ในยามสาง สว่างฟ้า นภาผ่อง พระพายต้อง ละอองเนื้อ เจือความหนาว น้ำค้างไพร ไหวลม พรมหยาดพราว เลือนแสงดาว ริมฟ้า ยามคลาไคล บุปผาพรรณ อวดช่อใบ ไหวสะอ้าง โค้งฟ้ากว้าง ทาบแสงทา ริมฟ้าใส วิหคอ่อน นอนรัง หวังอุ่นไอ ท่ามเพลงไพร แม่นก กกกล่อมนอน ณ ลำธาร มาลาพวง ปลิดร่วงหล่น ไหลระคน เอื่อยเซาะ เลาะริมขอน มาลีไพร ไหวช่อ ล้อภมร คล้ายอาวรณ์ อาลัยหวาน คราวผ่านชม ชนีคราง โหยหวล ครวญในอก สั่นระทก ห่างชู้ ไม่สู่สม ได้แต่โหวย หวีดว้าง ครางระงม โอดระทม ซ่อนเร้น ไม่เว้นวาง ในยามสาง สว่างฟ้า นภาผ่อง เธอฉันต้อง ห่างตา ดุจฟ้าขวาง อีกเมื่อไหร่ สองคน บนเส้นทาง ฝันไม่จาง เคียงใจ ดั่งใฝ่รอ ทิพย์โนราห์ พันดาว
8 ตุลาคม 2553 19:01 น. - comment id 1161197
กวีหวาน..หว่านถ้อยดั่งอ้อยขวั้น ยังหวาดหวั่นพันดาว..เล่นเอาท้อ มิอาจดึงเดือนตกแค่ยกยอ ก็มากพอเพื่อผู้..ที่อยู่ดิน ได้แต่จ้องมองดูแอบชู้ชื่น กวีลื่นไหลโอษฐ์เซาะโขดหิน เพียงกระเซ็นเป็นระยะช่างระริน แค่ยลยินเสียงลำธารก็หวานเกิน .............................
8 ตุลาคม 2553 20:13 น. - comment id 1161202
ไพเราะมากค่ะ ทำเอาเพลินเลยอ่ะ
9 ตุลาคม 2553 07:30 น. - comment id 1161235
คิดถึงค่ะ หายไปนานนะคะ
9 ตุลาคม 2553 14:49 น. - comment id 1161287
สมหวังไวๆนะคะ
10 ตุลาคม 2553 19:05 น. - comment id 1161440
ดี ดี จร้า
13 ตุลาคม 2553 10:56 น. - comment id 1161746
ดี ดี ครับ.