๏ ใต้น้ำค้างกลางหาวในราวป่า ใต้ผืนฟ้าเรืองรามอร่ามใส ใต้ใบไม้ปลิวพัดสะบัดใบ ใต้ซากไม้ซากขอนนอนระเน ยังมีใครคนหนึ่งซึ่งซึมเศร้า เฝ้าปลุกปลอบความเหงาเคล้าว้าเหว่ ด้วยตัวตนของตนบนผืนเปล ไกวระเหระหนทนบนผืนกรรม ใต้ร่มพฤกษ์ยังมีความเย็นเยียบ ท่ามความงียบมีเสียงเพรียกของความช้ำ ใกล้ทางจรมีเสียงคนบ่นงึมงำ กลบความจำที่ลบเลือนหลังเตือนใจ เขาลุกขึ้นยืนหยัดปัดฝุ่นเกาะ ดุ่มลัดเลาะเลียบลานลงธารไหล กระแสชลซ่านซาบอาบหทัย เอิบอิ่มไอลบร้อนผ่อนอีกครา ขึ้นตลิ่งเอนอิงรุกขชาติ สูดอากาศสุดสะอ้านผ่านเทือกผา ล้วนหลากแปลกแมกไม้ดงพงพนา อีกปักษาบินวกวนให้ยลเพลิน เปรียบโดนสารละลายทุกข์ที่คลุกคลั่ง จิตก็ดั่งเป็นเช่นนกวิหคเหิน อิสระเสรีมิมีสิ่งใดเกิน จนเผลอเดินไปตามนกที่วกบิน ลืมกลิ่นไอควันพิษติดจมูก ลืมผิดถูกลืมกฏหมดทั้งสิ้น ลืมเกรี้ยวกราดอำนาจบาดชีวิน ลืมแม้กินกามเกียรติเสียดอารมณ์ฯ ...
6 มีนาคม 2552 12:58 น. - comment id 959466
6 มีนาคม 2552 14:09 น. - comment id 959484
สวัสดีค่ะ สิ่งที่ไม่ดีก็ไม่ควรที่จะจำกันนะคะ
6 มีนาคม 2552 16:49 น. - comment id 959541
สวัสดีค่ะ คุณกานท์ กานต์ ท่ามพฤกษ์ไพรไม้ดอกออกกิ่งก้าน ทั้งสายธารรินไหลแนวไหล่เขา สรรพสัตว์ปีกสวยร้องเบาเบา ครึ้มเงียบเงาครอบคลุมรมณีย์ ดงพฤกษานานาสัตว์น้อยใหญ่ ที่อาศัยจับคู่กู่จูจี๋ ปลาหลากพันธ์ว่ายวนสายนที ไพรสณฑ์นี้ร่มรื่นชื่นหทัย แวะมาเยี่ยมทักทาย หมายขอบคุณที่แวะทักดอกบัวค่ะ มีความสุขเสมอนะค่ะ
6 มีนาคม 2552 21:22 น. - comment id 959647
ธรรมชาติกลางป่าเขาล้วนเนาสุข สำนึกปลุกดวงจิตน์รักถิ่นฐาน มวลแมกไม้ร่มรื่นชื่นตระการ จิตเบิกบานอยู่ใกล้ในธารธรรม ..แวะมาทักทายยามใกล้นิทราค่ะ..