คำนินทาว่าร้ายกรายถึงหู เพียงรับรู้เท่านั้นอย่าหวั่นไหว ปากคนอื่นจะพูดกันเช่นไร มิอาจไปห้ามสิทธิ์คิดพูดจา เพียงสำรวจตรวจตนบนใจนิ่ง ปล่อยทุกสิ่งผ่านไปไม่ถือสา ให้หนักจิตคิดฟุ้งปรุงสัญญา อกุศลนานามิอาจกราย เดินหน้าต่ออย่าท้อต่อลมพาล แรงปะทะไม่นานย่อมสลาย หาทำให้เสียเลือดเนื้อถึงตาย หรือบาดเจ็บร่างกายตรงที่ใด แต่ถ้าหากยึดใจไว้กับถ้อย เรื่องเล็กน้อยจะลามเกินแก้ไข ถือถูกผิดคิดโต้ในทันใด กระโดดเข้ากองไฟด้วยเท้าตน เมื่อต้องเสียเวลาทำสิ่งหนึ่ง มองให้ซึ้งถึงปลายในเรื่องผล ห้านาทีในการโต้ตอบคน กับฝึกฝนดูใจใดควรทำ คนเขลาความยามคิดติดอารมณ์ ชอบและชังผสมให้ถลำ ออกท่าทางร่างกายลวดลายคำ ก่อเกิดกรรมอกุศลผลร้ายแรง โบราณท่านกล่าวไว้ในการห้าม เรื่องเพลิง ยาม อายุลุแถลง มิอาจห้ามมิให้ไม่เปลี่ยนแปลง ย้อนแสดงถึงนินทาว่าย่อมมี คำนินทาว่าร้ายกรายถึงหู เพียงรับรู้เราเขาต่างวิถี ห้ามใจตนให้พ้นเพลิงย่ำยี เพียงห้ามได้เท่านี้ที่ใจเรา
25 ตุลาคม 2548 22:33 น. - comment id 529144
แวะมาทักทายยามค่ำคืน คำนินทาท่านว่าเหมือนลมพัด อย่าใส่ใจปล่อยให้พัดผ่านไป \"อย่างนั้นหรือ\"เช่นนั้นเอง\"
25 ตุลาคม 2548 23:21 น. - comment id 529152
อันลมพ่นจากปากยากจักห้าม ถึงแม้ปรามเพียงไหนไม่หยุดหย่อน บ้างเข้ามาปั่นป่วนกวนตะกอน ให้รุ่มร้อนปวดร้าวเศร้าดวงมาน ทำได้แค่รักษาใจไว้เท่านั้นแหละครับ
25 ตุลาคม 2548 23:39 น. - comment id 529154
เพียงสำรวจตรวจตนบนใจนิ่ง ปล่อยทุกสิ่งผ่านไปไม่ถือสา ให้หนักจิตคิดฟุ้งปรุงสัญญา อกุศลนานามิอาจกราย ชอบบทนี้มากเลยค่ะพี่ดอกแก้ว เหมือนบทสรุปของการปฏิบัติ ให้เรา...ไม่หลงร้อนรนอยู่บนกองเพลิง ได้มารับน้ำเย็นๆ ชื่นใจ ก่อนนอน ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่ดอกแก้ว
26 ตุลาคม 2548 14:20 น. - comment id 529919
ใครเขาแอบนินทาพาใจเขว่ ให้รวนเรวุ่นวายไฟไหม้สุม ความโมโหโกรธามาล้อมรุม เกิดกลัดกลุ้มใจเราร้อนสิ้นดี ทำยังไงให้ใจเย็นเช่นสายน้ำ เมื่อพบคำกล่าวร้ายที่ป้ายสี ทำยังไงให้สงบจบด้วยดี เพราะใจนี้มันอ่อนไหวในคำคน คำเอ๋ย คำนินทา แค่เสียงนกเสียงกาใช่ไหม ตั้งสติ..คิดให้รอบ..ครอบดวงใจ หากเราไม่ใช่ที่ว่า..อย่าร้อนตาม ................................................... สติมาปัญญาเกิด สติเตลิด..เปิดปัญหา สติลด..หมดปัญญา สติจ๋า..อยู่กับเรา..จงเฝ้าจำ ...................................................
26 ตุลาคม 2548 14:25 น. - comment id 529921
มีสติ...อยู่ที่ใจ...ไม่สน เรื่องของคน...หมดสติ ชอบติชอบติ่งทุกสิ่งมี คนแบบนี้ห่างได้ให้รีบทำ มาอ่านผลงานธรรมมีความหมายดีๆจากพี่ดอกแก้วค่ะ......
26 ตุลาคม 2548 15:06 น. - comment id 529939
@...พี่รจนา ป้าหมู สุกรวดี... ความสำรวมสวมใจไว้เป็นเกราะ จึงพอเหมาะกับกิจไม่ผิดผัน กระทำการสิ่งใดไร้โทษทัณฑ์ เพราะใจนั้นไม่เพลินล่วงเกินใคร รู้กระทบรู้กระทำนำผ่องแผ้ว เหตุเกิดแล้วต้องหาทางแก้ไข เหตุภายนอกหาสำคัญเท่าภายใน ที่เกิดเหตุคือที่ใจใฝ่สำรวม เรื่องคนอื่นอย่าขืนไปตัดสิน เพราะอาจหมิ่นประมาทพลาดหละหลวม มองสิ่งดีสว่างไสวไร้กำกวม คือภาพรวมส่วนดีที่เขาทำ สวัสดีค่ะพี่รจนา..ดอกแก้วยังสบายดีอยู่ค่ะ แล้วพี่ล่ะคะสุขภาพเป็นอย่างไรบ้างในช่วงนี้ แต่ดูจากภาพที่ยิ้มสดใสแล้ว ก็คิดว่าพี่คงสบายดีนะคะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ ...และขอบคุณบทกลอนสอนใจจากป้าหมูด้วยค่ะ
26 ตุลาคม 2548 15:07 น. - comment id 529940
@...แดดเช้า รัศมีตะวัน... คือวิบากหลากล้นผลกรรมเก่า ที่ตัวเราทำไว้ในหนหลัง ตามติดมาหาเราถึงรวงรัง คือได้ฟังเรื่องเล่าเข้าหูมา แต่กรรมใหม่คือตั้งใจรับกระทบ แล้วก็จบตีความตามภาษา เป็นเพียงคลื่นเสียงย้อนสะท้อนมา รับรู้ว่าได้ยินก็สิ้นความ ส่วนผู้ทำกรรมใหม่ในวาจา ทุจริตนั้นหนาอย่าไปหยาม เพราะผลกรรมเขาทำไว้ย่อมติดตาม และให้ผลงอกงามตามเหตุกรรม หากเราโกรธโทษเขาแล้วเอาเรื่อง นอกจากเปลืองเวลาอย่างน่าขำ การถากถางผู้อื่นไม่ควรทำ เพราะเป็นกรรมวาจาโทสาครอง แต่ละวันนั้นมากหลากอารมณ์ มีทั้งเรื่องน่าชมและหม่นหมอง ล่อหลอกเราให้ตกบ่วงห่วงครรลอง ทำกรรมตอบสนองวัฏฏะภัย สวัสดีค่ะแดดเช้า... กรรม จิต อุตุ และอาหาร มีผลกระทบต่อชีวิตเราตลอดเวลา อุตุคืออากาศที่เปลี่ยนไป ก็นำพาความไม่สบายมาให้เราได้ กรรมเก่าที่ตามมาให้ผลในทุกวินาที ก็ยิ่งทำให้ใจไร้ความสงบนิ่ง แล้วก็ทำกรรมใหม่ที่จะให้ผลร้ายอย่างสืบเนื่อง อย่างหลายคนมุ่งแก้ไขแต่สิ่งภายนอกและร้องโอดโอยเมื่อไม่สมหวัง เพราะตัณหาและอุปาทานที่ยึดถือไว้นั่นเอง เรื่องของกรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ที่ให้ผล เราปลูกต้นอะไรไว้ ..ผลที่เราได้ก็ย่อมต้องมาจากไม้ต้นนั้น รสชาติจะถูกใจหรือไม่ เราก็ต้องยอมรับว่า เราเป็นคนปลูกมาเอง แต่ไม่ใช่ว่า เราจะทำลายต้นไม้ต้นเก่าไม่ได้ หรือปลูกต้นไม้ต้นใหม่ไม่ได้ ...ที่จะให้ผลที่ดีกว่าเดิม นั่นก็คือการสร้างกุศลให้มีปริมาณมากขึ้นในชีวิต เพื่อทำลายกิเลสร้ายนั่นเอง และกุศลอะไรก็ไม่สุขเท่ากับการชำระล้างใจให้ไร้ฝุ่นผง ไร้ตะกอนอารมณ์ เหมือนกับน้ำเกลือเข้มข้น ถูกเติมด้วยน้ำในสะอาดในปริมาณมากๆ ให้เจือจางลงไปทุกที พี่ดอกแก้วก็ผ่านความเจ็บป่วยของโรคภัยมามากมายเลยค่ะ ทั้งมะเร็งในเม็ดเลือด และการผ่าตัดอีกหลายสิบครั้ง และก็ยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรานั้น เป็นสิ่งที่เราทำมาเองทั้งสิ้น จึงสงบจากความทุรนทุรายใจ และปรับปรุงแก้ไขด้วยการเลือกทำในสิ่งที่ดี สมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน คือหนทางที่พี่ดอกแก้วเลือกในยามอยู่ส่วนตัว อกุศลวิบาก เช่น ความเจ็บป่วยนั้นเราหลีกหนีไม่พ้น แต่เราสามารถทำใจให้ดีโดยทำกรรมใหม่ที่เป็นกุศลอันเปรียบเสมือนแม่เหล็กฝ่ายดีที่จะดึงดูดกุศลวิบากมาให้ผลเราได้เร็วขึ้นต่อไป โดยเฉพาะความสุขสงบใจที่เกิดขึ้นนั่นเอง สุขใจทุกครั้งที่ได้พบกับแดดเช้า..โดยเฉพาะประสบการณ์ชีวิตและข้อคิดที่แดดเช้านำมาเล่ามาบอก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอย่างมีคุณค่าและประโยชน์ในการดำเนินชีวิตได้มาก ..สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีแก่หลายๆคนได้ ชื่นชมกับอุดมการณ์และแนวทางการดำเนินชีวิตดุจรัศมีตะวันที่เฉิดฉายสมชื่อเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ กับบทสนทนาธรรมที่มีค่า และความปรารถนาดีต่อมวลมิตรที่ฝากไว้ตรงนี้ ขอให้สุขภาพแข็งแรง คลายจากความป่วยไข้ทั้งทางกายและใจได้โดยเร็ว และมีใจที่สุขสงบได้มากยิ่งขึ้นจนถึงที่สุดได้โดยเร็วนะคะ ขออนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลที่เกิดขึ้นแล้วทุกๆประการค่ะ...
26 ตุลาคม 2548 15:09 น. - comment id 529943
@...น้องราชิกา... ความงดงามน้ำใจที่ไหลหลาก แม้นงานมากยังเยือนไม่เลือนหาย ขอขอบคุณความอบอุ่นไม่เคยคลาย คืดความหมายของมิตรนิจนิรันดร์ สวัสดีค่ะน้องราชิกา...น้ำใจและความห่วงใยจากมวลมิตร เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและงดงามตลอดเวลา... ขอบคุณในไมตรีที่อบอุ่นเช่นนี้นะคะ ขอให้น้องราชิกามีสุขภาพที่แข็งแรง ไร้อุปสรรคในการทำงานเพื่อประชาชน มีพลังที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์แก่มวลชนโดยไม่สิ้นสุดนะคะ และขอให้มีความอดทนได้มากๆค่ะ
26 ตุลาคม 2548 15:10 น. - comment id 529944
@... นาวา... โลกธรรรมนำเรื่องให้เปลืองจิต ด้วยครุ่นคิดหลายสิ่งอิงเราเขา หวังกอบสุขกีดกันทุกข์มาแนบเนาว์ จึงต้องเศร้าเพราะโลกธรรมนำมายา ขอบคุณในความห่วงใยค่ะนาวา..เรือลำน้อยกลางสายชล ขอให้มีความสุขกับการทำงานเพื่อประชาชนนะคะ
26 ตุลาคม 2548 15:11 น. - comment id 529947
@...ร้อยฝัน... อันลาภยศสรรเสริญเจริญสุข ทั้งเสื่อมลาภยศทุกข์ไร้สรรเสริญ เป็นเรื่องของโลกธรรมที่ดำเนิน ธรรมดาเหลือเกินอย่าหวั่นไป สวัสดีค่ะร้อยฝัน... ดีใจมากค่ะ ที่กลอนบทนี้ให้กำลังใจแก่ร้อยฝันได้ ขอให้มีความสดใส มีพลังที่จะรับรู้สิ่งใหม่ได้อย่างไม่ท้อถอยนะคะ ขอบคุณมากค่ะในความห่วงใย
26 ตุลาคม 2548 15:12 น. - comment id 529948
@...ไรไก่... เขาบอกว่าเธอเป็นเช่นคนนั้น อืม!..ช่างมันเขาจะเห็นเป็นคนไหน ตาต่างกันมองต่างกันคิดต่างไป เป็นเรื่องราวของใจที่ต่างกัน สวัสดีค่ะไรไก่... จุดยืนอยู่ที่ความไม่ใส่ใจ...ดีมากๆเลยค่ะไรไก่ และ \"อย่างนั้นหรือ\"เช่นนั้นเอง\" ก็เป็นถ้อยแสดงความรับรู้ที่ไร้ปัญหาดีด้วยค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน
26 ตุลาคม 2548 15:13 น. - comment id 529949
@...เรไร... เรื่องนอกตนจนใจจะไปห้าม หรือเที่ยวปรามปากใครในเรื่องเขา เรื่องความคิดจิตใจของตัวเรา คือเรื่องที่ควรเข้ามาห้ามปราม ค่ะ ..ทำได้ก็แค่รักษาใจไว้เท่านั้น เพราะเรื่องรอบตัว.. ล้วนเป็นกับดักให้เราตกหลุมพรางของอารมณ์ได้ง่าย หากต้องการอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องห้ามใจของเราให้ได้เร็วที่สุด มิให้กวัดแกว่งจนตะกอนพลุ่งพล่าน... ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย
26 ตุลาคม 2548 15:14 น. - comment id 529950
@...เพรง.พเยีย... บทที่ชอบตอบว่าปัญญายิ่ง คือการนิ่งรับรู้ดูเฉยเฉย ตัดลูกโซ่สังสารผ่านขาดเลย เป็นการเผยวิปัสสนาปัญญาญาณ สวัสดีค่ะ เพรง.พเยีย... ขอบคุณมากค่ะที่ชื่นชอบในบทนี้..และก็เป็นบทสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับวิปัสสนาปัญญา ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่เกิดขึ้น และความปิติใจที่ได้รับนะคะ ขอให้มีความเย็นหล่อเลี้ยงใจได้ยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
26 ตุลาคม 2548 15:15 น. - comment id 529953
@...น้องอัลมิตรา... เพราะผู้นำธรรมมาใช้ในชีพตน มีน้อยคนที่ใช้จริงไม่นิ่งสาร จึงมากมีนิสัยชอบวิจารณ์ เพราะคิดอ่านไร้ธรรมนำสุขครอง บางครั้งคราวสาวประเด็นเป็นปัญหา ดูทีท่าวัดใจผู้สนอง หากเต้นตามปัญหาก็สมปอง หากไม่ตอบสนองก็จบไป หากถามถึงยุติธรรมในคำคน อย่าหวังผลเลยหนอขอขานไข ขอตอบเป็นเซียมซีเลขที่ใจ ยุติธรรมนั้นไซร้คือกฎกรรม ในกาลใดใจคนล้นด้วยพาล บรรทัดฐานย่อมเปลี่ยนเวียนถลำ เพราะใจเบาเลือกเอาเพียงบางคำ มาตัดสินการกระทำในทั้งมวล ในกาลใดใจคนล้นด้วยธรรม จักน้อมนำเหตุผลจนถี่ถ้วน ไม่ตัดสินสาวไส้สิ่งไม่ควร ทุกกระบวนสุจริตไม่ผิดแนว หากถามว่าทำอย่างไรใจจะวาง และถอยห่างสิ่งลำเอียงเบี่ยงจากแถว ไม่มีใครฟังคำซ้ำจากแจว กำหนดโทษให้แล้วถึงโทษตาย ตอบจากใจ ..ไม่มีใครไม่ผิดหวัง แต่ต้องชั่งใจหนักอย่าหลักหาย มีหน้าที่..ทำหน้าที่ไม่ดูดาย อย่างสามารถไม่คลายเต็มฝีมือ นอกจากนี้คือสิ่งที่นอกสามารถ ใครจะสาดอะไรมาอย่ายึดถือ ปรับใจให้แข็งขันหมั่นฝึกปรือ ผิดถูกคือเกณฑ์กฎบทสังคม หากบทธรรมนำสร้างล้างอัตตา เขาไม่เชื่อวาจาอย่าขื่นขม ตามแต่ใจไหลหลากมากนิยม อย่าระทมทอดถอนสะท้อนเลย หากยึดติดกับชีวิตของผู้อื่น หมายให้เขาเชื่อชื่นคำเฉลย คือการผูกติดคนบนภิเปรย เรานั่นเองไม่เสบยเพราะติดตาม การมีชีวิตเนื่องด้วยผู้อื่นเป็นทุกข์ยิ่งนักค่ะน้องอัลมิตรา.. เพราะเราต้องตามดู ตามรู้เพื่อที่จะทราบว่า เขาคิดกับเราอย่างไร คิดถูกหรือผิด หน้าที่ของเรามีเพียงไหน เมื่อกระทำจนเต็มความสามารถแล้ว ..ก็สิ้นสุดเพียงเท่านั้น ส่วนความเชื่อถือ..เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของแต่ละคน เพราะการยอมรับฟังใครนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเห็นด้วยเสมอไป อย่างที่เราก็เคยเป็นเมื่อฟังใครหลายคนอธิบายจนจบ... การหวังให้เขาเชื่อ..เป็นการเริ่มสร้างความทุกข์ให้ใจครั้งใหม่ เพราะต้องรอคอยผล และคอยลุ้นว่าใครบ้างที่จะเชื่อ ซึ่งเป็นการกระทำที่เสียเวลาอย่างยิ่ง พระท่านจึงสอนเสมอว่า อย่าหวังผลในการกระทำต่อผู้อื่น และไม่ควรผูกติดชีวิตไว้กับความคิดและความปรารถนาในผู้อื่น เพราะจะทำให้สิ้นอิสรภาพของใจ แต่ให้กระทำในสิ่งที่ดี และลงมือกระทำด้วยตนเอง..เพื่อที่ความสันโดษในใจจะเกิดขึ้นได้มาก และคำตัดสินของคนอื่นไม่ได้ให้เราเป็นคนดีขึ้นหรือเลวลง ..แต่ตัวเราเองต่างหากที่เป็นคนทำ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาคุยกัน
26 ตุลาคม 2548 15:18 น. - comment id 529957
@...หนอนดุ๊กดิ๊ก... ห้ามดมชมกลิ่นล้อม หอมยวน ห้ามคลื่นเหียนเอียนอวล กลิ่นเหน้า ห้ามหัวเราะตลกสรวล ฮาเด็ด ห้ามหนอนคลุกปลาร้าเคล้า ค่อยห้ามนินทา โคลงของหนอนดุ๊กดิ๊ก..สนุกดีจัง พี่ดอกแก้วเลยเชิญแขกพิเศษมาร่วมแสดงกับปลาร้าบ้าง...เพื่อความกลมกล่อม ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทายพร้อมความบันเทิงที่มีสาระ ...
26 ตุลาคม 2548 15:29 น. - comment id 529960
@...magic... ฝ่ายหนึ่งพูดฝ่ายหนึ่งฟังครั้งละคน จะเกิดผลเมื่อคนฟังแพ้ภาษา ขาดสติตรองเป็นเห็นมายา จึงต่อกรรมนำมาเป็นเรื่องราว สวัสดีค่ะน้อง magic ... ทั้งบทกลอนและบทส่งท้าย..น่าอ่านและน่าคิดมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของสติ มีสติแล้วไม่สตึ เลิกคร่ำครึกับคำไร้สติ.. ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาร่วมเขียนไว้
26 ตุลาคม 2548 15:31 น. - comment id 529961
@...น้องแก้วนีดา... ใครจะพลาดขาดสติมิน่ากลัว เท่ากับตัวเราขาดพลาดถลำ มีสติรู้สิ่งควรไม่ควรทำ จะน้อมนำสุขใจได้แท้จริง สวัสดีค่ะน้องแก้วนีดา.... ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ...น้องสาวคนดี
26 ตุลาคม 2548 15:22 น. - comment id 529963
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... คำนินทาอย่าใส่ใจให้น้ำหนัก ทั้งสรรเสริญทายทักอย่ากวักหา เพราะเป็นเพียงโลกธรรมที่มีมา คำสรรเสริญนินทาของคู่กัน สวัสดีค่ะบินเดี่ยวฯ.. ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
25 ตุลาคม 2548 19:09 น. - comment id 530076
มาอ่านงานงามของพี่ดอกแก้ว....ให้คติเตือนใจในสิ่งที่ดีค่ะ....ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ... (ช่วงนี้งานเยอะค่ะ..จึงไม่ค่อยได้เข้ามาทักทาย..แต่ยังส่งความระลึกถึง..มาให้เสมอค่ะ..)
25 ตุลาคม 2548 20:02 น. - comment id 530088
สวัสดีครับคุณพี่ที่รัก มาเยี่ยม มายิ้มและซึมซับธรรมกวี อากาศเริ่มเย็น รักษาสุขภาพนะครับ
25 ตุลาคม 2548 18:51 น. - comment id 530113
ใครพูดเน่าเสียงก็เน่า .. ย้อนเข้าตัว อย่าเกลือกกลั้วเอาสิ่งเหม็นเข้าใส่ หากเรานิ่งใครเน่าเราเบาใจ สะท้อนกลับสิ่งเน่าให้เจ้าของมัน การกระทำใครทำเหม็นย่อมผลเหม็น เราจำเป็นเย็นนิ่งยิ่งกว่ามั่น สะท้อนสิ่งเลวร้ายทั้งไฟควัน กระทบใจไม่หวั่นไม่ไหวเลย เขาพูดเสียเขาก็มีแต่ทางเสีย เราตอบโต้ยิ่งละเหี่ยเน่าคลุ้มเผย สงครามแห่งของเน่าเราคุ้นเคย เกิดควันคลุ้มเกินเอ่ยคำดับไฟ สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว : ) อากาศเปลี่ยนแปลงนะคะ เริ่มจะหนาวๆ แต่ก็สบายค่ะ ถ้าจิตใจเราเป็นสมาธิเราก็ข่มความเจ็บปวดเหล่านี้ได้ หนูเคยบอกกับใครๆ ว่า สุขภาพหนูไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าไม่ได้กรรมฐานคงป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลไปแล้วค่ะ แต่ทุกวันนี้อยู่ได้อย่างสบาย เหมือนกันค่ะพี่ดอกแก้ว ... ข้อคิดที่ว่าด้วยการนินทา คำพูดคำจาก็เป็นแค่ สมมติมายา แต่เราก็ยึดถือว่าเป็นจริงเป็นจัง และเราก็โกรธอย่างเป็นจริงเป็นจัง เมื่อโกรธเราก็ยึดว่า เราโกรธ คนอื่นทำให้เราโกรธ ทำให้เราเดือดร้อนใจไม่สิ้นสุด ทั้งที่ไม่ได้มีผลกับเรามากมายอะไรเลย ...... แต่เราก็อดยึดถือเป็นของๆ เราไม่ได้เนาะ เรารักมัน เราหลงมัน เราจึงต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของมัน เมื่อวานนี้ ไปกราบครูบาอาจารย์ที่สอนกรรมฐานมา บอกท่านว่า หนูขอพรให้หนูดับคลายรำคาญใจสักทีนะเจ้าคะ ท่านตอบว่า แทนที่จะไปแก้ความรำคาญใจที่ภายนอก เราหาอุบายดับความรำคาญใจภายในดีกว่า แล้วปัญญาเราจะเกิดพอที่จะแก้ไขปัญหาภายนอกได้ จริงของท่านค่ะ ... อุปาทาน คือ ความยึดถือ ก็ยังเกี่ยวคล้องแน่นอยู่ภายในใจยากที่จะถอดถอน ถ้าเรายอมรับสิ่งจริงไม่ได้ ...... อุปกิเลสตัวใหญ่ๆ หลายตัวพร้อมจะเล่นงานเราในยามที่สติเราไม่มั่นคงนะคะ ขอความสงบสุขภายในจิตใจที่สว่างไสวจงบันเกิดในคนทุกคน ขออนุโมทนาบุญพี่ดอกแก้วอันเป็นที่รัก หอมกลิ่นความดีงามและเมตตาธรรมของพี่ดอกแก้วกำจายมาสู่ความรู้สึกอย่างเสมอที่คิดถึงค่ะ : )
30 ตุลาคม 2548 10:58 น. - comment id 530154
เขานินทาว่าเราเป็นเจ้าชู้ เพียงนึกรู้ในใจไว้นิ่งเฉย ช่างปะไรน้ำคำย้ำเปรียบเปรย คนคุ้นเคยรู้เช่นเราเป็นไง.... พอเห็นหน้าเขาก็บอกว่า คนคุ้นเคย อิอิ แสดงว่าเขาเข้าใจ
25 ตุลาคม 2548 10:48 น. - comment id 530719
สวัสดีค่ะ พี่ดอกแก้ว แม้ใครจะว่าร้ายคอยป้ายสี ข่มฤดีให้เย็นไว้เป็นนิ่งเฉย อย่าเอาคำคนพูดบ่นใส่ในเลย และอย่าเอ่ยตอบกลับรับอารมย์ เขาจะว่าอย่างไรอย่าไปสน คำของคนมีมากหากแต่ข่ม แล้วแต่เขาพูดไปสิ่งโสมม อย่าไปตรมกับคนบ่นพร่ำอยู่ร่ำไป.... สวัสดีค่ะ พี่ดอกแก้ว... รักษาสุขภาพนะคะ สดชื่นสดใสในวันทำงาน และตลอดไปคะ....
25 ตุลาคม 2548 11:07 น. - comment id 530726
คำนินทาคือวจีคอยยีย่ำ มาตอกย้ำแต่งปรุงให้ยุ่งเหยิง หากหูเบาใจจะหม่นจนกระเจิง ดุจพระเพลิงแผดเผาเข้าสุมทรวง ใช้สติไตร่ตรองพิจารณา ใช้ปัญญาหาเหตุผลจนลุล่วง เพียงแค่คำนินทาหูอย่ากลวง จะติดบ่วงของเขานั่งเศร้าใจ มาเยี่ยมเยียนมิเคยขาด
25 ตุลาคม 2548 12:24 น. - comment id 530743
ไม่เห็นแปลกหากใครนินทาให้ น่าดีใจซะอีกคนพูดถึง ทำให้เรารู้เราอีกด้านหนึ่ง ได้รู้ซึ่งตัวตนต่างสายตา พิจารณาตามนั้นนั่นจริงไหม ก็คงรู้อยู่แก่ใจอย่าถือสา หากเป็นจริงดั่งคำเขานินทา พัฒนาตัวตนให้พ้นความ ******************* หอมหวนกลิ่นดอกแก้วรันจวนจิต ชวนให้ติดตราตรึงรำพึงหา ยิ่งได้เห็นยิ่งหลงดลใจมา ปรารถนาซึมซับซาบซึ้งกลอน
25 ตุลาคม 2548 13:21 น. - comment id 530752
การนินทากาเลเหมือนเทกรด เข้าราดรดจิตใจให้หมองศรี ช่างกัดกร่อนรอนลึกถึงชีวี บั่นศักดิ์ศรีทั้งชีวีมิปลิดปลง. แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2548 13:47 น. - comment id 530755
เพียงแค่ใจสงบนิ่งก็จะไม่ได้ยินเสียงนินทาใดๆไช่มั้ยคะพี่ดอกแก้ว
25 ตุลาคม 2548 10:36 น. - comment id 530819
ในบางครั้งก็พบลมไต้ฝุ่นเอาเหมือนกัน ......วันนี้คิดได้...เพราะธรรมะดับใจ ดับไฟ...โทสะ... สิ่งริษบาอาฆาตบาดหมางน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้ ... ขอบพระคุณพี่ดอกแก้ว ที่ให้ข้อคิดให้ใจเย็น มนุษย์เรามีภาระหน้าที่การงานมากมาย ในชีวิตประจำวัน มิจำเป็นต้องมาประหัตประหารกัน ด้วยคำนินทา ขอบพระคุณในบทกลอนสอนใจเช้านี้ค่ะ
25 ตุลาคม 2548 10:45 น. - comment id 530823
ป.ล.อีกหนค่ะพี่ดอกแก้ว ขออภัยที่เมื่อวานอาจรุ่มร่ามไม่เรียบร้อย แต่เพิ่งขนของขึ้นบ้านเสร็จสักพัก เดี๋ยวก็ ต้องไปดูแลที่คอนโดอีกหลายอย่าง... คุณลูกสาวเธอทำความสะอาดห้องมากไปหน่อย..ถึงแก่เป็นไข้ตัวร้อนในเช้านี้ อีกสักพักก็จะไปดูแลและอาจไม่ได้เข้าอีกหลายวันก็เป็นได้ค่ะ ฝากข้อความไว้ที่นี่ด้วยระลึกและเคารพเสมอค่ะ
25 ตุลาคม 2548 10:47 น. - comment id 530824
ช่ายเลย..งานประจำก็มากอยู่แล้ว จะเก็บคำพูดคนอื่นมาคิดให้เปลืองเนื้อที่สมอง เพื่อบั่นทอนตัวเองทำไมกัน.. สวัสดียามเพลค่ะ พี่ดอกแก้วและพี่ทิกิ..
26 ตุลาคม 2548 09:29 น. - comment id 530910
ห้ามคนไว้ไม่ให้ ................ หลับนอน ห้ามโอษฐ์อันอรชร ............ ขยับอ้า ห้ามท้องอย่าถ่ายตอน ........ ปั่นป่วน ห้ามเหล่านี้ทั่วหน้า ............. จึ่งห้ามนินทา ฯ
26 ตุลาคม 2548 09:34 น. - comment id 530912
สวัสดีครับ อิอิ .. ลืมทักทาย
26 ตุลาคม 2548 00:26 น. - comment id 531010
กลอน+คอมเม้นท์ต่าง ๆ อัลมิตราอ่านหลายรอบ ค่อย ๆ คิดตามไปด้วย เห็นจะจริง ในเรื่องของคำนินทา.. โดยมากแล้ว คำนินทาย่อมเกิดขึ้นหากกล่าวถึงบุคคลที่สาม ที่ไม่ได้อยู่ร่วมวงสนทนา แต่บางที ข้อสนทนาถูกเบี่ยงเบนไปโดยสิ้นเชิง และถูกนำไปกล่าวพาดพิงในครหา ข้อสนทนาส่วนดีกลับไม่กล่าวถึง กล่าวถึงแต่ส่วนไม่ดี แถมต่อสร้อยสร้างเรื่องผูกความไปมากมาย หากจะบอกว่า ผู้ที่ต่อยอด ต่อยอดด้วยความไม่สุจริตใจ หรือก่อการอื่นคงเป็นสิ่งที่ ละ ไม่ได้ในความคิด ผู้ต่อยอดประสงค์ใดกันหนอ ? น่าคิด ผู้รับฟังจะพิจารณาได้ถ่องแท้แค่ไหน ? ก็น่าคิด ธรรมอีกข้อที่จะเรียนถามพี่ดอกแก้ว .. จะทำเช่นไร หากคำอธิบายใด ๆ ถูกประเมินให้เบาดุจปุยนุ่ย ไม่อาจทานคำพิพากษาซึ่งหนักสาหัสนัก ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
25 ตุลาคม 2548 16:12 น. - comment id 533851
@... คุณทิกิ... ดีใจที่ได้อ่านความคิดเห็นนี้ค่ะคุณทิกิ เพราะเวลาจะมีค่า เวลานั้นต้องประกอบไปด้วยปัญญา อย่าเสียเวลามาสู้รบปรบมือกับเรื่องไร้สาระเหล่านี้เลยนะคะ ยังมีหน้าที่การงานที่รอเราไปจัดการให้เรียบร้อย..และน่าจะมีผลคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป ขอบพระคุณแทนคุณวยุรีด้วยค่ะ ที่ไปร่วมงานเมื่อวานนี้ เพราะทราบว่ามีธุระมากแต่ก็ยังมีน้ำใจไปร่วมงาน ทั้งที่ระยะทางก็ไกล ขอให้คุณทิกิมีแต่ความสุขใจ ไร้อุปสรรคทั้งปวงในกิจการงาน และขอให้คุณลูกสาวหายป่วยเร็วๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่แวะเข้ามาคุยกัน
25 ตุลาคม 2548 16:13 น. - comment id 533854
@...น้องกุ้ง... การทำร้ายกันด้วยทำพูด.. หากไม่เท่าทันแล้วก็จะทำให้เกิดสงครามที่มากกว่าน้ำลายตามมา ที่นอกจะเหม็นคละคลุ้งแล้ว ยังทำให้เสียเวลาในการทำสิ่งที่ดี..ให้มีมากขึ้นต่อไป ที่สุดแล้วก็ไม่มีผลดีกับใครเลย สวัสดียามเย็นค่ะน้องกุ้ง..
25 ตุลาคม 2548 16:14 น. - comment id 533855
@...น้องมะกรูด... เรื่องป้ายสีมีมากหากจะป้าย ความคิดร้ายมีเยอะเปรอะไปทั่ว อยู่ที่เราไม่เข้าไปเกลือกตัว สีทาทั่วก็ไม่เลอะมาเปรอะใจ ธรรมดาพาทีย่อมมีพิษ มาเปื้อนจิตเพราะกิเลสเหตุผลักไส หากโมโหโกรธาในคราใด ก็สุมไฟใส่ฟืนยื่นให้กัน เป็นเช่นนี้มีมานานแต่กาลเก่า อยู่ที่เราสงบใจไม่หุนหัน คำนินทานั้นมีทุกวี่วัน และคนถูกนินทานั้นก็มากมาย สวัสดีค่ะน้องมะกรูดที่น่ารัก... วิกฤตบางอย่างในบ้านหลังนี้ พลอยลุกลามมาถึงพี่ดอกแก้วโดยไม่คาดคิด... แต่ก็ไม่น่าตกใจอะไร ได้แต่ขอบคุณผู้หวังดีที่ออกมาปกป้องในเบื้องต้น และได้ขอร้องให้วางมือจากความหวังดีทั้งปวง..เพื่อความสงบสุขของใจเขาเอง กลอนบทนี้จึงเขียนไว้เป็นที่ระลึกแด่ผู้หวังดีท่านนั้น ขอบคุณที่แวะมาอ่าน และเขียนไว้อย่างน่าอ่านมากเลยค่ะ
25 ตุลาคม 2548 16:15 น. - comment id 533857
@...มนต์กวี... หากหูกลวงปวงถ้อยจะร้อยจิต ให้ผูกติดตัวตนจนถือสา แม้นไม่จริงก็ไม่นิ่งกับวาจา ต้องออกไปเข่นฆ่ากันสักคราว หากกำหนดจรดใจเพียงได้ยิน ก็หมดสิ้นปัญหาการสืบสาว คำของพระหมดจดหมดเรื่องราว ฟอกจิตให้สกาวด้วยพระธรรม สวัสดีค่ะมนต์กวี... มาเยี่ยมมิเคยขาดจริงๆ ...ขอบคุณในน้ำใจงามของน้องชายคนนี้ด้วยค่ะ และบทกลอนที่ให้แง่คิดทุกคราวที่มาเยือน..ขอบคุณมากนะคะ
25 ตุลาคม 2548 16:16 น. - comment id 533858
@...ซาบู... เป็นมุมมองของผู้รู้ประโยชน์ ในสิ่งโทษมีสิ่งดีที่สร้างสรรค์ เป็นกระจกบานใหญ่ส่องให้กัน แม้การส่องเช่นนั้นจะบาดตา หากรู้มองจ้องไปให้จะแจ้ง พ้นแสลงไร้ซึ่งความถือสา แต่หลักใหญ่กลับใจมาพิจารณา เป็นจริงดังเขาว่าหรืออย่างไร หากมิใช่ก็อย่าไปเสียเวลา มองสิ่งที่ไร้ค่าไร้สดใส กลับมามองใจตนที่เป็นไป ว่านิ่งไหมในเรื่องราวอย่าท้าวความ สวัสดีค่ะซาบู... เป็นบทกลอนที่ให้มุมมองใหม่ที่ดีจัง ดีใจที่ได้พบกันที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว... ความสุขอย่างหนึ่งที่พี่ดอกแก้วมาอยู่ตรงนี้ ก็คือ ได้เขียนสิ่งที่ดีๆที่เคยได้รับมาจากครูบาอาจารย์มาฝากไว้ให้น้องๆอ่าน ...อย่างสุขใจ วันเวลาที่ผ่านไป..หมายฝากไว้เพียงความปรารถนาที่งดงามระหว่างกันเท่านั้น ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ...
25 ตุลาคม 2548 16:17 น. - comment id 533859
@...แก้วประเสริฐ... การนินทาพาใจให้คุกรุ่น ไร้ความเย็นละมุนเพราะโทสา ยิ่งอยู่ร่วมกับผู้ชอบนินทา ถ้อยวาจายิ่งกระจายประกายไฟ บางครั้งลวกทำร้ายไปไกลแสน ข้ามเขตแดนของจิตผู้อ่อนไหว เชื่อสะพานสานใจเข้าสู่ใจ เป็นเรื่องใหญ่ไม่สิ้นกลิ่นนินทา สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ.. ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ..
25 ตุลาคม 2548 16:18 น. - comment id 533860
@...น้องโซดา... ต่างกันไหมในเสียงใครที่พร่ำบ่น เทียบกับเสียงลมฝนที่คลุ้มคลั่ง ไม่ต่างเลยหากคิดอย่างจริงจัง เป็นเสียงดังให้รู้ที่หูเรา แต่ที่ต่างสร้างเรื่องให้เปลืองใจ เพราะจำไว้ในถ้อยจากปากเขา เอามาคิดมาค้นจนมึนเมา เลยต้องเศร้าเพราะยึดติดคิดไม่เป็น สวัสดีค่ะน้องโซดา.. หากรู้จักสงบนิ่ง..เสียงนินทาหรือเสียงใดๆ ก็ไม่สามารถทำให้เราสะดุ้งสะเทือนได้ โดยเฉพาะความสงบที่มีพระธรรมมาคุ้มครองใจ ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
25 ตุลาคม 2548 18:17 น. - comment id 533880
ไม่ควรพูดถึงใครในแง่ลบ จะอยู่อย่างสงบจบความเห็น ไม่พูดล่วงเกินใครในประเด็น จะอยู่เย็นเป็นสุขมิทุกข์ใจ เรื่องของคนอื่นไหนไยต้องห่วง ไยต้องล้วงลึกต่อข้อคำไข เพียงรับรู้นิดหน่อยเปล่อยวางไว้ หากเผลอไปต่อตามลามถึงตัว สวัสดีค่ะคุณดอกแก้ว....ดีใจที่พบที่นี่ค่ะ...คงสบายดีนะคะ
27 ตุลาคม 2548 19:50 น. - comment id 534148
@...ทานทองคำ... ใช่เลยค่ะ..ที่ทุกคนล้วนถูกนินทา แต่ไม่ทุกคนที่จะนินทาใคร.. เป็นคนถูกกระทำย่อมดีกว่าทำร้ายผู้อื่นนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
26 ตุลาคม 2548 10:44 น. - comment id 534412
เหมือนห้ามไปมิให้มีควัน.... ***แวะมาอ่าน ผ่านมาเยี่ยมครับพี่ดอกแก้ว...
25 ตุลาคม 2548 21:24 น. - comment id 534467
พี่ดอกแก้วคะ อ่านงานพี่แล้วรู้สึกดี มีกำลังใจขึ้น ค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
8 พฤศจิกายน 2548 20:13 น. - comment id 536500
26 ตุลาคม 2548 19:46 น. - comment id 536737
ทุกคนในโลกล้วนถูก นินทา