อาบแสงสุนทร์อรุณรุ่งทุ่งบ้านนอก คืบวาศอกหมอกหนาพร่าวิสัย ไม่เลิศล้ำดำรูหรูวิไล แค่ป่าไรเรือกนาหญ้าและดิน มีไร่อ้อยห้อยนั่งร้านอยู่ด้านซ้าย อีกวัวควายธารเลาะเซาะโขดหิน ส่งสำเนียงเสียงสุโนกพิหคบิน นี่คือกลิ่นถิ่นสวรรค์แดนบ้านนา กองฟางอาบสาบควายอยู่ท้ายทุ่ง นกกระทุงพุ่งซัดกินมัจฉา กระยางแย่งแซงกระทุงกินพุงปลา มัสยาแยกย้ายว่ายหนีกัน กระจอกสิบกระจิบบินกระถินสด กระดี่โลดกระโดดเล่นเป็นสีสัน งูหลามเอื่อยเลื้อยโอบทบเถาวัลย์ กระบกว่านกระวานนุ่นสมุนไพร ใรเสียงเขื่องเครื่องยนต์มลพิษ มีเพียงวิทยาการที่คันไถ ไร้อุตสาหการและควันไฟ มีเพียงกลิ่นดอกไม่ให้ดอมดม พอค่ำไปไร้แสงพร่าให้ตาแสบ ในวงแคบมีแสงเพียงตะเกียงห่ม ไม่มีคิดริษยาในอารมณ์ มีเพียงร่มเงาเงื้อเอื้ออาทร สิ่งเหล่านี้ที่เห็นเป็นสุขสูง ที่ชาวกรุงมุ่งหาอุทาหรณ์ อาจเหนื่อยกายแต่ใจไม่วิงวอน เป็นบทกลอนซ่อนความคิดชีวิตนา มีความสุขอยู่ได้ใต้ความเงียบ บนความเรียบชีวิตนี้ก็มีค่า แค่เรียบง่ายไม่ใหญ่โตตระการตา ไม่ต้องหาสุขนี้มีในใจ.......
3 มิถุนายน 2547 23:52 น. - comment id 279659
ธรรมชาติบ้านนาช่างนาอยู่ ทั้งปลาปูมีไว้ให้สรรหา มากินได้ทุกวันไม่เบื่อระอา จึงทำให้บ้านนาน่าอยู่จัง *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบจัง แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ*-*
3 มิถุนายน 2547 23:57 น. - comment id 279662
แต่งได้ดีและไพเราะมากเลยคับ.... แวะมาทักทายคับ...