"เพลง..ปี่ใบไม้"

คนกุลา

.
หยิบเพลงปี่ใบไม้หมายมาฝาก
เป็นเพลงจากคนรักป่ามาฝากขวัญ
มธุรสร่ายผ่านม่านแสงจันทร์
ในคืนวันที่ต้องพรากจำจากไกล
เสียงใบไม้ใบไหนที่ได้เป่า
ดังเสียงเล่าล่วงแคว้นสุดแดนไหน
เป็นเพลงปี่ใบไม้ร่ายแทนใจ
คลอหรีดหริ่งเรไรในป่าดง
กลางคืนค่ำจันทร์ร่ำฟ้ามาพร่างผ่อง
ใจลอยล่องอิ่มดวงสรวงสร้อยสรง
ให้เทพทิพย์เพียงผ่านพิมานพง
ที่เคยหลงพงไพรจับใจนวล
หมู่แมกไม้สร้างใบไว้รับแสง
คนกลับแปลงมาสร้างโศกวิโยคหวล
สรรค์สร้างปี่ใบไม้ได้คร่ำครวญ
ปิ๊ดปี่หวลถึงเจ้าคราวอยู่ไกล
เป็นเพลงปี่ใบไม้ชายชาวบ้าน
วิเวกหวานวี่วับจับเสียงใส
สะท้อนเสียงสำเนียงร่าจากป่าไพร
เป่าผ่านใบบางไม้ร่ายลำนำ
อาจไม่รื่นไพเราะเสนาะเสียง
หากฟังเพียงร่ายหัวใจรินไหลร่ำ
เป่าออกปากจากใจใส่น้ำคำ
ลึกหวานล้ำอารมณ์ศิลป์ดินแดนดง
เป็นเพลงปี่ใบไม้ชายคนยาก
หวังจะฝากหัวใจยังไหลหลง
พร้อมกับความภักดีที่ซื่อตรง
ขอนางจงอย่าหน่ายปี่ไม้ใบ
.
..........				
comments powered by Disqus
  • ภาสุรีย์

    10 พฤษภาคม 2552 17:59 น. - comment id 982316

    ....อาจไม่รื่นไพเราะเสนาะเสียง
    หากฟังเพียงร่ายหัวใจรินไหลร่ำ
    เป่าออกปากจากใจใส่น้ำคำ
    ลึกหวานล้ำอารมณ์ศิลป์ดินแดนดง
    
    เป็นเพลงปี่ใบไม้ชายคนยาก
    หวังจะฝากหัวใจยังไหลหลง
    พร้อมกับความภักดีที่ซื่อตรง
    ขอนางจงอย่าหน่ายปี่ไม้ใบ
    --------------------------------
    
    ๐ น้องได้ยินสิ้นเสียงนี้ปี่ใบไม้
    ของพี่ชายร่ายรินกินใจหมาย
    พ้องสำเนียงเสียงปี่เป่าเร่งเร้าใจ
    เคลิ้มคำชายสายสำเนียงแห่งเสียงกลอน
    
    ๐ เสนาะโสตจากโอษฐ์พี่รี่ไหลลื่น
    จิ้งหรีดฝืนกลืนเสียงไว้ไม่กล้าอ้อน
    เจ้าเรไรอายเสียงปี่ที่เว้าวอน
    สดับกลอนผ่อนชีวีเสียงปี่พรม
    
    ๐ ต้อยตะริดติ๊ดตี่เสียงปี่แว่ว
    ดังแผ่วแผ่วแผ้วผ่านซ่านประสม
    กับสำเนียงเสียงพี่เคยเอ่ยเชยชม
    ว่าน้องสมสวยเลิศเพริดต้องตา
    
    ๐ มาวันนี้ยินเสียงปี่พี่อีกแล้ว
    น้องมิแคล้วให้หลงเพ้อละเมอหา
    เสียงปี่ดังก้องจากใจในพนา
    หลับนิทรา..คราเพลงปี่กล่อม...ถนอมใจ
    
    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
    
    จาก ภาสุรีย์ คนขี้กวนใจค่า พี่ชาย  กลอนคุณพี่ไพเราะจังเลย ทำให้น้องคันไม้คันมืออดไม่ไหวต้องร่วมแจมค่า  ขอบคุณค่ะ อย่าเบื่อน้องนะคะ
  • ทิพย์โนราห์ พันดาว

    10 พฤษภาคม 2552 18:31 น. - comment id 982324

    ถ้ากลอนเป็นของเรา ก็คงดี....แต่ไม่ใช่ แต่ไม่เป็นไรหรอก มันเพราะจน ทำใจไม่ไหว5555
    อ่านไปซึ้งไปคนอาไร้ โรแมนติคเน๊าะแอบอิจจ
    แอบอิจฉาคนข้างๆซะแล้วอิอิแวะมาเยี่ยมค่ะ1.gif9.gif36.gif
  • คนกุลา

    10 พฤษภาคม 2552 19:23 น. - comment id 982337

    ในท่ามหมู่ผู้รักสวนอักษร
    สร้างกาพย์กลอนโคลงฉันท์นั่นมุ่งหมาย
    มีเพื่อนผองร่วมทางสร้างคำคาย
    เหมือนดังได้ใกล้ชิดสนิทนาน
    
    มีหรือที่จะรำคาญการคบหา
    ร้อยอักษราภาษากลอนเว้าวอนหวาน
    เชิญมานี่ที่ทิพย์หยิบวิมาน
    ร้อนกรองกานต์สร้างโลกสวยด้วยกวี
    
    .
    ขอบคุณที่มาเยี่ยมและแจมกลอน ครับ
    คุณน้องภาสุรีย์  1.gif36.gif
  • คนกุลา

    10 พฤษภาคม 2552 19:27 น. - comment id 982338

    กลอนเมื่อเขียนไปก็หวังให้เป็นของทุกคน นะครับ คุณทิพย์โนราห์  ดีใจที่ชอบ ครับ และขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่มาเยี่ยมเยียน กัน
    ครับ  36.gif1.gif36.gif
  • ราชิกา

    10 พฤษภาคม 2552 19:31 น. - comment id 982340

    **  ฟังเพลงปี่  ใบไม้  ชายคนยาก
    ด้วยจะฝาก  หัวใจ  ให้ห่วงหา
    ร้อยลำนำ  แผ่วพริ้ว  ลอยลิ่วมา
    ดุจสัญญา  เพลงไพร  หัวใจคอย.........ฯ
    
    เพลงปี่ใบไม้..เคยฟังสมัยเมื่อยังเป็นเด้กค่ะ...ไพเราะมาก..คุณตาข้างๆบ้านเป่าให้ฟัง..ชอบฟังมาก..ไปนั่งคอยให้ท่านเป่าให้ฟัง..โดยมีรางวัล..ให้ท่านหอมแก้มเพลงละ 1 ครั้งค่ะ..โดนไปหลายฟอดเหมือนกัน...จำได้ฝังใจก็เพราะปี่ใบไม้นี่แหล่ะค่ะ....
    
    
    36.gif44.gif36.gif
  • กันนาเทวี

    10 พฤษภาคม 2552 19:56 น. - comment id 982357

    เพลง ดนตรีเป็นภาษาสากล
    ของชนทุกชั้น  ทุกเพศวัย
    สื่อกันได้ด้วยท่วงทำนองไพเราะ
    
    11.gif
  • คนกุลา

    10 พฤษภาคม 2552 20:11 น. - comment id 982369

    คุณราชิกา ครับ ผมเพิ่งไปฟังมาจาก   การเป่าของผู้นำชาวบ้านที่ อ .กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธิ์
    เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ป่าชุมชน  ด้วย  เป็นเพลงปี่ใบไม้ที่ผูกเนื่องอยู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้
    ยิ่งทำให้เพลงใบไม้นี้แสนงามงดมากยิ่งขึ้นในใจผมจนต้องเขียนกลอนให้เขา ครับ
    
    ชายคนนี้ ก็คงเหมือนคุณตาข้างบ้าน  คุณราชิกา สำหรับเด็กๆจำนวนมากที่ไปรับฟังการบรรยายของเขาเรื่องการอนุรักษ์ ป่าชุมชนพร้อมเป่าปี่ใบไม้ให้เด็กๆเหล่านั้นฟัง
    
    ทำให้งานอนุรักษ์ สวยงามด้วยงานศิลป์แซม ครับ
    
    36.gif1.gif36.gif
  • คนกุลา

    10 พฤษภาคม 2552 20:13 น. - comment id 982374

    ใช่ครับ คุณกันนา  สื่อกันด้วยภาษาสากล
    ผ่านสะพานจินตนาการ สู่สุนทรีย์แห่งอารมณ์และหัวใจ  ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ  36.gif1.gif36.gif
  • กุ้งก้ามกราม

    10 พฤษภาคม 2552 21:14 น. - comment id 982438

    แวะมาฟังเพลงปี่ใบไม้ที่ไพเราะครับ    ชื่อคนกุลาคล้ายๆกุ้งกุลาเลยนะครับ 555
  • กิ่งโศก

    10 พฤษภาคม 2552 21:23 น. - comment id 982446

    ..มาสดับ รับลำนำ ปี่ใบไม้
    .ครวญพริ้วไป..สายลม  พลิ้วแผ่วผ่าน
    คีตบรรเลง เพลงเศร้า   เร้าดวงมาลย์
    เพียงขับขาน  ผ่านเสียง สำเนีบงไพร..
    
    ..แวะมาเยี่ยมครับ
  • ม่านดอย

    10 พฤษภาคม 2552 21:38 น. - comment id 982468

    สวัสดีงามๆยามค่ำคืนเจ้า 36.gif36.gif36.gif
    
    
    บ่รู้จะอู้จะไดหื้อสมกับความไพเราะ หวานซึงในบทกลอนบทนี้เจ้า41.gif41.gif41.gifแต่งกลอนได้งามขนาดนักเจ้า  ขะเจ้าขอแจมโตยคนเน้อเจ้า
  • อัลมิตรา

    10 พฤษภาคม 2552 22:31 น. - comment id 982501

    คุณเป่าใบไม้ให้เกิดเสียงเป็นไหมคะ
  • ญามี่

    11 พฤษภาคม 2552 00:05 น. - comment id 982521

    11.gifเคยเห็นคนเป่าใบไม้เป็นเพลง หลายแบบเพราะมากจริงๆค่ะ46.gif
    
    ฝันดีค่ะคุณ คนกุลา46.gif
  • ช่ออักษราลี

    11 พฤษภาคม 2552 06:22 น. - comment id 982536

    ก็คงจะเพราะมากนะคะ
    เครื่องดนตรีจากไพรพนา
    อยากได้ยินจังเลยค่ะ
  • เพียงพลิ้ว

    11 พฤษภาคม 2552 07:47 น. - comment id 982564

    เคยฟังแต่ปี่ตอซังข้าวค่ะ
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 09:17 น. - comment id 982591

    ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับคุณกุ้งก้ามกราม
    
    คล้ายกันแต่ชื่อ แต่ที่มาที่ไปแตกต่างกัน ครับ
    
    กุ้งกุลาเป็นชื่อกุ้งชนิดหนึ่งต้องเลี้ยงในน้ำกร่อย จึงมีการเลี้ยงกันมากแถบจังหวัดชายทะเล เช่นสงขลา นครศรีธรรมราช สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เป็นต้น ครับ
    
    ส่วนคนกุลา หมายถึงชาวกุลา  เดิมคำนี้ชาวพม่าใช้เรียกพ่อค้าเร่ ชาวอินเดีย  ต่อมาชาวล้านนาส่วนหนึ่งที่เป็นพ่อค้า  ไปรับของแถวเมืองท่าเมาะตะมะ ของพม่าและนำมาขายในหัวเมืองต่างๆของไทย ก็ถูกเรียกว่าชาวกุลาด้วย จึชาวกุลางเป็นนักเดินทางที่อทรหดดทน  มีพ่อค้าชาวกุลากลุ่มหนึ่งเดินทางได้ไปขายของในแถบภาคอีสานต้องเดินข้ามทุ่งใหญ่แห้งแล้งและกว้างใหญ่มากแห่งหนึ่ง  เมื่อต้องหลงอยู่ในทุ่ง  ขาดอาหารขาดน้ำ นั่งลงร้องไห้ เพราะจนปัญญา จนชาวบ้านแถวนั้นไปพบเข้าและช่วยเหลือออกมา ทุ่งแห่งนั้นเลยได้ชื่อว่า "ทุ่งกุลาร้องไห้" แต่นั้นมา  ส่วนพ่อค้าชาวกุลาบางส่วนเมื่อเบื่อการขายสินค้าเร่ไปเร่มา มีการลงหลักปักฐานตั้งชุมชน ในแถบบริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง  สืบต่อเป็นชุมชนกุลา มาจนปัจจุบัน นี้ ครับ
    
    ขอโทษที่ตอบเสียยาว แต่คิดว่าจะเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับผู้สนใจนะครับ
    
    1.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 09:21 น. - comment id 982592

    ขอบคุณ คุณกิ่งโศกที่มาเยี่ยมและนำกลอนมาฝาก ครับ
    
    พอดีคนเป่าเป็นผู้ดูแลรักษาป่าชุมชน  (ดอนปู่ตา-เรียกตำแหน่ง ว่า- จ้ำ) ของหมู่บ้านจึงไม่เพียงเสียงจากป่าไพร หากยังเป็น เสียงจากผู้อนุรักษ์และสรรค์สร้างพงไพร ด้วยครับ
    
    1.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 09:41 น. - comment id 982601

    ขอบคุณ คุณม่านดอย ที่มาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ ครับ
    
    ไปปฏิบัติธรรมมาคงจะได้รับบุญกุศล ทำให้สุขกาย สุขใจ ตลอดไปนะครับ
    
    จะรออ่านบทกลอนงามๆ ต่อๆไป ครับ
    
    36.gif1.gif36.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 10:02 น. - comment id 982603

    คุณอัลมิตรา ครับ ผม ลองเป่าแล้ว แค่เป่าเป็น เสียงได้ แต่ไม่เป็นเพลง ครับ  เลยได้แต่ฟังและเอามาเล่า ต่อ 36.gif1.gif36.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 10:06 น. - comment id 982604

    คุญ ญามี่ ครับคืนนั้นเขาก็เป่าให้ฟังหลายเพลง
    เป่าสลับกับการเป่าขลุ่ย ของอาจารย์ธนิต ศรีกลิ่นดี ด้วยครับ อ.ธนิต ยังชมและแนะนำว่าควรนำเรื่องนี้มาเผยแพร่  และยกระดับความรู้เรื่องคีย์เสียงเพื่อเล่นกับวงดนตรีได้  ด้วย ครับ
    
    ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ 
    
    36.gif1.gif36.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 10:10 น. - comment id 982605

    ใช่ ครับ คุณช่ออักษราลี ฟังอยู่ข้างชายป่าชุมชน เป่าโดยนักอนุรักษ์ป่าชาวบ้าน ในคืนเพ็ญ  ตอนนี้นักเป่าคนดังกล่าวเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ตามโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต  ของมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร  ด้วยครับ
    
    ได้บรรยากาศมากเลย  
    
    36.gif1.gif36.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 10:13 น. - comment id 982606

    ปี่ ซังข้าว ผมก็เคยทำและเป่าเล่นตอนเด็กๆ ครับ  ว่างจะลองระลึกความหวังช่วงนั้นเอามาเขียน บ้าง  ครับ
    
    ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ คุณเพียงพลิ้ว ครับ 36.gif1.gif36.gif
  • เฌอมาลย์

    11 พฤษภาคม 2552 14:54 น. - comment id 982734

    เคยเอาใบไม้มาเป่า แต่เสียงมันดัวแปร่ด แปร่ดอ่ะค่ะ
    
    เคยฟังคนที่เป่าเป็นนะคะ เพราะมากๆเลย แบบว่าเคยดูเคยฟังในทีวีอ่ะ 11.gif
  • คนกุลา

    11 พฤษภาคม 2552 18:40 น. - comment id 982816

    เรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับความรักและตั้งใจทำ นะครับ ใบไม้ก็คงเหมือนเครื่องดนตรีอื่นๆ
    ถ้าไม่รักและหมั่นฝึกฝน ก็ไม่สามารถเป่าให้เป็นเพลงที่ไพเราะได้
    
    ผมลองแล้วก็มีเสียงแปร๊ดๆไม่เป็นเพลง เช่นกัน ครับ คุณ เฌอมาลย์
    
    
    36.gif1.gif36.gif
  • พุด

    11 พฤษภาคม 2552 20:57 น. - comment id 982898

    36.gif16.gifForest_Wall_by_UKTara.jpgกระท่อมใบไม้!
    
    กระท่อมใบไม้..
    แฝงตัวอยู่บนเนินผา ในหุบเขา..พะงันงาม..
    ที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อนนานาชนิดสูงใหญ่ เป็นช่อชั้น
    ราวป่าดงดิบสลับสล้าง..ใบไม้เขียวพร่างระยิบระยับ..ไปทั้งราวป่า
    และ...
    งามจับตายามถึงคราฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...ที่มีเสียงจิ้งหรีด เรไร
    ดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติและสายลมอันอ่อนโยนละมุน
    หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร..อวลไกล..ในยามค่ำ..
    .....
    ยามเช้า...
    ยามอุษาฟ้ากระจ่าง..
    เมื่อดวงตะวันสาดแสงสีทอง อันอ่อนอุ่นมาแตะแต้มทายทักโลก..
    มวลหมู่นกกา..พลันพรึบพรูโผผินบินว่อนร่อนจากรวงรังออกหาเหยื่อ..
    ..
    
    สัตว์ป่านานา..ก็พากันเที่ยวท่อง..
    จดจดจ้องจ้องออกล่าเหยื่อ..เฉกเช่นกัน
    เป็นวิถีอันเป็นธรรมชาติเพื่อดำรงรอด..
    
    ไพรกว้างเงียบงาม....
    ซ้องผสาน..เสียงเพลงไพรเสียงสัตว์ไพร ขับขาน
    ทั้งดุร้ายและหวานเศร้าคละเคล้าดำดิ่งลึกล้ำงามเงียบไห้ไหยหวน.
    สู่ห้วงหฤทัยผู้รักไพรพงเป็นชิวิตจิตใจ..
    
    ธรรมชาติ..เปิดม่าน..
    หวานหวานหว่านมนตราเริ่มตั้งแต่ยามทิวา อรุณรุ่ง
    มุ่งสู่ราตรีที่ฟ้ากว้างประดับด้วยทางช้างเผือก..
    ระดะดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝัน..พริบพราวเคล้า
    นวลจันทร์กระจ่างฟ้า..เล้าโลมหล้าโลก
    ให้มวลมนุษย์คลายโศกหรือยิ่งเศร้าหม่น 
    สุดแต่คน..แต่ใจใคร..จะไขว่คว้า
    
    
    กระท่อมใบไม้..
    งามง่าย หลังคาจาก โครงเคร่าใช้ไม้มะพร้าวที่หักโค่น..
    มาเป็นเสาค้ำตั้งรับสอดประสาน...ใช้ทุกส่วนให้งามอย่างคุ้มค่า
    ฝา..คือไม้ไผ่ขัดแตะอย่างละเอียด
    และยิ่งละเมียดละไมด้วยเสื่อจูดสานสวยซ้อนทับ..อีกชั้น..
    กันสายฝนแรงรับลมพายุ..
    
    ไม่มีโต๊ะ ตั่งเ ตียง..มีเพียงเสื่อสานละเอียดปูฟูกที่นอนขาว กับหมอนอีกใบ..
    มีมุ้งที่บัดนี้หอบขึ้นไปผูกไว้ ยามมิได้ใช้งาน..ก่อนนอน..
    
    หัวนอน..
    มีขอนมะพร้าว..เตี้ยๆไว้วางของจุกจิกไม่กี่ชิ้นจำเป็น
    มีตะเกียงเทียนเหลือเทียนครึ่งเล่ม..เพียงนั้น
    กับขันทองเหลืองที่เจ้าของกระท่อมทับ
    ใช้จัดใส่ดอกไม้ไทยรายรอบนานาพรรณ 
    ที่บัดนี้พลันพากันมาหอมอวลคละคลุ้ง จรุงไปทั่วทั้งกระท่อม
    
    กับสายลมเย็นยามค่ำ
    กับยามที่พรายวสันต์เพิ่งราเม็ดพร่างพรมห่มไปทั่วทั้งราวไพร..ให้ฉ่ำเย็น..
    
    
    ทางขึ้นกระท่อมนั้น..
    ดังพรมสวรรค์สีเขียว..ของหญ้ามอสส์สอดแทรก
    ตามปุ่มปมหินแง่งาม ที่เกาะเกี่ยวให้ไต่ตาม ค่อยๆเลี้ยวเลาะ..
    ให้สงบ..ให้ผ่อนคลาย ...
    
    ทุกก้าวย่าง...ในอ้อมเขียวเรียวไพลเรียวใบไม้ไหวระยับ..
    ทุกฝีเท้า..ของผู้โชคดี...
    ที่ได้ละลดวางและหลีกลี้หนีจากความวายวุ่นจากสังคมเมือง..
    
    เสมอเหมือน
    กำลังได้สลัดแอกใจ อันอ่อนล้า 
    ที่โหยหา แสวงหาธรรมชาติเย็น..
    ชุบชื้นชื่นชีวีต..ชุบดวงจิตดวงใจ 
    ชุบจิตวิญญาณ ชุบใสงามดื่มด่ำฉ่ำเย็น
    ให้ระรินไหลเข้าเบื้องลึกภายใน 
    ให้พลันสดใสตระการราวแก้วงามแก้ววิเศษ
    
    ที่จะพรายพร่างนำทางใจ..สู่ สว่างใส สงบ.พบ.ร่มชีวี..
    ที่ดั่งหยาดน้ำทิพย์..ที่ละลายร่าง ไร้ร้างตัวตน 
    ให้ห่างจากความยึดมั่นถือมั่น
    ในทุกวันทุกสิ่งมากมีที่ไม่จีรังยาวยืน..
    
    
    ร่างกาย..
    ร้อนรน..ได้ผ่อนคลาย
    ดวงใจได้นิ่งงันผ่อนพัก พึ่งพิงธรรมชาติไพร
    เกิดใสงามสวยสดเป็นธรรมดาใจธรรมชาติงาม..อันมิรู้สิ้นรู้จบ
    .........
    เส้นทางสายสวย..สู่กระท่อมใบไม้.
    ราวเส้นทางสายสวรรค์สรวง
    
    กระท่อมใบไม้ ...ที่ไร้ร้างในสายตาคนเมือง
    ผู้นิยมวัตถุมากมี..หามาประดับบารมีให้เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตา.
    
    กระท่อมใบไม้..
    ที่ไม่สิ้นเปลืองผลาญพร่าทรัพยากรธรรมชาติ
    หากเพียงแค่ได้เอนอิงเอื้อโอบใจไปพร้อมกัน..เป็นหนึ่งเดียว..
    ให้นวลเนื้อใจละไมละมุน..ในงามง่ายนั้นมิมีวันสิ้นสุดรัก..สุดงาม!
    ...........
    
    กลางกระท่อม..
    กลางเงาเทียนวูบไหว
    ในร่มเงาไม้ให้สงบเงียบ
    
    มีร่างงามเรียบนอนสยายผม
    มีดวงดอกไม้แนบนวลแก้ม
    มีเรียวรอยยิ้มพริ้มพราย 
    คล้ายรอรับจูบละเมียดละไมจากชายในฝันในดวงใจ..
    .....................
    
    ตามมาสิทุกดวงใจ..
    มาฟังเสียงนกไพร
    ฟังเสียงดุเหว่าแว่วหวาน
    ดูเงาดาวทอแสงนวลใย
    แข่งกับหยาดเพชรพราวในดวงตาดวงใจของนางไพรอันเป็นที่รัก
    ยามสะอื้นอ้อนหารักครางครวญ..
    
    พระจันทร์หวานคงอิจฉา..
    ราตรีคงเงียบงัน...
    ฟากฟ้านั้นเลิกหมองหม่นชั่วครู่
    ลมคงหยุดพัดไหว ใบไม้คงปลิดปลิวโปรยพร..เพื่อสองเรา..ตราบชั่วกาล..
    
    
  • คนกุลา

    12 พฤษภาคม 2552 16:43 น. - comment id 983240

    เพลงปี่ใบไม้  ..ที่กระท่อมใบไม้ ครับ
    ..งามง่ายคือความจริงที่แสนงาม......
    
    แม้ถ้อยถักอักษราที่ว่าหวาน
    ฤๅจะทานหวานใจไม่สิ้นสาย
    ที่ถักร้อยถ้อยรินสิ้นใจกาย
    เพราะงามง่ายงามล้ำเกินจำนรรย์
    
    งามกายประดับดอกบุปผชาติ
    แก้มขนงบรรจงวาดปาดสีสัน
    ช้องนางน้องกรองผมประพรมพลัน
    น้ำอบกลั่นกลิ่นกรุ่นละมุลใจ
    
    ทบผ้าถุงนุ่งห่มเนื้อเสื้อลายดอก
    วิหคหยอกลายเย้าคู่อยู่ไหวไหว
    สงบงามท่ามหนตำบลใด
    ตำบลใจงามดั่งฝันปั้นแต่งมา
    
    งามใจยิ่งงามล้ำเกินคำขาน
    ด้วนสายธารรสพระธรรมนำทิศา
    ด้วยดวงใจใสครบสงบกริยา
    งามสง่าดุจเทพีที่แดนไตรย์
    
    แม้ให้ทั้งเทพเทพินสิ้นสามโลก
    ร่ายโศลกก็เกินการจะทานไหว
    ตรับกระแสสิ้นรินจินตนาใจ
    วิโยคไหววะวับวับดับอินทรีย์
    
    คงเป็น ณ ที่นี่ที่เกิดโลก
    เกิดเป็นโศกสุขเศร้าเคล้าที่นี่
    แล้วค่อยไหลเอิบอาบซาบอินทรีย์
    จึงไม่มีวันรู้ได้ยามว่ายวน
    
    อยากมีปีกบินออกไปนอกโลก
    เพื่อเห็นโศกสุขเศร้าที่สับสน
    ที่เกิดทุกข์ก่อมาสาละวน
    เพื่อหวังผลที่เห็นตามเป็นจริง
    
    เพราะความจริงคือนิยามความงามง่าย
    งามกายงามใจในทุกสิ่ง
    เมื่อพบใจเหมือนพบรักที่พักพิง
    หวังแอบอิงอุ่นไอรักถักใจงาม
    
    "
    
    
    36.gif16.gif36.gif
  • ฝากฝัน

    12 พฤษภาคม 2552 18:57 น. - comment id 983268

    36.gif36.gif36.gif
    กลอนงดงามครับ
    ฝากฝันเป่าใบไม้ไม่เป็นครับ
    แต่เคยเจอคนที่เป่าใบไม้เรียกกระจง ออกมาให้เห็นได้
    และบางคนเป่าเป็นเสียงทำนองเพราะพริ้งทีเดียว
  • พิมพ์แก้ว

    12 พฤษภาคม 2552 23:09 น. - comment id 983441

    อยากเป่าใบไม้เป็นเพลงได้จัง
    
    ไม่ค่อยมีใครเป่าให้ได้ยินเลยอะ  
    
    
    สวัสดีค่ะ คุณ คนกุลา
    
    
    6.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน