หัวใจยังรู้จักคำว่ารัก
เสือยิ้มมุมปาก
เมื่อคืน..
ฉันอีกแล้วล่ะที่ทำให้หล่อนต้องเจ็บปวด
ทั้งร่างกายและจิตใจ หรือ มากกว่านั้น..
มิอาจรู้ได้
เป็นเพียงความเลินเล่อของฉันแท้ๆ
หล่อนเจ็บกาย..แต่น้ำจากเบ้าตาฉันซึมปริ่ม
ฉันร้องไห้ - -
แม้ฉันมิได้กระทบกระเทือนสักกระผีก
แต่ใจฉันนี่สิ..
มันอาจจะกลับกลายเป็นก้อนเนื้อดิ้นได้ ที่เป็นริ้วๆ
เหมือนตับเป็ดในหม้อต้ม .. ก็เป็นได้
มันเจ็บร้าวหลายเท่ากว่ากันนัก
จากบทกวี "ชีวิตกูที่มิใช่ของกู"
แสดงออกถึงความอหังการแห่งชีวิต
ยิ่งใหญ่บนความย่อยยับ - -
เมื่อคืน..
ฉันเห็นความทรมานของหล่อนคนหนึ่ง
ซึ่งเกิดจากฉัน..
ฉันร้องไห้ .. ฉันเสียใจ .. ฉันโกรธตัวเอง
และเกลียดตัวเองยิ่งนัก
ดวงตาส่องประกาย ภายใต้โคมแสงจันทร์ที่เยื้องหน้าระเบียง
ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บความอ่อนแอไว้
ซ่อนไว้ภายใต้หัวใจหม่น
... ฉันรู้แล้วว่า ...
หัวใจฉันยังคงมีความรู้สึก
รู้สึกต่อคนที่ควรค่าแก่การู้สึก
.. ฉันยังเฝ้ามองปลายมือที่ช้ำเลือดของหล่อน
ด้วยใจที่ห่วงหา พะว้าพะวงยิ่งนัก
อย่าว่าแต่นอนเลย
แม้แต่จะกระพริบตา ยังไม่กล้า
ฉันลูบแขนอันไร้แรงของหล่อนแล้ว
น้ำตาก็เอ่อท้นรอบดวงตา
ผันหน้าหนี..
ทั้งที่ใจยังกอดรักแขนและใจของหล่อนไว้ด้วยรัก
... ....
...............
ฉันรักหล่อนคนนี้เกินกว่าจะบอกให้ใครรู้ได้
แม้แต่ตัวฉันยังไม่เคยรู้เลยว่า - - รัก
ตอนนี้ ..
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้ว
รู้สึกเลยว่า ไม่มีมือของใครจะอบอุ่นและน่าสัมผัส
เทียบเท่ามือของหล่อนได้อีกแล้ว
หาใช่มือที่เนียนนุ่ม
แต่กลับเป็นริ้วรอยแห่งกาลเวลา
เติบโตเป็นความหยาบกร้าน
อยากกระซิบเบาๆด้วยหัวใจที่ลิงโลด..
ัรักนะ - - รักด้วยหัวใจที่บอกได้เลยว่า
รักแม่ 'เกินกว่าคำว่ารัก . . .