อันคนเราเท่านี้แหละที่ว่า มีสองมือสองขาสองตานั่น มีหัวใจเต็มหวังเป็นรางวัล เพื่อเสกสรรค์ชีวิตเช่นคิดไว้ แม้ต้องการสิ่งใดในหล้าแหล่ง เพียงลงแรงใช่จักยากคว้าไขว่ สูงเสียดฟ้าต่ำลงดินถิ่นใกล้ไกล ก็คงได้ใคร่ชิดสนิทนาน ด้วยสองมือสองเท้าเร่งเข้าสู้ เรียนและรู้ทุกข์สุขสนุกสนาน สัมผัสแดดสัมผัสฝนทนกรำงาน ให้ซาบซ่านถึงค่าราคาคน มีความหมั่นเพียรก่อเป็นบ่อเกิด ปลูกความรู้ชูเชิดเป็นดอกผล อดทนเลี้ยงชีพชอบกอปรกมล ลิขิตตนหมดสิ้นด้วยยินดี ชีวิตเราคงอยู่คู่กับโลก ใช่เพราะโชคชะตากรรมนำวิถี หากเป็นเพราะเลือกลิขิตด้วยฤทธี ให้สดศรีฤาหมองไหม้ดั่งใจเรา
24 กุมภาพันธ์ 2554 22:28 น. - comment id 1177348
เป็นคำกลอนที่เขียนได้ไพเราะและมีใจความดีมากค่ะ
10 กุมภาพันธ์ 2554 12:13 น. - comment id 1184380
ข้าขอลิขิตชีวิตข้า ตราบสิ้นพสุธาตามรอยฝัน ทางสายหนึ่งแสนงามมหัศจรรย์ ทางสายนั้นมีพระพุทธาทรงนำทาง...
10 กุมภาพันธ์ 2554 13:40 น. - comment id 1184398
อยากจะขอลิขิตชีวิตเอง อยากบรรเลงเพลงสุขทุกขณะ พร้อมด้วยใจไม่มีที่ลดละ คงจะดีและอาจจะมีเพิ่มพูน แต่บางครั้งลิขิตกรรมทำเราเป็น ให้ทุกข์ยากเยือกเย็นลำเค็ญสูญ ยากจะหาสิ่งใดมาเกื้อกูล ให้อาดูรก้มหน้าชะตาตัวเอง
10 กุมภาพันธ์ 2554 17:25 น. - comment id 1184440
11 กุมภาพันธ์ 2554 10:43 น. - comment id 1184464
.......... อยากลิขิตชีวิตตัวเองให้ได้ดังใจเหมือนกัน แต่ที่ตั้งใจไว้ยังไม่ได้ลงมือ และที่ไม่ได้ตั้งใจ บางทีทำไปแล้ว ไม่ค่อยมีจังหวะจะโคนในการดำเนินชีวิตเท่าไหร่คุณเปลวเพลิง ...................
11 กุมภาพันธ์ 2554 07:56 น. - comment id 1184478
นั่นนะซีครับ ผมถึงอยากทำอะไรตั้งหลายอย่าง จนสับสนไงครับ
12 กุมภาพันธ์ 2554 14:39 น. - comment id 1184524
เขียนได้ดีค่ะ