ชอบม้าเวลาเขียนกลอนสไตล์ธรรมชาติชนบทที่งดงามใสซื่อ ชอบและรักมากเลยนะ
25 มิถุนายน 2545 08:33 น. - comment id 57529
ทะเลทองทุ่งรวงทองของนาข้าว มีเรื่องเล่ามากตำนานเกินขานไข มีกองฟางอาทิตย์ส้มสุกริมราวไพร มีตาลต้นใหญ่เคียงกันกับเถียงนา มีลีลาธรรมชาติยามลมพัดยอดข้าวไหว แสนซึ้งใจกบเขียดร้องประชันพริ้งพราวราวดนตรีป่า มีน้องนางแก้มเรื่อเอียงแก้มให้พี่ยา ท่ามกลางแสงตะเกียงริบหรี่ไม่เหว่ว้าอ้างว้างใจ มีน้ำพริกผักจิ้มริมบึงหนอง มียอดตองพัดตึงคลึงเคล้าไหว มีความรักพิสุทธิ์ใสกว่าสิ่งใด มีหัวใจของคนดีที่รักจริง.. มีมนต์เพลงลูกทุ่งตรึงใจกับฟ้ากว้าง ถึงนาร้างไม่ร้างใจนะยอดหญิง พี่อยู่นาห่างทะเลทีไกลยิ่ง ใจพี่นิ่งไม่เคยไขว่คว้าหาสุขที่แสนไกล เพราะพอใจพอเพียงในฟ้าสวย งามด้วยใจจินตนาพาหวามไหว ทะเลทองของผืนข้าวเลี้ยงชีวีของคนไทย ทะเลใจของพี่ที่ทุ่มเทด้วยภาคภูมิ.. ทุกหยาดเหงื่องามที่หยดหยาด หวังน้องกลับมาซับหยาดด้วยมือนุ่ม ถนอมใจถนอมรักโลกละมุน ใจอบอุ่นไม่หวังไกลไปทะเลที่ใครใครบอกว่าแสนจะเค็ม..และน่ากลัว! ทะเลรีบแต่งต่อนะ ไปคนละความหมาย..แต่สรุปคือว่ารักทะเลทองสุกปลั่งของผืนนาที่ยามลมพัด มาราวผืนกำมะหยี่คลี่คลุมด้วยสีทองสุกปลั่ง..ระบัด..ไหว..นะคนดี
25 มิถุนายน 2545 11:51 น. - comment id 57547
คนอิสานอย่างผมก็ ไม่ค่อยได้ไปทะเลเท่าไหร ชอบมากเลยครับบทนี้
25 มิถุนายน 2545 11:56 น. - comment id 57549
๏ ยลทุ่งข้าวน้าวไกวใบระบัด ทะยอยซัดสะท้านกอก่อคลื่นไหว กระเพื่อมพลิ้วทิวค่อยทะยอยไป ชลาลัยรึจะเทียบงามเปรียบปาน มรกตเขียวขจีสีสว่าง แพรวพรายพร่างเพียงแสงแสดงฉาน ก็เขียวใสเสมือนข้าวคราวลมพาน ไกวสะท้านสะท้อนสีอย่างที่ยล ๚ ๛ ================================ เคยไปนั่งดูทุ่งนา .... เหมือนทะเลจริง ๆ ครับ
25 มิถุนายน 2545 12:46 น. - comment id 57553
มองซิมองทะเล เห็นคลื่นลมเห่จูบหิน แต่...ชาวประมงต้องซื้อข้าวกิน หากทะเลยังไม่สิ้นปูปลา ทั้งสร้างเขื่อนสร้างท่อปิโตเลียม จนแล้วไม่เจียมยังบ้า ทะเลแฝงผลประโยชน์และน้ำตา อีกทั้งโรงไฟฟ้าคอยราวี ทะเลไทย สวย และแพง หลายคนหวังเขมือบอยู่
25 มิถุนายน 2545 14:45 น. - comment id 57569
เพราะดีๆ กรุงเทพก็ไม่มีทะเลนะ ตอนเด็กๆ เราชอบนอนกลับหัวแล้วคิดว่าฟ้าเป็นทะเลอ่ะ
25 มิถุนายน 2545 23:17 น. - comment id 57648
ชอบเดินตามคันนา สบายดีค่ะ สวยด้วย
25 มิถุนายน 2545 23:53 น. - comment id 57660
ทะเลลึกเกินไป ไม่กล้าลง.... แต่ถ้าตื้นแบบคันนา พี่ม้าจะว่ายท่าผีเสื้อได้หรอคะ กิ๊กิ๊ ^-^