๏ ยอ-กลีบเหยียดก้านซับ .... หยาดชล
ยั้งรับอาบแสงยล .... ระยิบย้อม
ขจรกลิ่นขจายจน .... โชยกรุ่น ทั่วฮา
ละเมียดละไมล้อม .... ร่ำพื้นไพรสณฑ์
๏ ภู่คลึงผึ้งคลุกเคล้า .... เกสร
บินว่ายร่าย-วน-จร ....ตรลบฟุ้ง
เสพมธุรสตอน .... แต่รุ่ง อรุณเนอ
ปีกกระพือพร่างรุ้ง .... ประดับหล้าโลมสนาน
่
๏ ผกาคู่ภู่ผึ้ง .... ปฏิพัทธ์
ดุจนุชสุดกำดัด....จริตจะก้าน
พราวเสน่ห์เล่มัด .... โลมสวาท หมายนอ
เริงล่อสัตว์ผู้ส้าน.... มุดซ้อนซุกชม
๏ ถ้วนกลีบเด่นดอกเกลี้ยง.... เกลาพิสุทธิ์ แท้เฮย
สะอาดหอมประดุจ .... แต่งหล้า
ประทิ่นกลิ่นเริงรุจ.... จรุงโรจน์ แรงเนอ
จักดอกดินดอกฟ้า.... ประดับให้โลกสวย
๏ สุคันธชาติล้วน .... แลหมาย
กำเนิดจวบวางวาย....เหี่ยวสิ้น
ย่อมยังอยู่ต้นปลาย....วงชีพ
ดับสลายตายดิ้น ....บ่ได้จีรัง
๏ ยังกลิ่นหอมย่อมแห้ง .... เหือดจาง ดอกนา
สิ่งแน่แส่นับวาง ..... สถิตย์ไว้
ก่อพฤติการกาง .....บันทึก กรรมนา
จึงบ่หายลบให้ .... ช่วยชี้ผ่านผล ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖
๐ ร่ำร่ำกลิ่นดอกไม้ระรื่นแล้ว กำหนดจมูกสูดดมจึ่งรับรู้แห่งกลิ่นหอม ...ข้าพฯเจ้า ชื่นชอบนัก ดอกการเวก
หลับตากลิ่นยังอวล คล้ายกำลังนอนหลับอยู่ใต้ดงไม้อันสงบ..อา สุขยิ่งยามยล กลิ่นการเวก....