อ้าวว้างว่างเปล่าเหงาเศร้าสร้อย ใจละห้อยด้อยแรงฝืนจะยืนหวัง โดดเดี่ยวเดียวดายเพียงลำพัง เท้าประทังมือหยั่งพื้นยืนเดียวดาย นี่นะหรือคือพรากลาจากกัน น้ำตามันหลั่งไหลไปสุดสาย ครวญคร่ำพร่ำหาไม่วางวาย ใจสลายหมองหม่นดังมลทา มันร้าวรวดปวดใจไม่สร่างสา ทุกครั้งคราพาใจหวนที่ครวญหา เหมือนดังมีดกรีดฤทัยไม่ร้างรา ซ้ำอุรามาย้ำเติมแผลเดิมเรา วันแล้ววันเล่าเจ้าผันผ่าน นานแสนนานผ่านผันจากวันเก่า เหมือนรอยมีดกรีดใจไม่บรรเทา ยังคงเฝ้าตอกย้ำใจให้เศร้าตรม กลายเป็นแผลแต่อดีดคอยตามติด ในดวงจิตติดในใจให้ขื่นขม เหมือนนกรู้ดูความคิดในอารมณ์ นำเราจมสู่วันเก่าที่เหงาใจ ทุกคืนค่ำจำขมขื่นตื่นตระหนก ดังฝันตกในวันวนไม่พ้นได้ ภาพเก่าเก่าปรากฎเห็นชัดเจนฤทัย ยากหนีได้ให้กลืนกล้ำจำเศร้าทรวง คงเหลืออยูคือกายใจมันสิ้น ไม่ยลยินสิ้นรู้สึกตรึกตรองห่วง รอสิ้นใจไปจากทุกข์ในใจดวง จะได้ล่วงดับดิ้นสิ้นเสียที
19 พฤศจิกายน 2546 23:10 น. - comment id 183185
@เมื่อใจทุกข์สุดรันทดสลดจิต วัฎจักรแห่งชีวิตที่เศร้าหมอง ทุกวิถีโถมดวงใจผิดทำนอง ตามครรลองกฏแห่งกรรมที่ทำไป
20 พฤศจิกายน 2546 00:50 น. - comment id 183207
วันหนึ่งคือวันนี้ เป็นวันที่เราสิ้นลม ใจเราเศร้าระทม เอาพัดลมไปซ่อมเอย ************************** ************************** ^_^
20 พฤศจิกายน 2546 10:22 น. - comment id 183228
แผลเป็นมันหายยาก ต้องใช้ระยะเวลารักษา..
20 พฤศจิกายน 2546 12:48 น. - comment id 183272
สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกหล้า เมื่อเกิดมาแล้วต้องดับลงยับหาย ทั้งสิ่งของอารมณ์และร่างกาย ทุกข์ไปใยปล่อยจิตว่างทางสายกลาง ท่านพุทธทาสสอนไว้ในทำนองว่า จิตเราเหมือนผ้าขาว อารมณ์ต่างๆไม่ว่ารักโลภโกรธหลงเข้ามากระทบก็เหมือนฉายหนังเขามาที่จอ เมื่อเลิกฉายจอก็เป็นผ้าขาวเหมือนเดิมไม่มีอะไรติดอยู่ถ้าเราทำจิตได้อย่างนั้นก็ไม่มีทุกข์ อิอิ
20 พฤศจิกายน 2546 16:39 น. - comment id 183331
อยู่อย่างเข้าใจในโลกดีกว่านะค่ะ อย่ารอแต่วันสิ้นลมเลยค่ะ มันน่าหดหู่จัง
21 พฤศจิกายน 2546 01:08 น. - comment id 183440
ความอ้างว้างอยู่กับความรู้สึก และยังปิดผนึกความชอกช้ำ มีแต่ทุกข์ไม่มีสุขในการกระทำ แล้วเมื่อไหร่จะหมดเวรกรรมเสียที *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชอบอีกแล้วด้วยคะ*-*