ต้องพลิกฟื้น ชีวา ผืนนาไร่ พัฒนา ขึ้นใหม่ ให้เหมาะสม หญ้าขึ้นรก ปรกนา มิน่าชม ลอกโคลนตม ก้นบ่อ น้ำก็มี เตรียมหาควาย กำยำ ไถดำหว่าน เรื่องการงาน เราขยัน ขมันขมี แม้เหงื่อกาฬ ไหลรวม ท่วมกายี ทั้งชีวี นี้อยู่ เพื่อสู้งาน บ้านทรุดโทรม ลมพา หลังคาหลุด ก็รีบรุด เอาจากมุง มุ่งประสาน เปลี่ยนเสาผุ ต้นเดิม เสริมนอกชาน เกลี่ยดินลาน นวดข้าว เอาอย่างเดิม เกวียนเล่มเก่า กงหลุด รีบรุดซ่อม เปลี่ยนคอกล้อม เสียใหม่ ใช้ไม้เสริม แอกมันหัก ก็หา มาเพิ่มเติม พอฝนเริ่ม โปรยลง นาคงคืน เป็นไร่นา สวนผสม น่าชมนัก ปลูกพืชผัก พันธ์ไม้ ให้ร่มรื่น ขุดบ่อปลา เล้าไก่ ให้กลมกลืน เร่งพลิกฟื้น พื้นที่ นี้เร็วไว แต่ตกค่ำ ลมครวญ ก็หวนคิด ถึงชีวิต ครั้งก่อน ตอนสดใส คิดถึงเจ้า คนดี ที่จากไกล นึกคราใด ความเศร้า ก็เข้าเยือน พลายแก้ว กาญจนบุรึ
19 กุมภาพันธ์ 2555 22:30 น. - comment id 1225163
ขอบคุณตาไร้แววที่สงสาร มีเพียงผลงานเก่าของเธอ เพราะเธอจากไปแล้ว
19 กุมภาพันธ์ 2555 16:13 น. - comment id 1225363
ภวังค์แว่วไผ่เสียดกอล้อลมหนาว นึกถึงคราวเคยเคียงคู่อยู่หว่านไถ พี่ทิด(พลาย)ชี้ชวนชมข้าวแตกใบ กลิ่นกล้าใหม่ลอยประสม โคลนตมเลน แอบมองไหล่แผ่กว้างช่างแกร่งนัก เป็นเสาหลักพักชีวายามยากเข็ญ โอบไออุ่น อิงกาย ชายชัดเจน ยืดอกเด่น ข้านี่หรือ คือชาวนา เคียงเจ้าทุยเพื่อนแท้มิแปรเปลี่ยน ซ่อมกงเกวียน แอกคันไถให้แน่นหนา ร้อนฝนหนาววนเวียนเจียนเวลา สวนไร่นา ผลิผลดอก ออกเต็มแปลง ด้วยหยาดเหงื่อซึมกาย หลายหยดท่วม รินหลั่งรวม ล้างใจให้เข็มแข็ง เพ่งมองผืน ทุ่งนา ที่ลงแรง พลีกายแกร่ง ขอพลิกฟื้น ผืนดินไท ภวังค์แว่วเสียงลมครวญจวนพลบค่ำ หวลถึงคำ วลีขาน หวานสดใส พี่เคยพร่ำพรอดเพียง เรียงร้อยใจ แม้พิมไกล ไห้หวน อยู่มิรู้ลืม ติดตามอ่านงานคุณพลายแก้ว มาตลอดเลยค่ะ....อ่านแล้ว เศร้าจัง เขียนงานออกมา อ่านแล้ว เหงา ว้าเหว่ อ้างว้าง แต่ เหมือนไม่เคยท้อ ...ได้ความรู้สึกจริงๆค่ะ ก็แอบลุ้นอยู่ว่า แม่พิมม่ะไหร่จาโผล่มา สักที แต่ก็ เงียบ เลย สวมรอยเป็น แม่พิม นิดนึง..อยากให้กำลังใจนะคะ.... สู้ๆน๊าค๊า...อาจสื่อธรรมชาติทุ่งทุ่งนา ไม่เนียนนะคะ เพราะกลางกรุง ไร้ทัศนียภาพที่กระตุ้นอารมณ์สุมทรีย์ น่ะค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2555 10:59 น. - comment id 1225377
เสียใจด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆนะคะ