ยามชีวิตอ่อนล้าพาจมทุกข์ ดั่งติดคุกเดินวนจนมุมหมอง จะเหลียวหาใครเคียงเพียงประคอง เป็นแสงส่องสว่างใจไร้คนแล โอ้..ละหนอคนเราเมามัวนัก เดินเสียหลักเซซังพลั้งเป็นแผล หมดแรงใจสับสนจนอ่อนแอ อยากจะแก้รอยมัวในหัวใจ เพราะหลงคิดผิดเป้าเฝ้าแต่หวัง ใจจึงพังดังฝันอันอ่อนไหว รำลึกค่าตนด้อยน้อยเกินไป สิ่งมอบไปใครเล่าเขาต้องการ เหลิงหลงไยใจเอ๋ยเผยใจเถิด แท้จริงเกิดจากเหตุกิเลสฐาน ปรุงแต่งใจให้ท้อทรมาน พึงเล่นงานกิเลสเจ้าพาเมามัว ดับดีกว่ากองไฟเปิดใจกว้าง เปิดหนทางยอมแพ้แม้สิ่งยั่ว จะเย้ายวนเพียงใดให้นึกกลัว สิ่งใดชั่วหลีกห่างสร้างแต่ดี นี่แหละหนอหนทางกระจ่างแจ้ง ธรรมแสดงให้ประจักษ์รักศักดิ์ศรี เปิดทางตันเสียเถิดเกิดผลดี ขอชีวีเป็นสุขอย่าทุกข์ทน กันนาเทวี ๑๑ กันยายน ๒๕๕๓
11 ตุลาคม 2553 23:29 น. - comment id 1161553
ถึงยากก็ต้องพยายาม พยายามตัดกิเลส ให้หมดสิ้นไปครับ
12 ตุลาคม 2553 12:39 น. - comment id 1161604
ทำได้บ้าง บางครั้ง แต่ในบางครั้ง เฮ้อ...ยากจังค่ะพี่กันนา
12 ตุลาคม 2553 14:36 น. - comment id 1161622
สวัสดีจ้า.... แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงเจ้าค่ะ
12 ตุลาคม 2553 17:10 น. - comment id 1161638
ขอบคุณค่า คุณระพินทร์,น้ำตาลหวาน, whitelily เจริญสมาธิภาวนาค่า แยกแยะกายกับใจ เพราะทุกอย่างเกิดที่จิตดับก็ต้องดับที่นั่นด้วย ด้วยปัญญาอันเป็นแสงสว่างค่ะ
12 ตุลาคม 2553 17:58 น. - comment id 1161648
แวะมาสาธุครับป้า หลานป้าเอง
12 ตุลาคม 2553 18:07 น. - comment id 1161654
หวัดดีครับป้ากันนา มีมืดก็ต้องมีหนทางสว่างครับ
13 ตุลาคม 2553 10:46 น. - comment id 1161737
นี่แหละหนอหนทางกระจ่างแจ้ง ธรรมแสดงให้ประจักษ์รักศักดิ์ศรี เปิดทางตันเสียเถิดเกิดผลดี ขอชีวีเป็นสุขอย่าทุกข์ทน บทนี้ให้กำลังอย่างเด็ดเดี่ยวว่า จมปลัก ไปกับความทุกข์ ความต้องการ ไม่สิ้นสุด ก็จะต้องพบทางตันเข้าซักวัน จำต้องผ่า ทางตันนั้นออกมาให้ได้ ด้วย ธรรม อัน มั่นคง หนักแน่น. พี่ดอกไม้สบายดีนะครับ.
13 ตุลาคม 2553 21:55 น. - comment id 1161826
ขอบคุณคุณ สุริยันต์ คุณป๋อง คุณอรุณสุขค่ะ ป้าสบายดีค่า งานหนักก็พักตามระเบียบ อิอิ
14 ตุลาคม 2553 19:55 น. - comment id 1161994
เปิด แล้วก็โล่งนะครับ พี่ป้า อิอิ