.เพื่อนแก้ว ..หลับตาแล้วจบลงตรงฝั่งฝัน ...เธอแรมรอนอ่อนล้ามาทั้งวัน ....เมื่อเงาจันทร์ทายทักเข้าพักนอน .....เพื่อนรัก ......ไม่มีตักของใครให้แทนหมอน ........ไม่มีเสียงขับลำหรือคำกลอน .........ไม่มีพรจากฟ้ามาให้เธอ ...........ไม่มีแม้มาลัยในคืนเหงา .............ในความเศร้าเธอย่อมรู้อยู่เสมอ ..............ดาวดวงนั้นเสมือนเป็นเพื่อนเกลอ ...............หลับละเมอเพ้อไปตามใจจินต์ ................เพื่อนเอ๋ย ..................ที่เขาเอ่ยหวานหูมิรู้สิ้น ...................คือคำลวงหลอกให้เธอได้ยิน .....................เสียงเพลงพิณบรรเลง...อาจเพลงมาร .......................เศร้าไปไย? .........................มอบมาลัยให้ตัวเองพร้อมเพลงหวาน ..........................สรรเสกถ้อยร้อยวจีกวีกานท์ ...........................เสียงขับขานผ่านปากออกจากใจ ............................เพื่อนแก้ว ..............................หลับตาแล้ว...อิดโรยอย่าโหยไห้ ................................แม้ว่าราตรีนี้ไม่มีใคร ..................................แสงอำไพจักพุ่ง..เมื่อรุ่งราง
21 กุมภาพันธ์ 2549 05:35 น. - comment id 562287
อบอุ่นจังค่ะ โดยเฉพาะสองวรรคนี้ ............................เพื่อนแก้ว ..............................หลับตาแล้ว...อิดโรยอย่าโหยไห้
21 กุมภาพันธ์ 2549 06:17 น. - comment id 562291
งานของครูคืองานออกแบบสังคมครับ ยิ่งใหญ่มาก
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:04 น. - comment id 562294
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเพรงพเยียกับคุณก่อพงษ์ เติมกันเอาเองนะครับ..สำหรับกำลังใจมันจะมาจากใครก็ไม่เท่ามาจากเราเองหรอก ว่าจริงไหม ? ขอให้มีสุขในการทำงานในวันพระนะครับ
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:17 น. - comment id 562301
มาอ่านค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง และแบ่งปันให้เพื่อนๆด้วย สนุกกับงานนะคะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:36 น. - comment id 562304
ผมชอบประโยคนี้มากกว่า..ฟังแล้วได้อารมณ์ดี เพื่อนแก้ว ... หลับตาแล้วอิดโรยอย่าโหยไห้ เ มื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ มรึงก็เป็นครูใหญ่โรงเรียนเดิม สวัสดีครับ..ครูใหญ่....
21 กุมภาพันธ์ 2549 07:51 น. - comment id 562309
ดีครับ คุณทางแสงดาว ถูกต้องเลยแบ่งปันกำลังใจ ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ครับคุณหมอ ผมเปลี่ยนจากมรึง...เป็นกรู ไว้อ่านเองไงล่ะ หนาวนิดหน่อยวันนี้ กรุงเทพคงร้อนเนาะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 08:25 น. - comment id 562318
อรุณสวัสดิ์ค่ะ นอนหลับเต็มอิ่ม เบิกฟ้ามาสดใสจังค่ะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 08:48 น. - comment id 562328
จะหลับแล้วค่ะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 08:59 น. - comment id 562331
ช่างอบอุ่น นุ่มลึกเสียจริง ไม่มีแรงทำงาน กลับบ้าน ไปนอนดีก่า อยากมากล่อมแล้วนิ ...จากเพื่อนแดนไกลเหมือนกัน...
21 กุมภาพันธ์ 2549 10:19 น. - comment id 562347
สวัสดีค่ะครูใหญ่ มาร่วมให้กำลังใจกับคุณครูทุกท่านค่ะ ครูเป็นผู้ให้และไม่เคยบ่นกับงานเนาะ
21 กุมภาพันธ์ 2549 10:22 น. - comment id 562348
กล่อมแบบนี้แม้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ก็พอหลับตาลงได้ค่ะ.. ขอบคุณสำหรับหมอนนิ่มๆ กับคำอบอุ่น น่ะค่ะ..
21 กุมภาพันธ์ 2549 12:48 น. - comment id 562371
แวะมาอ่านงานกล่อมครับผมคุณครู...
21 กุมภาพันธ์ 2549 13:11 น. - comment id 562399
ไพเราะจังเลยค่ะ กลอนคุณครูตรงใจทุกบทค่ะ..
21 กุมภาพันธ์ 2549 14:48 น. - comment id 562408
**.. กลอนไพเราะเช่นเดิมนะครับครู
21 กุมภาพันธ์ 2549 15:50 น. - comment id 562413
กล่อมจนหลับไปแล้วคร้าบบบ
21 กุมภาพันธ์ 2549 17:03 น. - comment id 562426
กล่อมหัวใจใครกันฉันอยากรู้ โถคุณครูร้อยวลีวจีหวาน ใครได้ฟังคงซึ้งตรึงดวงมาน หายร้ารวนรื่นรมย์สมฤดี
21 กุมภาพันธ์ 2549 18:36 น. - comment id 562444
มาเยี่ยมเยียนครับอาจารย์ .. เพราะจังเลยครับ เสียงกล่อมจากฟากฟ้า ริมฝั่งฝัน ผ่านโคนรุ้ง แล้วตกลงมาพร้อมเม็ดฝน ชะโลมพฤกษา ชะล้างน้ำตาของคนเศร้า ให้เหงาคลาย.....
21 กุมภาพันธ์ 2549 23:06 น. - comment id 562471
มีความสุขกับสิ่งที่ มอบให้ (แบบคิดเอาเอง)ค่ะ
22 กุมภาพันธ์ 2549 05:42 น. - comment id 562496
ไม่มีตักซื้อหมอนใหม่ก็ได้เพื่อน คำด่าเตือนแทนกลอนหวานที่ขานไข แม้นไม่มีพรจากฟ้ามาอำไพ ไม่เป็นไรยังมีข้าตรงหน้าเอ็ง ไม่มีหรอกกี่มาลัยในคืนเหงา อย่านั่งเศร้าเปลี่ยนกลับกระฉับกระเฉง อีกเดี๋ยวเอ็งกลับถึงบ้านคงครื้นเครง เมียสวดเฉ่งเรื่องตังค์หายคงหลายวัน คำเตือน: ก่อนจะฉกตังค์ภริยาไปห้อยมาลัย น้องนางคาเฟ่ กรุณาเก็บหลักฐานให้เรียบร้อย
22 กุมภาพันธ์ 2549 07:54 น. - comment id 562505
ตามมาอ่านครับ
17 มีนาคม 2549 10:03 น. - comment id 566915
ขอบคุณนะครับที่แวะมาเยี่ยมที่ขอนแก่น... ได้พูดคุยประสบการณ์และแนวทางการดำเนินชีวิตแลกเปลี่ยนแนวคิดเป็นร่องรอยให้ได้ศึกษา ยังมีเจตนาเหมือนเดิมอยากจะให้พี่ช่วยเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นการเรียนรู้เป็นแนวทางให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ได้ศึกษา และขอบคุณที่แจ้ง Web เพื่อให้ได้ศึกษางานเขียน และแนวคิดของคุณพี่ก่อพงษ์ (เพีย คำปัน) อีกครั้ง