โอปนะยิโก
ทรายกะทะเล
-----ความรู้ในความจริง (สัจจญาณ - truth) หมายถึงความรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่จะแยกแยะ สัจจะอาริยะ ออกจาก สัจจะโลกียะ ให้ได้ เพื่อเลือกที่จะพัฒนาตนให้อยู่เหนือ อำนาจของ กิเลส ตัณหา และอัตตา ผู้เรียนเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง และมี ความมั่นใจ (เกิดสมาธิ) ในวิถีชีวิตที่พึ่งตนเองได้ ยินดีที่จะ ลดละ ขัดเกลา สิ่งที่ไม่ดีของตัวเองให้บริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้น
------ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่เรียกว่า สุข มีแต่ความทุกข์ (ทุกข์ แปลว่า สิ่งที่ทนอยู่ไม่ได้ มันเกิดขึ้น ดำเนินอยู่แล้วก็สูญสลายไปในที่สุด) ความจริงแล้ว สิ่งที่เรียกว่าความเย็น ก็คือ สิ่งที่ร้อนน้อยนั่นเอง ในทำนองเดียวกัน สิ่งที่เรียกว่าร้อน ก็คือ สิ่งที่เย็นมาก
---------- ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่า สุข จึงไม่มีตัวตน คนต่างหากที่ไปหลงยึดมันว่าเป็นตัวเป็นตน ทุกครั้งที่ตั้งใจลดละ ขัดเกลาความอยาก จะทำให้เกิดความเจ็บปวดบ้างในตอนแรก หากแต่เป็นความเจ็บปวดที่เกิดจาก ความเคยชินของจิตใจที่ถูกครอบงำจากอำนาจของสิ่งชั่วร้าย (กิเลส ตัณหา อัตตา) ดังนั้น ความทุกข์ที่เกิดขึ้น จึงเป็นเพียงภาพมายา ที่หลอกให้ผู้คนเกลียดชัง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน เมื่อคนผู้นั้นอยู่เหนือ หรือพ้นจากทาสของกิเลส ตัณหา อัตตาดังกล่าวได้มากเพียงใด ตนก็จะไม่ต้องทุกข์ (ตามที่รู้สึก) มากขึ้นเท่านั้น และก็จะเกิดภาวะอย่างหนึ่ง (ที่ไม่ต้องทนยากทนลำบากอีกต่อไป) เรียกว่า สุข ความจริงไม่ใช่ ความสุข
-------------ที่แท้จริง (ความสุขไม่มีตัวตน ดังที่กล่าวไปแล้ว) แต่เป็นภาวะอย่างหนึ่งของคนผู้นั้น คนผู้นั้นย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง ใครก็รู้แทนไม่ได้ และก็ไม่มีใครจะเอา มาตรา ใดไป วัด ได้ เพราะแม้แต่สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นเจ้าของทฤษฏียังไม่ทรงตัดสินใจด้วยพระองค์เองเลย
------------ทรงตรัสว่า เอหิปัสสิโก โอปนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ แปลว่า ผู้นั้นย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง (ว่าตนพ้น ทุกข์ ได้มากน้อยเพียงใด) ก็เป็นความจริงของผู้นั้นเอง
-ขออนุญาตินำมาเป็นวิทยาทานให้กับคนที่เป็นทุกข์นะคะ
เผื่อ จะได้มีความสุขกันในวันขึ้นปีใหม่ที่จะถึงนี้ทุกคนนะคะ
อย่าลืมนะคะ
แม่และพ่อ เป็นพระในบ้าน
รักท่านให้มากที่สุด