ลมโชยลมพลิ้วแปลกสายลมปลิว...ใบไผ่ ดวงจิตดวงใจดวงนี้ดวงเดิม...สลาย คนเคยคนรักคนนี้คนเดิม...รักง่ายลืมดาย ...ใบไผ่งมงายแตะสายนที... ลอยแกว่งลอยไกวฝ่าสายน้ำไป...ไหลหลาก ลาก่อนลาจากลาไม้ลำเดิม...หลีกหนี ...ใบไผ่...ใบนั้น...ปลายฝันมากมาย...เต็มห้วงฤดี จึงหลีกจึงลี้ทิวไม้ชายคา น้ำค้างรินหยดร้างรดไผ่รอ วันหนึ่งคงพอเรียกฟื้นธารเดิม...กลับหา น้ำคงไหลกลับรับธารน้ำตา ใบไผ่เคยลา...คืนแล้วเคียงลำ? ลมโชยลมพลิ้วแปลกสายลมปลิว...ลอยผ่าน สายน้ำลำธารไม่หวนกลับซ้ำ คนเคยคนรักคนนี้คนเดิม...เหลือภาพทรงจำ ใบไผ่ลอยลำแรมร้างทางจร หนาวลมผ่านเลยพัดผ่านใจเอย...โบยโบก กิ่งไกวไหวโยกโศกกอสะท้อน โค้งกอดกอฝันดัง...นิรันดร ดวงใจร้าวรอน...มิเคย...ร้างเลือน .............ลับลา............
28 สิงหาคม 2553 12:31 น. - comment id 1153318
ไผ่หวิวพริ้วแผ่ว แพรวใบพราวพร่าง หนาวลม,น้ำค้าง..หนาวอย่างเหน็บขวัญ ใบไผ่ลอยคว้าง หมุนร่างร่วงพลัน ติดปีกโบยผัน ฝันลับดับดวง ทิวไผ่ล้อลม เคยชม เคยชื่น เธอไม่หวนคืน ฝืนเศร้า เฝ้าหวง ลมเคยโลมไล้ หรือใครเฝ้าลวง ทิ้งดาวพันดวง ให้ร่วงลงดิน.... พี่ใบไม้ ทำไมเขียนกลอนเศร้าจังคะวันนี้...ดูซิ ทำแซมเศร้าไปด้วยแระ..... เดี๋ยวแซมเลี้ยงกาแฟนะ.... มะขิ่น De Calif.
28 สิงหาคม 2553 17:52 น. - comment id 1153344
ไพเราะมากค่ะ ทั้งของคุณกระบี่ใบไม้ และของคุณแซม ขอถามเป็นความรู้นะคะ เป็นร้อยกรองอะไรคะ?? อ่านแล้วประทับใจในเนื้อหา และการเล่นคำค่ะ
28 สิงหาคม 2553 19:36 น. - comment id 1153356
ตอบ มะขิ่น ก่อนนะจ๊ะ.... โอ้ พี่ใบไม้ต้องขออภัยด้วยจ้า ที่ทำให้มะขิ่น พลอยเศร้า มันเป็นแค่อารมณ์ของบทกวีเฉยๆ จ้า ไม่ใช่ชีวิตจริงของพี่ใบไม้ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะจ๊ะ ตอบคุณ วลีลักษณา ขอบคุณครับสำหรับคำชม(ตาใบไม้ยิ้มแก้มปริไปถึงใบหู) จริงๆแล้วบทร้อยกรองบทนี้ ไม่น่าจะจัดอยู่ในประเภทอะไรได้ครับ ถ้าจะเป็นได้อย่างเดียวก็คือเนื้อเพลง พอดีผมนั่งว่าง ๆ คิดถึงทำนองอะไรบางอย่างขึ้นมา ก็เลยประพันธ์บทร้องกรองนี้ให้เป็นเมโลดี้ของบทเพลง(แต่เป็นบทเพลงที่สามารถอ่านเป็นบทกวีได้ด้วย) รูปแบบมันจึงแปลกๆ อย่างที่เห็น ดังนั้นใครอย่าเอาไปอ้างอิงทางวิชาการโดยเด็ดขาดนะครับ(คนเขียนยิ่งเพี้ยน ๆ อยู่ด้วย 555555555555) เห็นด้วยกับบทกลอนของคุณแซม(มะขิ่น)ว่าไพเราะจริงๆ ส่วนจะเป็นบทกลอนประเภทอะไรนั้น ต้องตามคุณแซมมาเล่าแจ้งแถลงไขอีกที นะครับ ปล.อย่าลืมแวะมาอ่านผลงานของผมบ่อยๆนะครับ
28 สิงหาคม 2553 19:52 น. - comment id 1153358
ขออภัย มีการแก้ไขในช่วงท้ายๆ นิดหน่อยขอรับ
29 สิงหาคม 2553 05:43 น. - comment id 1153396
อ้าวคะ พี่ใบไม้...มาโยนแปะให้มะขิ่นได้ไง.. ขอบคุณค่ะคุณวลีฯ แซมเห็นด้วยว่า บทกวีของพี่ใบไม้ ไพเราะ และลุ่มลึก... ของแซมเขียนขึ้นมาเหมือนถูกมนต์สะกด....ไม่ทราบว่า เขียนออกมาแต่เมื่อไหร่....แบบว่ามีดินสออันทู่ๆ กับสมุดอยู่ในมือ....ก็ลื่นไหลมาเอง... แซมเคยฟังว่า ศิลปินอย่าง Bob Dylan ซึ่งเขียนบทเพลงแห่งชีวิตได้อย่างไพเราะ...พูดว่า การเขียนบทเพลงของท่าน เป็น magic ซึ่งเกิดขึ้นมาเอง โดยไม่ได้บังคับ... แซมมิบังอาจจะไปเทียบเคียงท่าน.. แต่เข้าใจความรู้สึกว่า มันเป็นยังไงนะคะ... กลอนบทนี้ แซมเขียนตามอารมณ์ของพี่ใบไม้ แซมเลยไม่ทราบว่า มันเป็นแบบแผนหรือเปล่า..ไม่ได้คิดด้วยซินะคะ.. พอคุณวลีฯถาม แซมถึงมานั่งอ่านดู แล้วคิดว่า สงสัยพี่ใบไม้ เขียนกลอนเปล่าของเซ็น.... ด้วยประการฉะนี้ค่ะ....รักนะคะ และขอบคุณที่ชอบค่ะ... แซม
29 สิงหาคม 2553 09:55 น. - comment id 1153431
เพราะมากครับท่านจอมยุทธ์
29 สิงหาคม 2553 10:39 น. - comment id 1153439
สวัสดีคะ คุณกระบี่ใบไม้ เพราะจัง...
30 สิงหาคม 2553 12:51 น. - comment id 1153648
บทกลอนที่เขียนจากห้วงลึกของอารมณ์จะงดงามค่ะ วลีอ่านอยู่หลอยรอบ กว่าจะเม้นท์ "ลอยแกว่งลอยไกวฝ่าสายน้ำไป...ไหลหลาก" อย่างวรรคนี้ วลีเห็นภาพอาการของใบไผ่ที่ลอยในน้ำ เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้สึกของคนเขียน ก็เหมือนจะเห็นอาการเคลื่อนไหวของอารมณ์ สรุปว่าชอบค่ะ ส่วนของคุณแซมมีวรรคทองเยอะเลย โดยเฉพาะ "หนาวลม,น้ำค้าง..หนาวอย่างเหน็บขวัญ ใบไผ่ลอยคว้าง หมุนร่างร่วงพลัน .......ทิ้งดาวพันดวง ให้ร่วงลงดิน." ชอบค่ะ