ย่ำรุ่งสุริยาลืมตาแล้ว นกกาเจื้อยแจ้วอยู่แว่วหวาน ดาวเดือนเกลื่อนฟ้าราตรีกาล ก็หยุดการสาดส่องท่องราตรี แดดเช้าย่ำเช้ามาช้าช้า หยอกเย้ายอดหญ้าลดาสี น้ำค้างพร่างพราวราวมณี ติณชาติปฐวีก็ปรีดา ย่ำสายพรายพรับพะยับแดด ก็หมายแผดสาดแสงอยู่แรงกล้า อาทิตย์เกรี้ยวกราดกวาดสายตา เป็นลำแสงเจิดจ้าทิวาวัน น้ำค้างพร่างพรายสลายร่าง ทิ้งยอดหญ้าอ้างว้างระหว่างนั้น ลมร้อนร่ายร้อนมากำนัล ดุจจะหยันเยาะอุษาทิพย์วารี ยามบ่ายข่ายแสงก็แรงฤทธิ์ พระอาทิตย์เจิดจ้ารัศมี โลกร้อนสะท้อนขุมอเวจี ทุกเวลานาทีก็เดือดดาล ปุปผชาติซบกายอยู่ปลายกิ่ง หมดแล้วทุกสิ่งเคยหอมหวาน เหี่ยวแห้งกลีบกลายวายปราณ ร่วงหล่นลับกาลเวลา ยามเย็นตะวันรอนอ่อนแสง สุริยาล้าแรงลับเหลี่ยมผา คืนค่ำย่ำคืนก็ฟื้นมา เดือนดาวเจิดจ้าแจ่มราตรี ลมโชยพัดโชยมาอ่อนอ่อน โลกร้อนผ่อนร้อนได้สุขี คืนค่ำผ่านค่ำมาย่ำยี เช้าอีกที...กี่นับ กี่กัปกาล...
14 พฤศจิกายน 2555 03:07 น. - comment id 1250882
อารมณ์คล้ายๆกันเลยนะเจ้าคะ สวัสดีเจ้าค่ะ
14 พฤศจิกายน 2555 09:20 น. - comment id 1250894
เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ เช้า-สาย-บ่าย-เย็น กีกัป กี่กาล
14 พฤศจิกายน 2555 10:14 น. - comment id 1250898
นมัสการขอรับ วันศุกร์นี้กระผมจะลงไปสุราษฏร์ฯ ไม่ทราบว่าจะไปกราบนมัสการที่วัด ท่านมหา จะอยู่หรือไม่ขอรับ
14 พฤศจิกายน 2555 16:50 น. - comment id 1250907
บ่ายนี้ฝนตกเจ้าค่ะ
15 พฤศจิกายน 2555 00:53 น. - comment id 1250950
ถึงอย่างไร ก็จะเป็นอยู่เช่นนั้น ทุกสิ่งอันมันเกิดดับลับสลาย มีผกผัน มั่นตนกูอยู่ทำไม ? มันเป็นไปเฉกเช่นนั้น ทุกวันคืน ! วัฏจักรสุดจักขืน ..อย่าฝืนมัน คารวะเจ้าบ้าน งานงาม..