ชีวิตสาวชาวนากลับมาบ้าน เขียนตำนานเถียงนาศาลาเขียว เมื่อหมดช่วงเกลียวกลมถือคมเคียว ข้าวแห้งเหี่ยวเกี่ยวขายก็ไม่พอ ยังต้องเริ่มพรวนไถเอาไว้หว่าน มรสุมผ่านข้าวไม่ขึ้นสะอื้นต่อ เริ่มหากล้ามาชำนาดำรอ ก่อควันคลอไล่ตัวให้วัวควาย หอมกลิ่นดินไฟฟืนวานซืนตัด พอว่างจัดไฝ่ปอกตอกเส้นสาย สานชะลอมตะกร้ากระบุงกระบาย เล่นลวดลายสานเสื่อไว้เผื่อนอน จำกลิ่นดินถิ่นนาศาลาพัก ลืมเรื่องรักเหลวไหลที่ใครหลอน ยังเหมือนเดิมดาวจันทร์ตะวันรอน ที่ขาดตอนคือข้างแคร่เหลือแต่เรา
11 กันยายน 2553 18:49 น. - comment id 1155584
อารมณ์เหงาเกิดขึ้นได้เสมอครับ สิ่งเร้าที่เป็นเหตุแห่งเหงามีมากมายนะครับ ทำงานมากๆเข้าก็เหนื่อย อยู่กับเพื่อนร่วมงานก็เบื่อๆ อยู่ลำพังก็เหงา.... ก็คงต้องอยู่ต่อไปนะครับ คนที่เรารู้สึกคลายเหงาเมื่ออยู่ด้วย เขากลับรำคาญเราซะ... เหงาอีกแล้วครับ
11 กันยายน 2553 20:54 น. - comment id 1155591
ช่างเหงาซับเหงาซ้อนนะกลอนบ่น กับผู้คนบางทียิ่งขี้เหงา อยู่คนเดียวสุขกายแบบไร้เงา ลมบางเบาเงาจันทร์แบ่งปันพอ มีกระต่ายในจันทร์ให้ฝันถึง ช่างซาบซึ้งกว่าคนที่บ่นขอ คอมฯเป็นเพื่อนเดือนดาวพะเน้าพะนอ ไร้คนรอ..เคียงข้างก็ชั่งใจ
11 กันยายน 2553 23:47 น. - comment id 1155635
เพราะมากเลยครับคุณบูมเบอแรง
12 กันยายน 2553 00:11 น. - comment id 1155637
มีใครชมว่าไพเราะเคาะกะลา มีชีวิตชีวามากรู้ไหม? คนเขียนกลอนอ้อนเพื่อมีเยื่อใย เมื่อมีใครมาซ่านก็ซ่านทรวง ขอบคุณ คุณสุริยันต์ ค่ะ
12 กันยายน 2553 11:45 น. - comment id 1155747
มองเห็นแคร่ปูเสื่อไม่เหลือใคร ท้องทุ่งนาแลไกลระบัดเขียว แดดทอแสงฟ้าโปร่งโค้งรวงเรียว กระพรวนคอควายเปลี่ยวดังกังวาน กลับบ้านเถิดสาวนาอย่าหลงกรุง กลับมานุ่งผ้าถุงช่วยไถหว่าน หาลูกอ๊อดสวิงช้อนนอนเสื่อสาน ชมดาว,จันทร์สำราญกันสองคน... กลิ่นดินโชยมาไร ๆ
13 กันยายน 2553 13:13 น. - comment id 1155861
ข้าวนาน้อยคอยเคียวมาเกี่ยวกก หญ้าชึ้นรกก่อนนี้เพราะมีฝน หอมไอดินกลิ่นนาประสาจน ถ้าพี่ทนอยู่ด้วยเราช่วยกัน แม้นเหนื่อยนักพักผ่อนนอนขนำ น้องขยำนวดเหนียมเหมือนเรียม-ขวัญ จะร่ายกลอนอ้อนฝากฉากอัศจรรย์ เพื่อกดดันให้อยู่..สู้นานนาน (แบบว่า..จะลงถั่ว ข้าวโพด ต่อหลังเกี่ยวข้าว...ทำไหวแน่นะคะ)
14 กันยายน 2553 19:59 น. - comment id 1156133
อ้าว พี่น้องอิสานเฮาตี้ ดีใจหลายเด้มีพี่น้องอีกแล้ว
14 กันยายน 2553 21:41 น. - comment id 1156181
พี่เป็นคนเอวอ่อนร่างอ้อนแอ้น แต่ก็ยังมาดแมนเพื่อนเล่าขาน เรื่องน้ำอดน้ำทนฝึกเชี่ยวชาญ จะให้นานสองนานคงเต็มกลืน ทำเพื่อน้องปองรักขมักเขม้น จำต้องเน้นเต็มที่ไม่มีฝืน ปลูกข้าวโพดถั่วงาพายั่งยืน ยังใจชื้นเมื่อน้องมาครองเคียง งานเบื้องต้นซ่อมแซมหลังคาเสา เพราะสองเราอาศัยใช้บนเถียง เกรงลำหักลำโค่นจะโอนเอียง เดี๋ยวจะเดี้ยงเถียงพังนั่งตาลอย จะทำนาหญ้ารกขึ้นปรกมิด ต้องเตรียมมีดเตรียมพร้ามาใช้สอย ช่วยกีนถากช่วยกันถอนไม่นอนคอย หญ้าเหลือน้อยข้าวดีมีรวงงาม อิอิ ฝนดีดินดีไถง่าย ถ้าฝนแล้งดินแข็งผานหักสู้ไม่ไหวต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ
15 กันยายน 2553 05:33 น. - comment id 1156220
พี่หลงรักกลิ่นดินถิ่นนาลุ่ม ฝนโชกชุ่มหว่านไว้น้องไม่ห้าม แต่ข้าวขึ้นว่างเว้นไม่เป็นตาม ต้องช่วยดามอุ้มกล้าก้มหน้าดำ จากนาหว่านเป็นนาดำน้องทำบ่อย ต้องช่วยสอยช่วยเสริมประเดิมจ้ำ เคยเท้าเปล่าดำรัวหัวขมำ ไม่เคยจำดินดูดต้องหยุดรอ เหนื่อยแสนเหนื่อยอยากพักแต่รักพี่ ช่วยน้องซี่จะได้เสร็จสำเร็จต่อ พรุ่งนี้เช้าเก็บเห็ดถ้าเด็ดพอ บ่ายตัดหน่อทำหมกอีกยกนึง พักเถอะพี่ดีจังค่อยยังชั่ว ถ้าปรับตัวทำไหวก็ใจถึง ไร้แสงสีศิวิไรซ์....ใช่ฉุดดึง พี่กลมกลึงกลืนกล้ำหรือทำใจ? อิอิ..บูมเพิ่งไปเที่ยวหนองคายมาเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ..ไปอยู่มา11 วัน ไม่อย่างงั้นมุกพี่แป๊กแน่... ..ชอบคุณที่เสริมส่งค่ะ
15 กันยายน 2553 14:50 น. - comment id 1156300
เรื่องอุ้มกล้าดินดูดหรือขุดหน่อ พี่ไม่ท้อใจป้ำพอทำได้ แต่เก็บเห็ดมิให้ช้ำเขาทำไง ช่วยสาธิตหน่อยไหมเพื่อเป็นครู มีเห็ดขอนเห็ดโคนดอกอวบอ้วน ถ้าน้องชวนเก็บไหวเพราะใจสู้ กล้าขึ้นเขียวเกี่ยวก้อยคอยจับปู มันชอบหนีลงรูจับไม่ทัน.. ปูนา ชอบทำลายต้นข้าวขึ้นใหม่ ต้องคอยจับมาทำน้ำปูคลุกข้าว ตำส้มตำ
16 กันยายน 2553 16:39 น. - comment id 1156522
คารวะท่านพี่มีใจสู้ ด้วยเชิงชู้แน่นหนักรักขยัน แม้เรื่องปูรู้ดีพี่ไม่ทัน อย่าดึงดันหนีบเหน็บให้เจ็บจัง เรื่องเก็บเห็ดเด็ดดีทีละดอก ไว้เผื่อออกโรมรันในวันหลัง อย่าเหยียบย่ำช้ำทั่วรัวเสียงดัง คนแอบฟังรู้ว่าดี..อย่ารีรอ ทุกเช้ามืดสองคนต้องด้นเงียบ อย่าเอาเปรียบนอนดึกแล้วนึกท้อ ยำเห็ดโคนโดนแน่เก็บแค่พอ อย่าเคล้าคลอดุ่มเด็ดจนเห็ดบาน พรุ่งนี้ค่อยมาเก็บต่ออย่าท้อนะ เป็นระยะระยะอย่าคละคร้าน ถ้าใครรู้ดูออกบอกประจาน ทั่วทุ่งลานเหยียบย่ำเห็ดดำดิน ..เริ่มจะหมดมุก..ขอบคุณที่สอนสั่ง..แบบหยั่งลึก..
24 พฤศจิกายน 2553 20:49 น. - comment id 1170450
ต่อกร.ท่านนักสืบ ฉันเดินทางมาไกลมิได้พัก ผ่านลมรัก.ลมร้าว จนหนาวสั่น เห็นศาลาอาศัยรู้ไม่ทัน ทั้งแมลงวันแมลงวี่แถมมีแตน เหมือนลำธารไหลรินแว่วยินเสียง เปลี่ยนเป็นเถียงเอียงท่าดูว่าแค้น มีชิงรักหักสวาทแย่งมาดแมน ละครแฟนช่องเจ็ดช่างเอ็ดอึง ผมถอยหลังหลายก้าว..จึงเข้าบ้าง อารมณ์ว่างแหว่งเว้ากลัวเค้าซึ้ง เลยเขียนกลอนลูกผสม..ไม่กลมกลึง อยากทะลึ่งทะเล้น..ก็เว้นลง เหมือนผูกเปลทิ้งไว้ในขนำ เช้า-บ่าย-ค่ำ-เวียนวนเหมือนคนหลง ถ้าเห็นใครพักผ่อน..มาอ่อนองค์ จะรีบตรง..มาไคว..คนในเปล อยากให้เธอ..แวะกลับ..มาหลับบ้าง อย่าทิ้งร้าง..เถียงน้อย..เหมือนร้อยเล่ห์ ด้วยคนรอ..ร้อนลุ่ม..อยากทุ่มเท ฉันอยากเฮ..อยากฮา..ภาษากลอน ท้องนาเราลงกล้า..ห้าเดือนก่อน เก็บรวงอ่อน.รอเคียว.มาเกี่ยวฟ่อน ลืมกลิ่นดิน-ถิ่นนา..เคยอาวรณ์ เหมือนตัดทอน..หัวใจ..เมื่อไกลกัน .....ไม่ทราบว่า.นอกเรื่องไปหรือเปล่า?.ก็คิดถึงจนเพ้อ.ครับท่าน