กุหลาบขาวเจ้านั้นช่างงามเลิศ เเสนประเสริฐกว่าใครในถิ่นนี้ กลิ่นหอมหวลสุดสดใสไร้ราคี เช่นนารีที่หัวใจไร้มลทิน
21 กรกฎาคม 2550 10:22 น. - comment id 727819
สลามครับ กะขอบคุณครับ
21 กรกฎาคม 2550 12:02 น. - comment id 727844
คำว่า "นี้" เป็นเสียงตรี ไม่สามารถวางไว้ท้ายวรรครับได้ครับ ซึ่งผิดฉันทลักษณ์อย่างรุนแรง ส่งผลให้กลอนไม่มีค่าเลยครับ.
21 กรกฎาคม 2550 12:45 น. - comment id 727857
ขอบคุณครับสำหรับคำติชม
21 กรกฎาคม 2550 12:53 น. - comment id 727861
เอมก็เป็นคนนึงที่ชอบ กุหลาบสีขาว
22 กรกฎาคม 2550 23:49 น. - comment id 728264
กุหลาบงามดอกนี้มีสีขาว สวยสดราวดอกไม้ในความฝัน มีคุณค่าควรอยู่คู่แจกัน เหมือนเยี่ยงพันธุ์ไม้งามหนามแหลมคม แต่วันนี้มีมือหนึ่งซึ่งถืออยู่ และเป็นผู้ไม่เห็นค่าว่าเหมาะสม เด็ดกลีบทิ้งแล้วโยนลงโคลนตม ความโสมมเปลอะเปื้อนทั้งเรือนกาย กุหลาบขาวจึงไร้ค่าหมดราศี ถูกขยี้ย่อยยับดับสลาย มีแต่คนกล่าวว่าอย่าเสียดาย เพราะเกินหมายมุ่งคว้ามาแนบครอง ปล่อยให้แดดแผดเผาจนเฉาแห้ง ถูกกลั่นแกล้งเหยียบย่ำจนช้ำหมอง ไม่มีใครเหลียวแลแม้หันมอง กุหลาบต้องหมองหม่นเพราะคนทราม น้ำตาเอ่อล้นทรวงท่วมดวงจิต คนอำมหิตใจแล้งแกล้งเหยียดหยาม กุหลาบซึ่งเคยมีกลีบสีงาม กลับสิ้นหนามไร้คุณค่ามีราคี จึงไม่ใช่กุหลาบงามในความฝัน เพราะนับวันจะสูญสิ้นทั้งกลิ่นสี ไม่มีใครเสียดายค่าของมาลี เพราะเหตุที่ถูกถือด้วยมือ..โจร..
23 กรกฎาคม 2550 08:02 น. - comment id 728323
ขอเพิ่มเติมจากความเห็นที่สอง คำสุดท้ายของวรรครับ เป็นได้ตั้งแต่เสียง เอก โท ตรี และ จัตวา แต่ต้องไม่เป็นเสียงสามัญ เพราะฉะนั้นกลอนบทนี้ถือว่าถูกต้องตามฉันทลักษณ์ครับ
31 กรกฎาคม 2550 15:50 น. - comment id 731866
ขอบคุณค่ะสำหรับทุกความเห็น